Archives 2023

กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

การจัดพิธีปฐมนิเทศนิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่มีความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ)

ส่งเสริมการศึกษาเพื่อความยั่งยืน (SDG 4)

ในปีการศึกษา 2566 กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มอบ ทุนการศึกษา 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 146 ทุน โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1.12 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย:

  • กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 124 ทุน มูลค่า 1,000,000 บาท
  • ทุนการศึกษา รศ.ดร.แมรี่ สารวิทย์ จำนวน 2 ทุน มูลค่า 20,000 บาท
  • ทุนการศึกษาเพื่อนิสิตกิจกรรม จำนวน 20 ทุน มูลค่า 100,000 บาท

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการศึกษาในระดับที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนานิสิตให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นในตลาดแรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุกคน โดยไม่ให้การขาดแคลนทรัพยากรเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนการศึกษาเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการมอบทุนให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสได้เรียนต่อและพัฒนาทักษะการทำงานที่สำคัญ การให้ทุนดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตาม SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนา สามารถเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาตนเองได้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ

การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยการให้โอกาสแก่นิสิตในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และมีส่วนในการพัฒนาสังคมให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอนาคต นอกจากนี้ การมีทุนการศึกษาสำหรับกิจกรรมและกิจกรรมพัฒนาผู้นำ ก็เป็นการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันในชุมชน ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญในการสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมชมรมสถานีวิทยุ 10 สถานี พิษณุโลก จัดโครงการ ‘อุ่นกาย อุ่นใจ สายสัมพันธ์ ครั้งที่ 10’ ตรวจฟันฟรี สร้างสุขภาพที่ดีให้เด็กและประชาชนในพื้นที่ห่างไกล

วันที่ 20 ธันวาคม 2566 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับชมรมสถานีวิทยุ 10 สถานี พิษณุโลก ได้จัดโครงการบริการตรวจฟันและให้คำปรึกษาทางทันตกรรมฟรี แก่นักเรียนและประชาชนทั่วไป ภายใต้โครงการ “อุ่นกาย อุ่นใจ สายสัมพันธ์ ครั้งที่ 10” ณ โรงเรียนบ้านซำเตย ตำบลดินทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก โดยมีการให้บริการด้านสุขภาพช่องปาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารของจังหวัดพิษณุโลก

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ที่มอบหมายให้นายพงษ์มนู ทองหนัก รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ร่วมเปิดโครงการ พร้อมด้วยนายอัครโชค สุวรรณทอง นายอำเภอวังทอง และนายมนต์รัตน์ ปาลิวนิช ประธานชมรมสถานีวิทยุ 10 สถานี 12 ความถี่ จังหวัดพิษณุโลก ในการร่วมต้อนรับและสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ภายในโครงการ ซึ่งประกอบด้วยการให้บริการตรวจสุขภาพฟัน การให้คำปรึกษาทางทันตกรรม การมอบทุนการศึกษา การจัดหาอุปกรณ์การเรียนและกีฬา รวมทั้งการปรับปรุงซ่อมแซมโรงเรียนและจัดกิจกรรมสันทนาการเพื่อสร้างความสุขให้กับนักเรียนและประชาชนในท้องถิ่น

การจัดกิจกรรมนี้ยังสะท้อนถึงเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน การส่งเสริมสุขภาพที่ดี (SDG 3) และ ลดความยากจน (SDG 1) ซึ่งการให้บริการทางทันตกรรมฟรีนี้ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางการแพทย์ และส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดี นอกจากนี้ยังส่งเสริม การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (SDG 4) ผ่านการมอบทุนการศึกษาและอุปกรณ์การเรียนให้แก่เด็กนักเรียนในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้เด็กนักเรียนในพื้นที่ได้รับโอกาสในการศึกษาและพัฒนาทักษะชีวิตที่ดีขึ้น

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นการให้บริการตรวจฟันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชนผ่านกิจกรรมจิตอาสาและการบริการสาธารณะต่างๆ ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตในท้องถิ่น และช่วยสนับสนุนให้ชุมชนในจังหวัดพิษณุโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน

โครงการ “อุ่นกาย อุ่นใจ สายสัมพันธ์” เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนมาปรับใช้ในกิจกรรมเพื่อสังคม โดยการรวมพลังจากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน.

ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ประชุมวางแผนการรวบรวมข้อมูลการบริการวิชาการเชิงสาธารณะ

เมื่อวันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา งานพัฒนาเครือข่ายและจัดหาทุน กองส่งเสริมการบริการวิชาการ ได้จัดประชุมวางแผนการรวบรวมข้อมูลการบริการวิชาการเชิงสาธารณะของมหาวิทยาลัยนเรศวร ณ ห้องประชุมสำนักงานกองส่งเสริมการบริการวิชาการ อาคารเอกาทศรถ เพื่อกำหนดแนวทางการรวบรวมข้อมูลการบริการวิชาการเชิงสาธารณะของมหาวิทยาลัย และเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารมหาวิทยาลัยต่อไป โดยเบื้องต้นกองส่งเสริมการบริการวิชาการจะรวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานของกองฯ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ เป็นประธาน หัวหน้างานพัฒนาเครือข่ายและจัดหาทุน และบุคลากรของกองฯ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย

ที่มา: กองส่งเสริมการบริการวิชาการ

มหาวิทยาลัยนเรศวรชู “No Gift Policy” ตอกย้ำบทบาทองค์กรต้นแบบโปร่งใส

มหาวิทยาลัยนเรศวร (ม.นเรศวร) มุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบขององค์กรที่โปร่งใสและยุติธรรม ผ่านการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) และความรับผิดชอบต่อสังคม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 16) ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่มีความสงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่เข้มแข็ง

“No Gift Policy” เพื่อสร้างความโปร่งใสและต้านทุจริต มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินนโยบาย “งดรับ งดให้ ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิด รวมถึงประโยชน์อื่นใดจากการปฏิบัติหน้าที่” ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการทำงานในองค์กร เพื่อป้องกันการทุจริตและสร้างวัฒนธรรมแห่งความซื่อสัตย์สุจริตให้เกิดขึ้นในหมู่บุคลากรทุกระดับ นโยบายนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดคอร์รัปชัน และเป็นการสร้างความไว้วางใจต่อสาธารณะ

การบ่มเพาะค่านิยมด้านความยุติธรรมและการต่อต้านการทุจริต นอกเหนือจากนโยบายระดับองค์กร มหาวิทยาลัยยังมุ่งเน้นการสร้างค่านิยมและทัศนคติด้านความโปร่งใสและความยุติธรรมในกลุ่มนิสิต โดยจัดกิจกรรมเสริมสร้างจิตสำนึก เช่น การอบรมเกี่ยวกับจริยธรรมทางวิชาชีพ การประชุมเชิงปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาล และการปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนรุ่นใหม่สามารถนำค่านิยมเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตจริง

ส่งเสริมความรับผิดชอบในองค์กรและการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มหาวิทยาลัยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน รวมถึงมาตรการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใส พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งหน่วยงานและกลไกตรวจสอบภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานทุกระดับสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล

ผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในด้านการส่งเสริมความโปร่งใสและความยุติธรรม มีผลกระทบเชิงบวกต่อทั้งองค์กรและสังคมในวงกว้าง โดยเป็นตัวอย่างของการสร้างองค์กรที่เน้นการปกครองที่ดี (Good Governance) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่มหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นการสนับสนุนสังคมให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานที่ยุติธรรม

การเดินหน้าสู่ SDG 16 อย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นในการขยายผลนโยบาย “No Gift Policy” และกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต รวมถึงการเป็นต้นแบบในด้านการปกครองที่โปร่งใส เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และเพื่อสร้างสังคมที่สงบสุขและยุติธรรมสำหรับทุกคน.

ม.นเรศวร จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการเตรียมความพร้อมรับอุบัติภัยหมู่

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมสุขภาพและการสร้างชุมชนที่ปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับ SDGs 3 (การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDGs 11 (การทำให้เมืองและชุมชนมีความยืดหยุ่นและยั่งยืน) การจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การเตรียมความพร้อมรับอุบัติภัยหมู่” โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติในชุมชน

โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การเตรียมความพร้อมรับอุบัติภัยหมู่” เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การเตรียมความพร้อมรับอุบัติภัยหมู่” ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมเอกาทศรถ 9 ชั้น 3 อาคารสิรินธร โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี ผศ.พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ เป็นประธานในการเปิดโครงการ และ อ.พญ.ปาลีรั ฐ จริยากาญจนา แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งมีเป้าหมายในการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรในการรับมือกับสถานการณ์อุบัติภัยหมู่ หรือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

การจำลองสถานการณ์เสมือนจริง ในวันที่ 22 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 น. ได้มีการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง ณ แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงการเพื่อให้บุคลากรทุกหน่วยงานและทุกระดับได้เรียนรู้และฝึกฝนการทำงานร่วมกันในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้การจำลองสถานการณ์นี้เป็นการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ดังนี้:

  1. การเตรียมเครื่องมือและเวชภัณฑ์ การฝึกฝนในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นจำเป็นต้องมีการเตรียมเครื่องมือและเวชภัณฑ์ที่เหมาะสมและเพียงพอสำหรับการรักษาผู้ประสบภัย โดยการจำลองสถานการณ์ในครั้งนี้ช่วยให้บุคลากรได้ฝึกฝนการจัดการเครื่องมือและเวชภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การฝึกทักษะในการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติภัย บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนจะได้รับการฝึกฝนในการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและถูกต้อง ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถรับมือกับผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
  3. การประสานงานและการสื่อสารในทีม การสื่อสารที่ชัดเจนและการประสานงานที่ดีระหว่างหน่วยงานภายในและภายนอกโรงพยาบาลเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การฝึกฝนในครั้งนี้ได้เน้นการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการประสานงานระหว่างทีมต่างๆ ทั้งในระดับการแพทย์และการจัดการทรัพยากร
  4. การเตรียมความพร้อมสำหรับสถานการณ์จริง การฝึกในครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การทำให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล โดยมีการทบทวนกระบวนการต่างๆ ที่จะช่วยให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเหมาะสมและไม่เกิดการล่าช้า

การเชื่อมโยงกับ SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี การฝึกอบรมและการจำลองสถานการณ์เสมือนจริงในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับ SDGs 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมให้กับบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานต่างๆ ในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติภัย และทำให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดในเวลาที่สำคัญที่สุด

การเชื่อมโยงกับ SDGs 11: การทำให้เมืองและชุมชนมีความยืดหยุ่นและยั่งยืน การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินยังเชื่อมโยงกับ SDGs 11 ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างเมืองและชุมชนที่มีความยืดหยุ่นและยั่งยืน การฝึกอบรมและจำลองสถานการณ์นี้เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับภัยพิบัติในชุมชน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนสามารถฟื้นฟูและปรับตัวได้รวดเร็วในกรณีเกิดภัยพิบัติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ

รู้ทันโรคมะเร็ง ดูแลตนเองอย่างไร ให้ห่างไกลโรคมะเร็ง

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับบุคลากร นิสิต รวมถึงชุมชนรอบข้าง ผ่านกิจกรรมและการให้ความรู้ต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับ SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยหนึ่งในแนวทางที่มหาวิทยาลัยใช้ในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคคือการจัดรายการวิทยุที่ให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยอย่างมาก

รายการ “พบเภสัชกร” เรื่อง: รู้ทันโรคมะเร็ง ดูแลตนเองอย่างไรให้ห่างไกลโรคมะเร็ง มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดรายการวิทยุที่ชื่อว่า “พบเภสัชกร” ซึ่งเป็นรายการที่จัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแก่ประชาชน โดยเฉพาะการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่มีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก และมักจะมีการตรวจพบเมื่อโรคเข้าสู่ระยะที่ลุกลามแล้ว รายการนี้มุ่งหวังให้ผู้ฟังได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์เกี่ยวกับการป้องกันโรคมะเร็ง รวมถึงการดูแลสุขภาพและการดำเนินชีวิตที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคนี้ได้

ในแต่ละตอนของรายการ “พบเภสัชกร” จะมีการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการรู้ทันโรคมะเร็ง และการดูแลตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดโรค โดยเฉพาะวิธีการตรวจเช็คสุขภาพ การปรับพฤติกรรมการกิน การออกกำลังกาย และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกรที่มีความรู้เฉพาะทางมาร่วมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันโรคมะเร็งและการตรวจสุขภาพประจำปี

รายการ “พบเภสัชกร” ดำเนินรายการโดย เภสัชกร โฉมคนางค์ ภูมิสายดร จากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถในการให้คำแนะนำและถ่ายทอดข้อมูลทางด้านสุขภาพให้กับผู้ฟังได้อย่างเข้าใจง่ายและมีประโยชน์ เภสัชกรโฉมคนางค์ได้ใช้ประสบการณ์ในการทำงานด้านเภสัชกรรมเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลในการช่วยให้ผู้ฟังสามารถดูแลสุขภาพตนเองได้ดีขึ้น พร้อมทั้งสามารถเลือกวิธีป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ซึ่งถือเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญในสังคมไทย

รายการ “พบเภสัชกร” สามารถติดตามรับฟังได้ทั้งทาง สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร FM 107.25 MHz และทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.nuradio.nu.ac.th ซึ่งผู้ฟังสามารถติดตามรายการได้ทุกวันศุกร์ เวลา 18.30 – 19.00 น. การออกอากาศในช่วงเวลาที่เหมาะสมและการให้ทางเลือกในการฟังทั้งจากสื่อวิทยุและทางออนไลน์ ทำให้ผู้คนในชุมชนสามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่จำกัดสถานที่หรือเวลา

การจัดรายการวิทยุเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDGs 3 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและส่งเสริมการป้องกันโรคต่างๆ การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรคมะเร็งไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเท่านั้น แต่ยังช่วยลดภาระทางการแพทย์และการรักษาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

โดยการใช้สื่อวิทยุและออนไลน์ในการเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้สร้างช่องทางการสื่อสารที่ครอบคลุมและสามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมในเรื่องสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อาจขาดแคลนข้อมูลหรือเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้ยาก

คณะแพทย์ รพ.มน. บริการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก ..ฟรี !

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนและบุคลากรผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจคัดกรองโรค การให้ความรู้ด้านสุขภาพ และการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการป้องกันและตรวจพบโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่มีอัตราการเกิดสูงและเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเสียชีวิตในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย

ในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 คณะแพทยศาสตร์ ร่วมกับ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร (รพ.มน.) ได้จัดกิจกรรม “การตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากฟรี” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ชายวัยกลางคนและสูงอายุ หากตรวจพบในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาได้ผลดีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้ได้อย่างมาก

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะชายวัย 50 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มักจะไม่ค่อยเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากจะช่วยให้สามารถตรวจพบโรคในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรค

รายละเอียดของกิจกรรม
  • การตรวจคัดกรองฟรี: ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปสามารถลงทะเบียนและรับการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
  • การบรรยายให้ความรู้: นอกจากการตรวจคัดกรองแล้ว ผู้เข้าร่วมยังได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับมะเร็งต่อมลูกหมาก ทั้งในด้านสาเหตุ วิธีการป้องกัน และการรักษาที่มีประสิทธิภาพจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ของที่ระลึก: ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับของที่ระลึกจากโครงการ ซึ่งเป็นการสร้างความรู้สึกขอบคุณและกระตุ้นให้มีการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านทาง ลิงค์การลงทะเบียนออนไลน์ https://forms.gle/CVtsNJgC3DWby34P9 ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกและรวดเร็วในการจัดการลงทะเบียน โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ที่ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นสถานที่ที่พร้อมด้วยเครื่องมือและทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้การตรวจคัดกรองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมีเป้าหมายในการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคต่างๆ และการส่งเสริมการเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง การตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงจากโรคนี้ได้ และช่วยเพิ่มอายุขัยให้กับผู้คนในชุมชน

โครงการนี้ยังเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงการดูแลสุขภาพที่ดีสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งมักจะไม่ได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ การให้บริการตรวจคัดกรองฟรียังช่วยลดช่องว่างทางด้านการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคนในสังคม

ม.นเรศวร จัดมหกรรมสุขภาพเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี สร้างสังคมสุขภาพดี

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการป้องกันโรคและส่งเสริมการดูแลสุขภาพในชุมชน การจัดงาน “มหกรรมสุขภาพ เพื่อร่วมสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดี” (Health Festival: Creating a Healthier Society) ในระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม 2567 ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่สอดคล้องกับ SDGs 3 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในสังคม

งานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 30 ปี ของการก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยเน้นการเผยแพร่ความรู้และบริการด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น และมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพในทุกมิติ ได้แก่ การตรวจสุขภาพฟรี การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ และการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ

งานมหกรรมสุขภาพในปี 2567 นี้มีกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการดูแลสุขภาพในหลายด้าน รวมถึง:

  1. ตรวจสุขภาพฟรี: ผู้เข้าร่วมสามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพเบื้องต้นโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อาทิ การตรวจความดันโลหิต การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด และการตรวจคัดกรองโรคต่าง ๆ ที่พบได้บ่อยในสังคมไทย เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจพบปัญหาสุขภาพในระยะเริ่มต้น และได้รับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพต่อไป
  2. การแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพโดยอาจารย์แพทย์และกูรูชื่อดัง: ภายในงานมีการบรรยายและให้ความรู้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และกูรูด้านสุขภาพในหัวข้อต่าง ๆ เช่น วิธีการป้องกันโรค การดูแลสุขภาพจิต และการใช้ชีวิตประจำวันอย่างสมดุล การดูแลตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  3. กิน&ช็อปของดีเพื่อสุขภาพ: ภายในงานจะมีการจำหน่ายสินค้าที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหารเสริม เครื่องมือสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ช่วยในการดูแลร่างกาย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้ความรู้ในการเลือกซื้อสินค้าสุขภาพอย่างมีข้อมูลและปลอดภัย
  4. กิจกรรมและการฝึกปฏิบัติ: ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมเสริมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพในด้านต่าง ๆ เช่น การฝึกโยคะ การออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน และการฝึกสมาธิเพื่อการดูแลสุขภาพจิต

งาน “มหกรรมสุขภาพ เพื่อร่วมสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดี” ยังเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพสำหรับทุกคนในชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือผู้ที่อาจไม่มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ง่าย ผ่านการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การตรวจสุขภาพฟรี การบรรยายให้ความรู้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย และการประชาสัมพันธ์การดูแลสุขภาพที่เป็นประโยชน์

งานจะจัดขึ้นที่ ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมนานาชาติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (KNECC) อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมได้จำนวนมากและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน การจัดงานในครั้งนี้จึงสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กิจกรรมในงานมหกรรมสุขภาพครั้งนี้สอดคล้องกับ SDGs 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนในสังคม โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และการส่งเสริมการดูแลสุขภาพในระดับบุคคลและชุมชน โดยการให้บริการตรวจสุขภาพฟรี การให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ และการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ประชาชนมีข้อมูลที่จำเป็นในการป้องกันและดูแลสุขภาพของตนเอง รวมถึงส่งเสริมให้ทุกคนมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

หน่วยใส่ฟันเทียมทันตกรรมพระราชทาน ออกพื้นที่บริการสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ผ่านการให้บริการทางการแพทย์และทันตกรรมที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการลดความไม่เท่าเทียมในสังคม

หนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นนี้คือการให้บริการ ฟันเทียมพระราชทาน ที่จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2566โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโพนทอง ตำบลโพนทอง อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการการดูแลสุขภาพช่องปากที่สูง แต่ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการ

ความสำคัญของการให้บริการฟันเทียม ในพื้นที่ดังกล่าว กลุ่มงานทันตกรรมของ โรงพยาบาลโพธิ์ตาก พบปัญหาในการให้บริการ ฟันเทียมทั้งปาก สำหรับผู้ป่วยที่มีกรณีซับซ้อนและต้องการการดูแลพิเศษ ทีมทันตกรรมจึงได้ประสานงานกับ หน่วยทันตกรรมพระราชทาน จาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อช่วยเหลือและให้บริการแก่ผู้ป่วย โดยมี อาจารย์ทันตแพทย์, นิสิตปริญญาโท, ผู้ช่วยทันตแพทย์, และ ช่างทันตกรรม จากมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนกว่า 30 คน ร่วมออกหน่วยเคลื่อนที่ในระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำฟันเทียมทั้งปากให้แก่ผู้ป่วยจำนวน 34 ราย

การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำฟันเทียม สิ่งที่โดดเด่นในโครงการนี้คือการนำ เทคโนโลยีดิจิทัล มาใช้ในการผลิตฟันเทียม ซึ่งเป็นการยกระดับการให้บริการทันตกรรมไปอีกขั้น การใช้ การสแกนฟันดิจิทัล (Digital Scan) เพื่อเก็บข้อมูลฟันที่แม่นยำ จากนั้นทำการออกแบบฟันเทียมด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (CAD Design) และใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ (3D Printer) ในการผลิตฟันเทียม

การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Denture) ในการผลิตฟันเทียมทำให้สามารถออกแบบและผลิตฟันที่มี ความสวยงามและเป็นธรรมชาติ มากขึ้น เนื่องจากฟันเทียมสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับสภาพช่องปากของผู้ป่วยแต่ละราย แตกต่างจากการใช้ฟันสำเร็จรูปแบบเดิมจากบริษัทที่ผลิตในรูปแบบมาตรฐาน

การทดสอบระบบดิจิทัลครั้งนี้ทำให้สามารถผลิต ฟันเทียมดิจิทัล ได้เร็วขึ้น โดยไม่สูญเสียคุณภาพและความแข็งแรงของฟันเทียม กระบวนการผลิตยังคงรักษามาตรฐานสูงเช่นเดียวกับการผลิตฟันเทียมแบบปกติ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ความสวยงามและความเข้ากับผู้ป่วย ที่ดีขึ้น เนื่องจากการออกแบบที่เฉพาะเจาะจง

ผลลัพธ์ที่ได้จากโครงการ ในการออกหน่วยครั้งนี้, 5 เคสแรกของฟันเทียมดิจิทัล (Digital Denture) ได้รับการผลิตด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการรักษา ฟันเทียมที่ผลิตขึ้นมาไม่เพียงแค่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ แต่ยังมี ความสะดวกในการใช้งาน และ ความมั่นคงในการยึดติด ที่เทียบเท่าหรือดีกว่าฟันเทียมแบบดั้งเดิม

การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติและระบบดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตฟันเทียมให้เร็วกว่าการผลิตด้วยวิธีแบบดั้งเดิม รวมทั้งยังช่วยลดข้อผิดพลาดในการผลิตได้มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยและการให้บริการในระยะยาว

ความท้าทายและการพัฒนาในอนาคต แม้ว่าการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในครั้งนี้จะสร้างความสำเร็จในด้านการผลิตฟันเทียมที่มีคุณภาพสูงขึ้น แต่ก็ยังมีความท้าทายด้าน ค่าใช้จ่าย สำหรับอุปกรณ์และวัสดุที่มีราคาสูง รวมถึง ความซับซ้อนในการใช้งาน ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนและพัฒนาทักษะจากทีมงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การดำเนินงานในโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานสาธารณสุขอำเภอโพธิ์ตาก, โดยมี ทพ.ณัฐพล มัสยามาตย์ หัวหน้ากลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลโพธิ์ตาก ซึ่งช่วยประสานงานและอำนวยความสะดวกในการดำเนินการของทีมงานจากหน่วยทันตกรรมพระราชทาน

นอกจากนี้ยังต้องขอขอบคุณ ทพญ.เขมจิรัฏฐ์ โควสุภัทร์, ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยนเรศวร, ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยประสานงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันในการทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ รวมถึง อาจารย์, นิสิต, ผู้ช่วยทันตแพทย์, และช่างทันตกรรม ที่ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลิตฟันเทียมทั้งปากให้กับผู้ป่วยจำนวน 34 ราย โดยทุกคนสามารถกลับไปมี รอยยิ้มใหม่ ที่สะท้อนถึงความสำเร็จของการให้บริการที่มีคุณภาพและมีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

ที่มา: หน่วยใส่ฟันเทียมทันตกรรมพระราชทาน คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ให้ความรู้แก่นักเรียน ในหัวข้อ “รักในวัยเรียนและเพศศึกษา”

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมประชุมสายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยมีการบรรยายให้ความรู้แก่นักเรียนในหัวข้อ “รักในวัยเรียนและเพศศึกษา” เพื่อเสริมสร้างความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางเพศ รวมถึงการสร้างความเข้าใจในเรื่องความสัมพันธ์และพฤติกรรมทางเพศในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการพัฒนาทั้งทางร่างกายและจิตใจ

การบรรยายครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรจาก โรงพยาบาลพุทธชินราชพิษณุโลก ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสุขภาพวัยรุ่น โดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2.1 ถึง 2.3 จำนวนมากได้เข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น ณ ห้อง 3100 อาคารเรียน 3 ของโรงเรียนมัธยมสาธิตฯ

วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม:

  • เพื่อให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจในช่วงวัยรุ่น
  • ส่งเสริมให้นักเรียนมีทัศนคติที่ถูกต้องและพฤติกรรมที่รับผิดชอบในเรื่องเพศศึกษา
  • ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพทางเพศที่ปลอดภัยและการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบในวัยรุ่น
  • ช่วยให้นักเรียนสามารถปรับตัวและรับมือกับพัฒนาการของชีวิตในช่วงวัยรุ่นอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสังคมในปัจจุบัน

การจัดกิจกรรมดังกล่าว สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เยาวชนในเรื่องสุขภาพทางเพศ และ เป้าหมายที่ 4: การศึกษาอย่างมีคุณภาพ ที่มุ่งพัฒนาทักษะความรู้และการเตรียมตัวของนักเรียนให้พร้อมต่อการเผชิญกับชีวิตในอนาคต ด้วยการให้การศึกษาและข้อมูลที่เหมาะสมในช่วงวัยรุ่น

กิจกรรมนี้มีความสำคัญในด้านการเตรียมความพร้อมให้แก่เยาวชนในการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง ทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ช่วยส่งเสริมการสร้างสุขภาพที่ดีและการพัฒนาชีวิตที่มีคุณภาพในสังคม การให้ความรู้ในช่วงวัยรุ่นจะช่วยให้นักเรียนสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบและมีสุขภาพดีในระยะยาว

การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการสร้างพื้นฐานที่มั่นคงในการศึกษาด้านเพศศึกษาและการส่งเสริมสุขภาพในวัยรุ่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาสังคมและประเทศในอนาคต.

ที่มา: โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin