Archives 2023

คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ม.นเรศวร จัดกิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ 22 ปี ส่งเสริมความสามัคคีและอัตลักษณ์นิสิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของนิสิตและชุมชนในมหาวิทยาลัย โดยผ่านกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ส่งเสริมด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรทุกคนในมหาวิทยาลัยในหลายมิติ ผ่านกิจกรรมที่เสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านการจัดการด้านสุขภาพ การเสริมสร้างความสัมพันธ์และการพัฒนาทักษะทางสังคม ซึ่งตรงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

หนึ่งในกิจกรรมที่สะท้อนการส่งเสริมสุขภาพจิตและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในชุมชนของมหาวิทยาลัยนเรศวรคือโครงการ “กิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์ 22 ปี คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-24 พฤศจิกายน 2566 โดยมีการจัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาและกิจกรรมที่เสริมสร้างความสามัคคีภายในคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม ความสามัคคีและการทำงานร่วมกัน ของนิสิตคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง รวมถึงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนิสิตทุกชั้นปี โดยการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการเชื่อมโยงคนทุกกลุ่มภายในคณะและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรในการทำกิจกรรมร่วมกัน

นอกจากนี้กิจกรรมนี้ยังเป็นการเสริมสร้าง สุขภาพจิตที่ดี ผ่านการร่วมมือกันในการแข่งขันกีฬา ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์ที่ดีทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งตรงกับเป้าหมาย SDG 3 ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีในสังคม

โครงการเริ่มต้นด้วยการ การแข่งขันกีฬาระหว่างนิสิต ที่หลากหลายประเภท ทั้งในระดับกลุ่มและประเภทบุคคล โดยมีการแข่งขันกีฬาให้เลือกมากมาย เช่น ฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, วิ่ง, และกีฬาอื่น ๆ ที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม การแข่งขันเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดี และ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในหมู่นิสิต รวมถึงการพบปะและรู้จักกันระหว่างนิสิตแต่ละสาขา

ในส่วนของการเปิดงาน “กิจกรรมสานสัมพันธ์ 22 ปี คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์” ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 มีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างมากมายที่มีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรมจากชมรมต่าง ๆ ได้แก่ ชมรมสันทนาการ, ชมรมผู้นำเชียร์, ชมรมคฑากร, และ ชมรมคัฟเวอร์แดนซ์ ที่มาร่วมกันแสดงออกถึงความสามารถของนิสิตคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์

ในงานนี้มีการจัด การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ที่มีการแบ่งกลุ่มออกเป็น สีต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ พี่สีน้ำเงิน (แซฟไฟร์ไฮเดรนเยีย), พี่สีแดง (ปัตตาเวียดาหลา), พี่สีเหลือง (อุไรอำพัน), พี่สีเขียว (ปทุมมามรกต), และ พี่สีชมพู (พญาเสือโคร่งอำไพ) โดยมีการสร้างการแข่งขันทั้งระหว่างนิสิตและระหว่างนิสิตกับอาจารย์ ซึ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง รวมถึงการเสริมสร้าง ความสามัคคีและการทำงานเป็นทีม

นอกจากนั้นยังมีการนำ วิธีการวิ่งคบเพลิงจำลอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีการเชื่อมโยงถึงความภาคภูมิใจในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ และเป็นการส่งต่อความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในด้านต่าง ๆ ให้กับทุกคนในคณะ

ในวันสุดท้ายของกิจกรรมคือ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 การเฉลิมฉลอง “กิจกรรมสานสัมพันธ์ 22 ปี คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์” ได้จัดให้มี พิธีมอบถ้วยรางวัลและเกียรติบัตร สำหรับผู้ชนะการแข่งขันกีฬาแต่ละประเภท ซึ่งเป็นการยกย่องความสามารถและความพยายามของนิสิตในการแข่งขัน นอกจากนี้ยังมีการจัด การแสดงดนตรีจากชมรมดนตรีสากล ซึ่งสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มจากทุกคนที่เข้าร่วมงาน

จากกิจกรรมในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งนิสิต คณาจารย์ และบุคลากรได้รับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น

  • การเสริมสร้างความสัมพันธ์และความสามัคคี: การแข่งขันกีฬาและกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนิสิตและคณาจารย์ รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องในคณะ
  • การพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีม: กิจกรรมที่เน้นการทำงานร่วมกันช่วยเสริมสร้างทักษะในการทำงานร่วมกันและการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ
  • การเสริมสร้างสุขภาพจิตและร่างกาย: กิจกรรมกีฬาไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาสุขภาพร่างกาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างความสุขและสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้เข้าร่วม
  • การสร้างวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของคณะ: กิจกรรมที่มีการแสดงออกทางศิลปะและวัฒนธรรมช่วยให้สมาชิกในคณะรู้สึกถึงความภาคภูมิใจในสถาบันและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณผู้บริหาร, คณาจารย์, บุคลากร และองค์กรภายนอกที่ได้สนับสนุนรางวัลและของที่ระลึกต่าง ๆ ให้กับผู้ชนะการแข่งขัน นอกจากนี้ยังขอขอบคุณผู้ที่มอบบัตรกำนัลและขนมต่าง ๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสุขให้กับนิสิตและผู้เข้าร่วมงานทุกคน

ที่มา: ส่งเสริมความสามัคคีปรองดอง ให้รุ่นพี่-รุ่นน้อง

คณะพยาบาลศาสตร์ ม.นเรศวร จัดประชุมวิชาการนานาชาติ ‘Trends in Food and Herbs for Health and Well Being’ เสริมความรู้ด้านสมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพ

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติในหัวข้อ “Trends in Food and Herbs for Health and Well Being” ภายใต้โครงการวิจัย “NU World Class: Food and Herb for Health and Beauty” ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรหญิงกรกนก อิงคนินันท์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งงานนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักวิจัยและผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศ

การประชุมวิชาการในครั้งนี้มีการเข้าร่วมทั้งในรูปแบบ ONSITE (ที่โรงแรม Mayflower Grande Hotel พิษณุโลก) และ ONLINE ผ่านระบบ Zoom ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมจำนวน 100 คน ได้ร่วมฟังการบรรยายจากวิทยากรระดับนานาชาติและระดับชาติในหัวข้อที่หลากหลาย และเกี่ยวข้องกับการส่งเสริมสุขภาพ การวิจัยด้านอาหารและสมุนไพร รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพโดยการใช้สมุนไพรและอาหารที่มีประโยชน์

โครงการวิจัยนี้มีการสนับสนุนโดย สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) และได้รับการนำเสนอโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ โทจำปา อาจารย์ประจำภาควิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งโครงการนี้มีเป้าหมายในการศึกษาและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ อาหารและสมุนไพร เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความงามในด้านต่าง ๆ เช่น การป้องกันโรคและการบำรุงร่างกาย

โดยเฉพาะในด้าน การส่งเสริมสุขภาพ (SDG 3) และ การลดความยากจนและความไม่เท่าเทียม (SDG 2, 10) ผ่านการส่งเสริมการใช้สมุนไพรและอาหารที่มีประโยชน์จากธรรมชาติ ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีในชุมชนและเพิ่มความรู้ในด้านสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

ในระหว่างการประชุมวิชาการมีการบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ โดยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเนื้อหาที่นำเสนอมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสุขภาพและการใช้ อาหารและสมุนไพร ในการดูแลสุขภาพ รวมถึงการปรับตัวให้เหมาะสมกับแนวโน้มการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน

  1. Health Promotion: The Role of Health Professionals in Promoting Health
    โดย Prof. Dr. Kenda Crozier ซึ่งบรรยายเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และบทบาทของนักสุขภาพในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชน
  2. DHA in Pregnancy
    โดย Thisara Weerasamai M.D. ซึ่งเป็นการพูดถึงบทบาทของ DHA (Docosahexaenoic acid) ในช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งมีความสำคัญต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์และสุขภาพของมารดา
  3. Food and Herbs for Health in Thailand
    โดย Assistant Prof. Dr. Wudtichai Wisuttlprot ซึ่งบรรยายเกี่ยวกับการใช้ อาหารและสมุนไพร ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมสุขภาพและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ
  4. Healthcare Innovation and Health Business
    โดย Dr. Joni Haryanto ซึ่งเป็นการพูดถึง นวัตกรรมในด้านการดูแลสุขภาพ และการประยุกต์ใช้ ธุรกิจด้านสุขภาพ ในการเสริมสร้างการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ
  5. Current Trends in Diabetes and Complimentary Treatment to Improve Self-Management: Asian Food and Herbs for Health
    โดย Dr. Yulis Setiya Dewi ซึ่งนำเสนอแนวโน้มปัจจุบันในเรื่องของ โรคเบาหวาน และการใช้ อาหารและสมุนไพร ในการรักษาเสริมและช่วยในการจัดการโรคเบาหวานในชีวิตประจำวัน

การประชุมครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

  • SDG 2: การขจัดความหิวโหย: การใช้สมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพสามารถส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนและการผลิตอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งช่วยลดปัญหาความหิวโหยและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระดับประชากร
  • SDG 3: การส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี: การศึกษาและการใช้สมุนไพรและอาหารในการรักษาโรคและการเสริมสร้างสุขภาพ เป็นการสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพในระดับบุคคลและชุมชน
  • SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ: การประชุมวิชาการครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาองค์ความรู้ในด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ในสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์และการแพทย์
  • SDG 11: เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน: การประชุมนี้มีส่วนช่วยในการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน โดยการส่งเสริมการใช้สมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพที่มีความยั่งยืน ซึ่งสามารถนำไปสู่การพัฒนาเมืองและชุมชนที่มีสุขภาพดี
  • SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน: การสนับสนุนการวิจัยร่วมกับองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมถึงการจัดงานในระดับนานาชาติ ทำให้เกิดการร่วมมือระหว่างประเทศในด้านการวิจัยและการพัฒนา

การประชุมวิชาการ International Conference 2023 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ไม่เพียงแต่แสดงถึงการสนับสนุนด้านการศึกษาและวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมสุขภาพและการพัฒนาองค์ความรู้ แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาควิชาการและภาคธุรกิจ รวมถึงการส่งเสริมการใช้ อาหารและสมุนไพร ในการดูแลสุขภาพ เพื่อให้มีความยั่งยืนในระยะยาว

การประชุมนี้ได้ช่วยเสริมสร้างความรู้ใหม่ ๆ ในการใช้ สมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นการส่งเสริม การพัฒนาที่ยั่งยืน ที่มีผลกระทบในทางบวกต่อทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และยังได้สร้างโอกาสในการ สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการศึกษาวิจัยด้านอาหารและสมุนไพรที่มีคุณค่าทางสุขภาพในอนาคต

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จับมือ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงานเสวนา TWEA สัญจร “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่”

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงาน TWEA สัญจร ในหัวข้อ “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ดร. ปิยพรรณ หันนาคินทร์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยนเรศวร , กรรมการผู้จัดการบริษัท Operational Energy Group และที่ปรึกษาสมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) และ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมวิศวกรหญิงไทย เป็นผู้ร่วมเสวนา เพื่อแนะแนวและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานจนถึงเตรียมการวิศวกรรุ่นใหม่และนิสิตที่กำลังจะเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ซึ่งในงานนี้มีนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ณ ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ขอเชิญชวน อาจารย์ นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมผลิตภัณฑ์กลุ่มชุมชน

ขอเชิญชวน อาจารย์ นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพลิกโฉมผลิตภัณฑ์กลุ่มชุมชน โดยการนำวิทยาการกระบวนการทำงานสมัยใหม่ ไปยกระดับขีดความสามารถกลุ่มองค์กรชุมชนที่รวมตัวกันสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ ให้มีศักยภาพ มีมูลค่าเพิ่ม แข่งขันในตลาดได้

NU SciPark เปิดรับสมัครผู้สนใจ ร่วมโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจำปี 2567
คุณสมบัติของทีมนิสิต
– ทีมนิสิต จำนวน 5-10 คน/ทีม
– มีนิสิตต่างสาขาวิชา ต่างคณะภายในทีม
– มีอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างน้อย 1 ท่าน/ทีม
– นิสิตจะต้องเป็นลูกค้าประเภทใดประเภทหนึ่งของธนาคารออมสิน

คุณสมบัติของกลุ่มชุมชน
– กลุ่มชุมชน ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน, กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP, กลุ่มโฮมสเตย์, กลุ่มท่องเที่ยวชุมชน และกลุ่มอาชีพในชุมชน โดยจะต้องมีการรวมกลุ่มกันจากสมาชิกในชุมชน เพื่อผลิตสินค้า/บริการ เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน
– เป็นกลุ่มชุมชนที่มีความพร้อม ความต้องการที่จะยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์/บริการ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของธนาคารออมสินภาค 7 ทั้งหมด 5 จังหวัดดังนี้ อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, ตาก, สุโขทัย, กำแพงเพชร
– การทำงานจะต้องมีส่วนร่วม ระหว่างชุมชน สถาบันอุดมศึกษา ธนาคารออมสิน และหน่วยงานพันธมิตรในพื้นที่
– ชุมชนจะต้องเป็นลูกค้าประเภทใดประเภทหนึ่งของธนาคารออมสิน

ผลิตภัณฑ์และบริการแบ่งเป็น 6 ประเภท
– กินดี (อาหาร, เครื่องดื่ม)
– อยู่ดี (ที่พัก, Homestay, ท่องเที่ยวชุมชน)
– สวยดี (เครื่องประดับ, ของที่ระลึก, ของตกแต่งบ้าน, เสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย)
– ใช้ดี (ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพร, เครื่องประทินผิว, ผลิตภัณฑ์สปา, สิ่งของเครื่องใช้)
– รักษ์ดี (การอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม ประเพณี สิ่งแวดล้อม หรือภูมิปัญญา ให้คงอยู่สืบไป)
– คิดดี (สินค้า/บริการ เชิงนวัตกรรม)

สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 22 ธันวาคม 2566 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: NU SciPark โทรศัพท์: 08 7522 2896 (โม)

รับสมัครทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ และทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 23 ทุน

การรับสมัคร ทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 15 ทุน เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาและพัฒนานิสิตอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ให้การขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นอุปสรรคในการพัฒนา

การศึกษาที่มีคุณภาพเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน (SDG 4)

ทุนการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ นิสิตที่มีผลการเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตเหล่านี้สามารถศึกษาต่อในระดับสูงโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาทางการเงิน ความสามารถทางวิชาการของนิสิตที่มีคะแนนเฉลี่ย 2.00 ขึ้นไป นับเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการศึกษาของนิสิต ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) ที่ส่งเสริมให้เกิดการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาศักยภาพของบุคคลให้เต็มที่

นอกจากนี้ การที่นิสิตต้อง เข้าร่วมกิจกรรมของภาควิชาหรือคณะ หรือ บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชน ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลายและการพัฒนาทักษะชีวิตอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น ทักษะการทำงานเป็นทีม การบริหารเวลา และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการสร้างความยั่งยืนทั้งในระดับบุคคลและสังคม

การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนการศึกษานี้ยังช่วยส่งเสริม SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) โดยการให้โอกาสทางการศึกษากับนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความสามารถทางวิชาการและความตั้งใจที่จะเรียนรู้ ทุนการศึกษานี้เป็นการลดช่องว่างในโอกาสทางการศึกษาที่เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ช่วยให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพ โดยไม่ถูกจำกัดจากปัญหาทางการเงิน

การพัฒนาโอกาสให้กับนิสิตที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในด้านการศึกษาและความประพฤติที่ดี ถือเป็นการเสริมสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนและเท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนานิสิตให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับจากการศึกษามาใช้ในการพัฒนาสังคมต่อไป

การสร้างแบบอย่างในสังคมที่ยั่งยืน

การกำหนด คุณสมบัติที่สำคัญ ของผู้สมัคร เช่น ความประพฤติดี มีความขยันอดออม และไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย เป็นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในนิสิต ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการสร้างบุคลากรที่ดีต่อสังคม การมีความประพฤติดีและการแต่งกายที่ถูกต้องตามกาลเทศะ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนิสิตในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยส่งเสริมการสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

รับสมัครตั้งแต่ 27 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2566
รายละเอียดการรับสมัคร คลิ๊ก >>> https://drive.google.com/…/1CdUZTVe4AoGHxeekVHvZB2wY6eI…
งานกิจการนิสิต และศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โทร 055963150-2

ม.นเรศวร จับมือ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงานเสวนา TWEA สัญจร “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่”

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงาน TWEA สัญจร ในหัวข้อ “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ดร. ปิยพรรณ หันนาคินทร์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยนเรศวร , กรรมการผู้จัดการบริษัท Operational Energy Group และที่ปรึกษาสมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) และ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมวิศวกรหญิงไทย เป็นผู้ร่วมเสวนา เพื่อแนะแนวและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานจนถึงเตรียมการวิศวกรรุ่นใหม่และนิสิตที่กำลังจะเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ซึ่งในงานนี้มีนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ณ ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลวังนํ้าคู้ ให้บริการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าและตรวจสุขภาพฟันฟรี

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 หน่วยเวชปฏิบัติชุมชนจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่เพื่อให้บริการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าและการตรวจสุขภาพฟันให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีผู้ป่วยเข้ารับบริการจำนวน 90 ราย ซึ่งได้รับการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าและฟันจากอาจารย์และนักศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี และ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ที่มักเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะ ภาวะแทรกซ้อนทางเท้า ที่เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาหรือมีการสูญเสียอวัยวะ รวมถึงปัญหาสุขภาพฟันที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยโรคเบาหวาน การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะ ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และ เสริมสร้างความรู้ ให้กับผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน เพื่อ เพิ่มคุณภาพชีวิต และลดภาระในการรักษาพยาบาลในระยะยาว โดยมีการคัดกรองและให้คำแนะนำ ดังนี้

1. การตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้า ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับรู้ความเจ็บปวดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เท้าและลุกลามจนเกิดแผลหรือการติดเชื้อจนต้องมีการตัดอวัยวะ การตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าในครั้งนี้ รวมถึงการทดสอบ การตอบสนองของเส้นประสาท การตรวจหาบาดแผลและการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น และการให้คำแนะนำในการ ดูแลรักษาเท้า เช่น การล้างทำความสะอาดเท้า การเลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสม รวมถึงการ บริหารเท้า เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในเท้า

2. การตรวจสุขภาพฟัน ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพฟันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงสามารถทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในปาก ส่งผลให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ หรือปัญหาฟันผุ การตรวจสุขภาพฟันในครั้งนี้ได้มีการตรวจสอบสภาพฟันและเหงือกของผู้ป่วย พร้อมทั้งการให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพฟัน เช่น การแปรงฟันอย่างถูกวิธี การใช้ไหมขัดฟัน การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง และการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ

นอกจากการตรวจคัดกรองและรักษาเบื้องต้นแล้ว ทีมงานยังได้ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับ การดูแลเท้า และ การบริหารเท้า ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูแลเท้าของตนเองได้อย่างถูกต้องและป้องกันการเกิดแผลที่อาจลุกลามไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงได้ นอกจากนี้ ยังได้ให้ความรู้ในเรื่องของ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา

กิจกรรมในครั้งนี้ได้ช่วย เพิ่มการตระหนักรู้ ให้แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวานในพื้นที่เกี่ยวกับการดูแลเท้าและสุขภาพฟัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่อาจขาดการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ การให้ความรู้และการตรวจคัดกรองในครั้งนี้จึงมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมสุขภาพ และ เพิ่มคุณภาพชีวิต ของผู้ป่วยโรคเบาหวานในชุมชน

การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3: Good Health and Well-being) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการป้องกันโรค โดยเฉพาะการดูแลโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน ซึ่งมีความสำคัญในการลดภาระของระบบสุขภาพและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน นอกจากนี้ การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้และเสริมทักษะการดูแลสุขภาพให้กับชุมชน ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความยั่งยืนทางด้านสุขภาพในระยะยาว

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมวันเบาหวานโลก 2566 เสริมสร้างความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน พร้อมส่งเสริมการร่วมมือเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม วันเบาหวานโลก (ค่ายเบาหวาน) ประจำปี 2566 โดยกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.พญ.ศรินยา สัทธานนท์ และ พญ.แพรว สุวรรณศรีสุข อาจารย์แพทย์จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่ ห้องประชุม CC2-801 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา 2 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความรู้และการป้องกันโรคเบาหวานในสังคม รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานในทุกระดับ

กิจกรรมวันเบาหวานโลกในปี 2566 นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้และการรับรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในด้านการ ป้องกันและจัดการโรคเบาหวาน เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าใจถึงการดูแลรักษาตนเองเมื่อมีความเสี่ยงหรือเป็นโรคเบาหวานแล้ว รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเบาหวานและการพัฒนาภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำแนวทางในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันเพื่อเสริมสร้าง สุขภาพที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคน

กิจกรรมในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการ ร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับองค์กรต่าง ๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสุขภาพอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคประชาชนในการสร้างความตระหนักรู้และการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพให้กับประชาชน การทำงานร่วมกันในลักษณะนี้ส่งเสริมการสร้าง ความเป็นหุ้นส่วน ที่มีความสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศและระดับโลก

ภายในงานกิจกรรมวันเบาหวานโลกนี้ มีการจัดกิจกรรมหลากหลายเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับโรคเบาหวาน รวมถึงการ ตรวจคัดกรองเบาหวาน การ ให้คำแนะนำด้านการป้องกันโรคเบาหวาน และการจัดการกับโรคเบาหวานในระยะยาว โดยกิจกรรมหลักในวันนั้นได้แก่:

  1. การบรรยายและการให้ความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคเบาหวานและการจัดการเบาหวานที่เหมาะสม
  2. การฝึกอบรม และ การให้คำแนะนำ เรื่องการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  3. การให้คำปรึกษาด้านการดูแลเบาหวาน โดยแพทย์และพยาบาลจากคณะแพทยศาสตร์ เพื่อช่วยผู้เข้าร่วมมีข้อมูลที่ถูกต้องในการจัดการกับโรคเบาหวานในชีวิตประจำวัน

กิจกรรมในครั้งนี้มีบทบาทสำคัญในการ ส่งเสริมการป้องกันโรคเบาหวาน และ การจัดการโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอัตราการเกิดโรคเบาหวานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมที่สามารถให้ความรู้และข้อมูลแก่ประชาชนในด้านการดูแลตนเองและการป้องกันโรคได้ จึงมีส่วนช่วยในการ ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน และส่งเสริม คุณภาพชีวิต ของผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยง

การ สร้างความร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยกับองค์กรต่าง ๆ ภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมและสร้างความตระหนักรู้เช่นนี้ ยังเป็นการ สนับสนุน SDG 17: Partnerships for the Goals ซึ่งมุ่งส่งเสริมการทำงานร่วมกันในทุกระดับเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดอบรม CPR และ AED เสริมทักษะช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน มุ่งสู่สุขภาพดีและสังคมยั่งยืน

เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดการอบรม การช่วยฟื้นคืนชีพด้วยวิธีการปั๊มหัวใจ (CPR) และ การใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ซึ่งจัดขึ้นที่ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร การอบรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมทักษะและความรู้ให้กับผู้เข้ารับการอบรมในการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉินและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้ประสบเหตุมีอาการหัวใจหยุดเต้นหรือภาวะฉุกเฉินที่ต้องการการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

การอบรมในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการช่วยชีวิตในกรณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของการเสียชีวิตอย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน การฝึกปฏิบัติการ ปั๊มหัวใจ (CPR) และการใช้ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถช่วยชีวิตคนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการเสริมความรู้ในการประสานงานกับ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และการ ส่งตัวผู้บาดเจ็บ ไปยังสถานพยาบาลได้อย่างทันท่วงที

การอบรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว และในบางกรณีอาจช่วย เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ของผู้ประสบเหตุได้

การอบรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก ทีมแพทย์ฉุกเฉิน จาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ ที่ได้ให้เกียรติเป็นวิทยากรในการบรรยายและฝึกปฏิบัติการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยชีวิต เช่น การใช้ เครื่อง AED และ เทคนิคการทำ CPR ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจในวิธีการที่เหมาะสมในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในระหว่างที่รอการมาถึงของทีมแพทย์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้ให้ ความอนุเคราะห์สถานที่ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการอบรม ซึ่งทำให้การอบรมในครั้งนี้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีคุณภาพ โดยมี สถานที่ที่พร้อม และ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับประสบการณ์การฝึกปฏิบัติอย่างแท้จริง

การอบรมในครั้งนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3: Good Health and Well-Being) โดยการพัฒนาทักษะในการช่วยชีวิตและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นถือเป็นการส่งเสริม สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี สำหรับทุกคนในสังคม การมีความรู้เกี่ยวกับการช่วยชีวิตและการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องจะช่วย ลดอัตราการเสียชีวิต จากอุบัติเหตุหรือภาวะฉุกเฉิน และช่วยให้มีการรักษาที่เหมาะสมและทันเวลา

นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังสนับสนุน SDG 11: Sustainable Cities and Communities โดยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในด้านการตอบสนองฉุกเฉินและการช่วยชีวิตในชุมชน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิด สังคมที่มีความยั่งยืนและปลอดภัย โดยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลและช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การอบรมในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมมีทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและในกรณีฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับการหยุดเต้นของหัวใจ ผู้ที่ผ่านการอบรมสามารถทำการ ปั๊มหัวใจ และใช้เครื่อง AED ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ของผู้ประสบเหตุได้มากขึ้น และลดภาระการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในชุมชนได้

นอกจากนี้การอบรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมการสร้าง เครือข่าย และการ ร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ซึ่งช่วยให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้าง ความเข้มแข็งให้กับสังคม และทำให้ ทุกคน มีส่วนร่วมในการดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ตรวจสุขภาพประจำปี กับผลตอบแทน ที่ทำให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (SDGs 3) ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลและความรู้ในด้านสุขภาพแก่ประชาชน รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในการสนับสนุนการพัฒนาความรู้ด้านการแพทย์และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ เผยแพร่สัมภาษณ์ ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มีการสัมภาษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ ซึ่งเป็นการสื่อสารความรู้และข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพในสังคม.

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้เผยแพร่ผ่านหลายช่องทางที่มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดทำขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังและผู้ชมได้มากขึ้น ได้แก่:

  • FM 107.25 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของการดูแลสุขภาพที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน
  • เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านลิงค์ เว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้สนใจสามารถเข้าถึงบทสัมภาษณ์และข้อมูลเพิ่มเติมได้สะดวก
  • YouTube Channel ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านลิงค์ YouTube เพื่อให้การรับชมเป็นไปอย่างสะดวกและสามารถแชร์ข้อมูลให้กับผู้คนในวงกว้าง

การเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างการรับรู้เรื่องสุขภาพในระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายการเข้าถึงความรู้ไปยังกลุ่มผู้ฟังและผู้ชมจากทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อ SDGs 3 ในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน.

ในระหว่างการสัมภาษณ์ ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ได้กล่าวถึง ความสำคัญของการสื่อสารด้านสุขภาพ และ บทบาทของคณะแพทยศาสตร์ในการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ในหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพในชุมชน การให้ความรู้เรื่องสุขภาพยังสามารถสร้างความตระหนักให้กับสังคมถึงวิธีการดูแลรักษาสุขภาพในชีวิตประจำวันและกระตุ้นให้เกิดการดูแลตนเองได้ดีขึ้น

การประชาสัมพันธ์และการสื่อสารข้อมูลที่มีคุณค่าเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันที่ประชาชนต้องเผชิญกับการแพร่กระจายของข้อมูลทั้งจริงและไม่จริง โดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงให้ความสำคัญกับการใช้ช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อวิทยุกระจายเสียง เว็บไซต์ และ YouTube ในการส่งเสริมการรับรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องและมีคุณภาพ สำหรับผู้ฟังและผู้ชมที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ

การเผยแพร่บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับสื่อสารองค์กรและเครือข่ายต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน SDGs 3 โดยการมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการป้องกันโรค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมโดยรวม

คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณ เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ ที่ช่วยเสริมสร้างการประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลที่มีคุณค่า พร้อมทั้ง คลิปวิดีโอ จาก PR Medicine NU YouTube Channel ที่ช่วยให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ชมและผู้ฟัง

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin