ตัวเงินตัวทอง หรือ เหี้ย (Varanus salvator) เป็นสัตว์เลื้อยคลานในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่ประเทศบังกลาเทศ ศรีลังกา และอินเดีย จนถึงอินโดจีน และเกาะต่าง ๆ ของอินโดนีเซีย โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ ในประเทศไทยจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทหนึ่ง
สัตว์ตระกูลเหี้ยในประเทศไทยมีอยู่ 4 ตระกูลคือ 1. เหี้ย 2. แลนหรือตะกวด 3. เห่าช้าง อยู่ทางภาคใต้ และ 4. ตุ๊ดตู่ ครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพูดกันเป็นวงในว่า จะเปลี่ยนชื่อจากตัวเหี้ยเป็น “วรนัส” หรือ “วรนุส” หรือ “วรนุช” (สกุล Varanus อ่านเป็นภาษาละตินว่า วารานุส ซึ่งคล้ายกับคำว่า วรนุช)
จนเกิดเป็นกระแสข่าวอยู่ช่วงหนึ่งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งหลังจากที่มีกระแสข่าวนี้ออกมา คำว่าวรนุชนั้นก็ถูกนำไปใช้ในการสื่อความหมายไปในทางเสื่อมเสียบนอินเทอร์เน็ต และส่งผลกระทบต่อบุคคลที่ชื่อวรนุชไปโดยปริยาย
มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็เป็นพื้นที่ที่มี ตัวเงินตัวทอง หรือ เหี้ย จำนวนมาก โดยอาศัยใกล้ตามแหล่งน้ำภายในมหาวิทยาลัย ซึ่งมหาวิทยาก็ปล่อยให้ ตัวเงินตัวทอง หรือ เหี้ย อาศัยอยู่อย่างอิสระ ไม่มีใครไปรบกวน ซึ่งสามารถพบเห็นน้องๆ ได้บ่อยๆ ตามอาคารเรียน เพราะน้องๆ จะหาโพรงใกล้อาคารเรียนเหล่านั้นเป็นที่อยู่อาศัย
ประโยชน์ของ “ตัวเงินตัวทอง”
1. ช่วยกำจัดซากสัตว์ มีระบบการย่อยอาหารที่ดีเยี่ยม ในกระเพาะมีน้ำย่อยที่มีความเป็นกรดรุนแรงและแบคทีเรียสำหรับย่อยสลายซากเน่าโดยเฉพาะ
2. ช่วยกินไข่งูพิษ ไม่เฉพาะไข่งูพิษ ตัวเงินตัวทอง กินไข่ของสัตว์ต่าง ๆ รวมทั้งปลา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวเงินตัวทอง มิใช่สัตว์นักล่า แต่เป็นสัตว์กินซากโดยธรรมชาติ บางครั้งอาจกินเหี้ยขนาดเล็กกว่าเป็นอาหารได้
3. ตัวมันเป็นสัตว์เศรษฐกิจอย่างแท้จริง ต่างประเทศนำไปทำกระเป๋า เข็มขัดราคาแพงมาก ส่วนเครื่องใน ดี ตับ เป็นยารักษาโรคหัวใจ มีการส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงกัน เพื่อนำเนื้อไปใช้ในการบริโภค โดยเฉพาะเนื้อบริเวณส่วนโคนหางที่เรียกว่า “บ้องตัน”ในต่างประเทศนิยมกินกันราคาแพงมาก และหนังไปทำเครื่องหนัง เช่น กระเป๋า, เข็มขัด เช่นเดียวกับจระเข้ และในทางวิชาการยังมีการเก็บและตรวจสอบดีเอ็นเอของเหี้ย โดยภาควิชาพันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อศึกษาถึงความหลากหลายทางพันธุกรรม เพื่อจะพัฒนาให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจต่อไปในอนาคตอีกด้วย
ที่มา: news.trueid.net