Archives 2023

ม.นเรศวร คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวที ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023

ผลงาน “ISO-PAUSE, soft creamy tempeh” จากคณะเกษตรฯ ม.นเรศวร คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวที ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023

ผลิตภัณฑ์ “ISO-PAUSE, soft creamy tempeh” ผลงานของนิสิตและ รองศาสตราจารย์ ดร. ทิพวรรณ ทองสุข หัวหน้าภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการแข่งขัน ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023 ประเภทบุคคลทั่วไป (General Public) ที่จัดขึ้นเมื่อที่ 14 – 15 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การแข่งขัน ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023 เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการนานาชาติด้านความมั่นคงอาหาร ASEAN-ASSET 2023: Global Summit on The Future of Future Food ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปเอเชีย เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความตระหนักเรื่องความมั่นคงของอาหารเพื่ออนาคต ซึ่งมุ่งเน้นขอบเขตอาหารในอนาคต ความปลอดภัยอาหารในอนาคต ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการศึกษาสำหรับอาหารในอนาคต และแนวโน้มปัจจุบันและอนาคตของอาหาร โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลก มากกว่า 400 คน และมีผู้นำเสนอผลงานมากถึงจำนวน 36 เรื่อง ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา และผู้ประกอบการ นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืน โดยทีมจากภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร นางสาวจิรัชยา จัดพล นิสิตระดับปริญญาเอก นายวราเทพ บัวสุ่มและนางสาวกัลยรัตน์ บานแย้ม นิสิตระดับปริญญาโท นางสาวณัฏฐ์ชานันท์ รักธัญญาการ นิสิตระดับปริญญาตรี รศ. ดร. ทิพวรรณ ทองสุข หัวหน้าภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร โดยมี รศ. ดร. เหรียญทอง สิงห์จานุสงค์ อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษศาสตร์ฯ และผู้อำนวยการสถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านไขมันและน้ำมัน อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

ISO-PUASE ผลิตภัณฑ์พร้อมทานจากเทมเป้ในรูปแบบ soft cream อุดมไปด้วยไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ที่สามารถทำงานทดแทนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงเมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน โดย ISO-PAUSE เพียง 1 ซอง (25 g) มี Isoflavones เทียบเท่ากับน้ำเต้าหู้ 1 แก้ว หรือเต้าหู้ 2 ก้อน และมีส่วนผสมของแคลเซียมและวิตามิน D (50% Thai RDI) โดยทั้ง Isoflavones แคลเซียม และวิตามิน D เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยพรีไบโอติกส์ (Prebiotic) จากธรรมชาติและสารอาหารต่างๆ ที่สามารถดูดซึมได้ง่ายซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการหมักเทมเป้อีกด้วย

ISO-PAUSE เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก สามารถป้องกันโรคกระดูพรุนทดแทนการบริโภคยาฮอร์โมน แคลเซียมและวิตามินแบบเม็ดได้ มีรสโยเกิร์ตและรสช็อกโกแลต เหมาะสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้สูงอายุและผู้รักสุขภาพ Link : https://www.nu.ac.th/?p=36790

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

โนรา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 คณะมนุษยศาสตร์ ได้จัดโครงการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ และคณะนักแสดงโนรา

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม ระหว่าง คณะมนุษยศาสตร์กับหน่วยงานภายนอก และเพื่อทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของคนไทย

“โนรา” เป็นศิลปะการแสดงท้องถิ่นของคนภาคใต้ ที่มีความงดงามทั้งในเรื่องของการร่ายรำ การเล่นดนตรี และการขับร้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของการแสดง “โนรา” อีกทั้ง ยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียน “โนรา” ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอีกด้วย

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เสวนา Mini-Symposium: The Visiting Professor เสริมสร้างความร่วมมือสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านวัสดุชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ และ สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านนวัตกรรมทางเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในการกล่าวเปิดและกล่าวต้อนรับ รวมถึง รศ.ดร.พัชราภรณ์ สุดชาฎา คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ที่ได้กล่าวรายงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

กิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ โดยมีการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศรวม 10 ท่าน เช่น Assistant Professor Dr. Yujia Liu และ Prof. Dr. Masafumi Unno จาก Gunma University, Japan, Dr. Celine Viennet และ Dr. Gwenael Rolin จาก University of France Comte, France, Professor Dr. David Parker จาก Hong Kong Baptist University, Hong Kong, Dr. Thanchanok Muangman จาก Thailand Institute of Scientific and Technological Research, Thailand รวมถึงนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร เช่น ศ.ดร.ภญ.จารุภา วิโยชน์, ผศ.ดร.ภญ.เพ็ญศรี เจริญสิทธิ์, Asst.Prof. Dr. Gareth Ross, และ รศ.ดร.สุกัญญา รอส

การจัดกิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการวิจัยในสาขาวัสดุชีวภาพและนวัตกรรมทางเคมี ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาชุมชนได้ในอนาคต การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการวิจัย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่า

กิจกรรมดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDGs 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย SDGs 9 มุ่งเน้นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและวัสดุชีวภาพซึ่งสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ในขณะที่ SDGs 17 เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จึงเป็นการสร้างเครือข่ายการวิจัยที่มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

กิจกรรม Mini-Symposium ครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพและสามารถสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาจึงเป็นการช่วยขยายขีดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการปฐมนิเทศฝึกงานวิชาชีพ สำหรับนิสิตหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในการกล่าวเปิดและกล่าวให้โอวาท ในโครงการปฐมนิเทศฝึกงานวิชาชีพ สำหรับนิสิตหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ชั้นปีที่ 4 รวมถึงให้ข้อแนะนำถึงแนวทางข้อปฏิบัติ การวางตัว และการฝึกปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น แก่นิสิตก่อนการออกฝึกปฏิบัติงาน ทั้งในสถานประกอบการของทั้งภาครัฐ และเอกชน

โดยในการจัดโครงการฯ ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาคภูมิ สุขเจริญ อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นวิทยากรบรรยาย ในหัวข้อ “การเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกงานวิชาชีพ” เพื่อเป็นการแนะนำให้นิสิตได้เตรียมความพร้อม ก่อนออกฝึกปฏิบัติงาน ได้เรียนรู้ถึงรูปแบบการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร การติดต่อประสานงาน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับตัวเมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ให้ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานทางวิชาชีพจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพ ต่อไปในอนาคต ณ ห้อง PH 305 ชั้น 3 อาคารเรียนรวมคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร เจรจาความร่วมมือด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน

คณะผู้บริหารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ผู้บริหารหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเจรจาความร่วมมือด้านวิชาการ หลักสูตรการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู เมืองเฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

เปิดโลกการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานดิจิทัล

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ Beyond Coding – Intensive Onsite Training ขึ้นในระหว่างวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2566 เพื่อมุ่งเน้นให้นิสิตที่ได้รับคัดเลือก จำนวน 60 คน ในเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานดิจิทัล ได้นำทักษะพื้นฐานมาสร้างนวัตกรรมดิจิทัล และมีโอกาสไปฝึกงานในบริษัทและองค์กรชั้นนำของประเทศ อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.สัมฤทธิ์ โม้พวง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ เป็นประธานในการกล่าวเปิดโครงการดังกล่าว

ซึ่งการจัดโครงการ Beyond Coding – Intensive Onsite Training ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนสนับสนุน โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ระเบียน วังคีรี เป็นหัวหน้าโครงการ

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร มุ่งอนุรักษ์แหล่งน้ำและความหลากหลายทางชีวภาพ

มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ยังคงเป็นตัวอย่างที่สำคัญในการสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 15) โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัย ผ่านการดูแลแหล่งน้ำและพันธุ์ไม้ที่หลากหลาย การสร้างพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับสัตว์ป่า และการทำให้มหาวิทยาลัยเป็น “มหาวิทยาลัยสีเขียว” หรือ Green University ที่มีความยั่งยืนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม

มหาวิทยาลัยนเรศวรมีพื้นที่แหล่งน้ำกว่า 225 ไร่ ซึ่งคิดเป็น 16.24% ของพื้นที่ทั้งหมด โดยแหล่งน้ำเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ ทั้งในด้านการเป็นแหล่งน้ำสำหรับการใช้งานต่าง ๆ การดูแลรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับนิสิตและประชาชนที่สนใจในการศึกษาเกี่ยวกับการอนุรักษ์น้ำและธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพักพิงของสัตว์น้ำและสัตว์ป่าหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้

การอนุรักษ์แหล่งน้ำและพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัยยังสะท้อนให้เห็นถึงการเคารพและเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดยการตั้งชื่อแหล่งน้ำในมหาวิทยาลัยให้มีชื่อที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษาความสำคัญของแหล่งน้ำในพื้นที่และสร้างความตระหนักรู้แก่ชุมชนเกี่ยวกับการอนุรักษ์แหล่งน้ำที่เป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้มีการปลูกต้นไม้และอนุรักษ์พันธุ์ไม้ที่หลากหลาย เพื่อลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและรักษาความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ โดยการสร้างพื้นที่สีเขียวในมหาวิทยาลัย ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับสิ่งแวดล้อมและมีผลดีต่อสุขภาพของนิสิต บุคลากร และชุมชนโดยรอบ

ในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 15), การอนุรักษ์แหล่งน้ำและพันธุ์ไม้ในมหาวิทยาลัยนเรศวรไม่ได้เป็นเพียงการรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับระบบนิเวศและการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความรู้และความตระหนักรู้ให้กับเยาวชนและสังคมในการร่วมมือกันอนุรักษ์และปกป้องธรรมชาติให้คงอยู่สำหรับอนาคต

การดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในด้านนี้ยังรวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นให้บุคลากรและนิสิตเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติและแหล่งน้ำ รวมถึงการพัฒนานโยบายที่เน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อให้มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นตัวอย่างในการดำเนินการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ.

มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงไม่เพียงแค่เป็นสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการเรียนรู้และการวิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบในการสร้างความตระหนักรู้และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพในระดับท้องถิ่น โดยการบูรณาการแนวคิดของการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน.

NULIFE เพราะการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด

มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับสมัครโครงการสัมฤทธิบัตร เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับปริญญาตรี และขอเทียบโอนผลการเรียนรายวิชามาเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาต่อในหลักสูตรระดับปริญญาตรี โดยการสะสมหน่วยกิต (Credit Bank)

โดยภาคเรียนที่ 2/2566 เรียนร่วมกับนิสิตระดับปริญญาตรีในชั้นเรียนปกติในเวลาราชการ ทั้งหมด 82 รายวิชา ผ่านระบบ NULife (Naresuan University Lifelong Learning) >> https://nulife.nu.ac.th

เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2566 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nu.ac.th/?p=36633 หรือที่ https://www.youtube.com/watch?v=365w_IRBea0#nusdg4

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เรียนรู้ทักษะพร้อมทำงานกับ Samart Skills

ผู้สมัคร Samart Skills จะได้รับ e-Mail แจ้ง Link เข้าเรียนจาก coursera.org ระหว่างวันที่ 15-20 พฤศจิกายน 2566

ศึกษาขั้นตอนการเข้าเรียนได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Fq6ckupGqC4

สอบถามข้อมูล ได้ที่ คุณจินตนา ชัยรัตนศักดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-1510 หรือ e-Mail : citcoms_training@nu.ac.th

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การนำของ รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และ รองศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ แก้วก่อง รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ได้ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชนจัดกิจกรรมบริการวิชาการ “การให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ” ให้แก่คณะครู นักเรียน และประชาชนในตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการรักษาสุขภาพตามหลักภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการใช้ สมุนไพรท้องถิ่น ในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ซึ่งเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายประการ โดยเฉพาะในด้าน SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, SDG 4: การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต, และ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.

กิจกรรมการให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพร: การจัดกิจกรรมนี้ได้แก่การ สาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้พืชสมุนไพรจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและคัดจมูก โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้วิธีการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณเท่านั้น แต่ยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้ สมุนไพรไทย ที่มีอยู่ในท้องถิ่นเพื่อดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันอย่างปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับการรักษาสุขภาพในวิถีธรรมชาติที่ยั่งยืน.

การใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเป็นการเสริมสร้างการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน ทั้งในแง่ของการดูแลร่างกายและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น โดยกิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมการ อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

การเสริมสร้างความรู้และการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชน: กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการ ค่ายวิทย์แพทย์อาสา โดยมี หน่วยงานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้จัดการดำเนินงาน และได้รับการสนับสนุนจาก โรงเรียนบ้านหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย. นอกจากการสาธิตการทำยาดมสมุนไพรแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่ความรู้และสร้างทักษะใหม่ ๆ ให้กับคณะครู นักเรียน และประชาชนในชุมชน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการใช้สมุนไพรไทย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดี.

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านสมุนไพรเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างการ มีส่วนร่วมของชุมชน ในการพัฒนาองค์ความรู้และการพัฒนาที่ยั่งยืนทางด้านสุขภาพ โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความยั่งยืน.

การสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน: การจัดกิจกรรมนี้ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการ ร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่น ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน. มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำได้มีบทบาทในการนำความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้แก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ.

การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการศึกษา (SDG 4): กิจกรรมนี้ยังเชื่อมโยงกับ SDG 4: การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เนื่องจากมันเน้นการให้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ แก่ประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะในด้านการใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเพื่อดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้.

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin