Archives November 2023

ม.นเรศวร จัดอบรม CPR และ AED เสริมทักษะช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน มุ่งสู่สุขภาพดีและสังคมยั่งยืน

เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดการอบรม การช่วยฟื้นคืนชีพด้วยวิธีการปั๊มหัวใจ (CPR) และ การใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ซึ่งจัดขึ้นที่ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร การอบรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมทักษะและความรู้ให้กับผู้เข้ารับการอบรมในการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉินและการปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้ประสบเหตุมีอาการหัวใจหยุดเต้นหรือภาวะฉุกเฉินที่ต้องการการช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน

การอบรมในครั้งนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการช่วยชีวิตในกรณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของการเสียชีวิตอย่างรวดเร็วในกรณีฉุกเฉิน การฝึกปฏิบัติการ ปั๊มหัวใจ (CPR) และการใช้ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถช่วยชีวิตคนในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการเสริมความรู้ในการประสานงานกับ หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และการ ส่งตัวผู้บาดเจ็บ ไปยังสถานพยาบาลได้อย่างทันท่วงที

การอบรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าอบรมสามารถทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว และในบางกรณีอาจช่วย เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ของผู้ประสบเหตุได้

การอบรมดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก ทีมแพทย์ฉุกเฉิน จาก โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ ที่ได้ให้เกียรติเป็นวิทยากรในการบรรยายและฝึกปฏิบัติการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยชีวิต เช่น การใช้ เครื่อง AED และ เทคนิคการทำ CPR ที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจในวิธีการที่เหมาะสมในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในระหว่างที่รอการมาถึงของทีมแพทย์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้ให้ ความอนุเคราะห์สถานที่ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการอบรม ซึ่งทำให้การอบรมในครั้งนี้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและมีคุณภาพ โดยมี สถานที่ที่พร้อม และ อุปกรณ์ที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับประสบการณ์การฝึกปฏิบัติอย่างแท้จริง

การอบรมในครั้งนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3: Good Health and Well-Being) โดยการพัฒนาทักษะในการช่วยชีวิตและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นถือเป็นการส่งเสริม สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี สำหรับทุกคนในสังคม การมีความรู้เกี่ยวกับการช่วยชีวิตและการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องจะช่วย ลดอัตราการเสียชีวิต จากอุบัติเหตุหรือภาวะฉุกเฉิน และช่วยให้มีการรักษาที่เหมาะสมและทันเวลา

นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังสนับสนุน SDG 11: Sustainable Cities and Communities โดยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในด้านการตอบสนองฉุกเฉินและการช่วยชีวิตในชุมชน ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้เกิด สังคมที่มีความยั่งยืนและปลอดภัย โดยทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลและช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การอบรมในครั้งนี้มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมมีทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและในกรณีฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับการหยุดเต้นของหัวใจ ผู้ที่ผ่านการอบรมสามารถทำการ ปั๊มหัวใจ และใช้เครื่อง AED ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ เพิ่มโอกาสในการรอดชีวิต ของผู้ประสบเหตุได้มากขึ้น และลดภาระการบาดเจ็บและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในชุมชนได้

นอกจากนี้การอบรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมการสร้าง เครือข่าย และการ ร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน ซึ่งช่วยให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้าง ความเข้มแข็งให้กับสังคม และทำให้ ทุกคน มีส่วนร่วมในการดูแลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ตรวจสุขภาพประจำปี กับผลตอบแทน ที่ทำให้มีความมั่นใจในการใช้ชีวิต

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (SDGs 3) ผ่านการเผยแพร่ข้อมูลและความรู้ในด้านสุขภาพแก่ประชาชน รวมถึงการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในการสนับสนุนการพัฒนาความรู้ด้านการแพทย์และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ เผยแพร่สัมภาษณ์ ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มีการสัมภาษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้ ซึ่งเป็นการสื่อสารความรู้และข้อมูลที่สำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพในสังคม.

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้เผยแพร่ผ่านหลายช่องทางที่มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดทำขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ฟังและผู้ชมได้มากขึ้น ได้แก่:

  • FM 107.25 MHz สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางการแพทย์และสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องของการดูแลสุขภาพที่มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน
  • เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านลิงค์ เว็บไซต์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ผู้สนใจสามารถเข้าถึงบทสัมภาษณ์และข้อมูลเพิ่มเติมได้สะดวก
  • YouTube Channel ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่านลิงค์ YouTube เพื่อให้การรับชมเป็นไปอย่างสะดวกและสามารถแชร์ข้อมูลให้กับผู้คนในวงกว้าง

การเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางเหล่านี้ไม่เพียงแต่เสริมสร้างการรับรู้เรื่องสุขภาพในระดับท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังช่วยขยายการเข้าถึงความรู้ไปยังกลุ่มผู้ฟังและผู้ชมจากทั่วประเทศอีกด้วย ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อ SDGs 3 ในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ประชาชน.

ในระหว่างการสัมภาษณ์ ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ได้กล่าวถึง ความสำคัญของการสื่อสารด้านสุขภาพ และ บทบาทของคณะแพทยศาสตร์ในการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ในหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค และการส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพในชุมชน การให้ความรู้เรื่องสุขภาพยังสามารถสร้างความตระหนักให้กับสังคมถึงวิธีการดูแลรักษาสุขภาพในชีวิตประจำวันและกระตุ้นให้เกิดการดูแลตนเองได้ดีขึ้น

การประชาสัมพันธ์และการสื่อสารข้อมูลที่มีคุณค่าเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันที่ประชาชนต้องเผชิญกับการแพร่กระจายของข้อมูลทั้งจริงและไม่จริง โดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จึงให้ความสำคัญกับการใช้ช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อวิทยุกระจายเสียง เว็บไซต์ และ YouTube ในการส่งเสริมการรับรู้ด้านสุขภาพที่ถูกต้องและมีคุณภาพ สำหรับผู้ฟังและผู้ชมที่สนใจข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ

การเผยแพร่บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับสื่อสารองค์กรและเครือข่ายต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน SDGs 3 โดยการมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการป้องกันโรค ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมโดยรวม

คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณ เครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ ที่ช่วยเสริมสร้างการประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลที่มีคุณค่า พร้อมทั้ง คลิปวิดีโอ จาก PR Medicine NU YouTube Channel ที่ช่วยให้ข้อมูลต่าง ๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ชมและผู้ฟัง

ม.นเรศวร คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวที ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023

ผลงาน “ISO-PAUSE, soft creamy tempeh” จากคณะเกษตรฯ ม.นเรศวร คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากเวที ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023

ผลิตภัณฑ์ “ISO-PAUSE, soft creamy tempeh” ผลงานของนิสิตและ รองศาสตราจารย์ ดร. ทิพวรรณ ทองสุข หัวหน้าภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จากการแข่งขัน ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023 ประเภทบุคคลทั่วไป (General Public) ที่จัดขึ้นเมื่อที่ 14 – 15 พฤศจิกายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

การแข่งขัน ASEAN-ASSET FIN-TU Product Development Competition 2023 เป็นส่วนหนึ่งของการประชุมวิชาการนานาชาติด้านความมั่นคงอาหาร ASEAN-ASSET 2023: Global Summit on The Future of Future Food ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในทวีปเอเชีย เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความตระหนักเรื่องความมั่นคงของอาหารเพื่ออนาคต ซึ่งมุ่งเน้นขอบเขตอาหารในอนาคต ความปลอดภัยอาหารในอนาคต ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมและการศึกษาสำหรับอาหารในอนาคต และแนวโน้มปัจจุบันและอนาคตของอาหาร โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วทุกมุมโลก มากกว่า 400 คน และมีผู้นำเสนอผลงานมากถึงจำนวน 36 เรื่อง ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา และผู้ประกอบการ นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืน โดยทีมจากภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร นางสาวจิรัชยา จัดพล นิสิตระดับปริญญาเอก นายวราเทพ บัวสุ่มและนางสาวกัลยรัตน์ บานแย้ม นิสิตระดับปริญญาโท นางสาวณัฏฐ์ชานันท์ รักธัญญาการ นิสิตระดับปริญญาตรี รศ. ดร. ทิพวรรณ ทองสุข หัวหน้าภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร โดยมี รศ. ดร. เหรียญทอง สิงห์จานุสงค์ อาจารย์ประจำภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร คณะเกษศาสตร์ฯ และผู้อำนวยการสถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านไขมันและน้ำมัน อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา

ISO-PUASE ผลิตภัณฑ์พร้อมทานจากเทมเป้ในรูปแบบ soft cream อุดมไปด้วยไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ที่สามารถทำงานทดแทนระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงเมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน โดย ISO-PAUSE เพียง 1 ซอง (25 g) มี Isoflavones เทียบเท่ากับน้ำเต้าหู้ 1 แก้ว หรือเต้าหู้ 2 ก้อน และมีส่วนผสมของแคลเซียมและวิตามิน D (50% Thai RDI) โดยทั้ง Isoflavones แคลเซียม และวิตามิน D เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยพรีไบโอติกส์ (Prebiotic) จากธรรมชาติและสารอาหารต่างๆ ที่สามารถดูดซึมได้ง่ายซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการหมักเทมเป้อีกด้วย

ISO-PAUSE เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนและเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก สามารถป้องกันโรคกระดูพรุนทดแทนการบริโภคยาฮอร์โมน แคลเซียมและวิตามินแบบเม็ดได้ มีรสโยเกิร์ตและรสช็อกโกแลต เหมาะสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ผู้สูงอายุและผู้รักสุขภาพ Link : https://www.nu.ac.th/?p=36790

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

โนรา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 คณะมนุษยศาสตร์ ได้จัดโครงการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ และคณะนักแสดงโนรา

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม ระหว่าง คณะมนุษยศาสตร์กับหน่วยงานภายนอก และเพื่อทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของคนไทย

“โนรา” เป็นศิลปะการแสดงท้องถิ่นของคนภาคใต้ ที่มีความงดงามทั้งในเรื่องของการร่ายรำ การเล่นดนตรี และการขับร้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของการแสดง “โนรา” อีกทั้ง ยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียน “โนรา” ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอีกด้วย

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เสวนา Mini-Symposium: The Visiting Professor เสริมสร้างความร่วมมือสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านวัสดุชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ และ สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านนวัตกรรมทางเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในการกล่าวเปิดและกล่าวต้อนรับ รวมถึง รศ.ดร.พัชราภรณ์ สุดชาฎา คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ที่ได้กล่าวรายงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

กิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ โดยมีการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศรวม 10 ท่าน เช่น Assistant Professor Dr. Yujia Liu และ Prof. Dr. Masafumi Unno จาก Gunma University, Japan, Dr. Celine Viennet และ Dr. Gwenael Rolin จาก University of France Comte, France, Professor Dr. David Parker จาก Hong Kong Baptist University, Hong Kong, Dr. Thanchanok Muangman จาก Thailand Institute of Scientific and Technological Research, Thailand รวมถึงนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร เช่น ศ.ดร.ภญ.จารุภา วิโยชน์, ผศ.ดร.ภญ.เพ็ญศรี เจริญสิทธิ์, Asst.Prof. Dr. Gareth Ross, และ รศ.ดร.สุกัญญา รอส

การจัดกิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการวิจัยในสาขาวัสดุชีวภาพและนวัตกรรมทางเคมี ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาชุมชนได้ในอนาคต การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการวิจัย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่า

กิจกรรมดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDGs 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย SDGs 9 มุ่งเน้นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและวัสดุชีวภาพซึ่งสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ในขณะที่ SDGs 17 เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จึงเป็นการสร้างเครือข่ายการวิจัยที่มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

กิจกรรม Mini-Symposium ครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพและสามารถสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาจึงเป็นการช่วยขยายขีดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการปฐมนิเทศฝึกงานวิชาชีพ สำหรับนิสิตหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2566 รองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในการกล่าวเปิดและกล่าวให้โอวาท ในโครงการปฐมนิเทศฝึกงานวิชาชีพ สำหรับนิสิตหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ชั้นปีที่ 4 รวมถึงให้ข้อแนะนำถึงแนวทางข้อปฏิบัติ การวางตัว และการฝึกปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น แก่นิสิตก่อนการออกฝึกปฏิบัติงาน ทั้งในสถานประกอบการของทั้งภาครัฐ และเอกชน

โดยในการจัดโครงการฯ ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภาคภูมิ สุขเจริญ อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นวิทยากรบรรยาย ในหัวข้อ “การเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกงานวิชาชีพ” เพื่อเป็นการแนะนำให้นิสิตได้เตรียมความพร้อม ก่อนออกฝึกปฏิบัติงาน ได้เรียนรู้ถึงรูปแบบการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร การติดต่อประสานงาน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับตัวเมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น ให้ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานทางวิชาชีพจากผู้ปฏิบัติงานจริง เพื่อที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพ ต่อไปในอนาคต ณ ห้อง PH 305 ชั้น 3 อาคารเรียนรวมคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร เจรจาความร่วมมือด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน

คณะผู้บริหารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ผู้บริหารหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเจรจาความร่วมมือด้านวิชาการ หลักสูตรการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู เมืองเฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

เปิดโลกการเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานดิจิทัล

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการ Beyond Coding – Intensive Onsite Training ขึ้นในระหว่างวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2566 เพื่อมุ่งเน้นให้นิสิตที่ได้รับคัดเลือก จำนวน 60 คน ในเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับตลาดแรงงานดิจิทัล ได้นำทักษะพื้นฐานมาสร้างนวัตกรรมดิจิทัล และมีโอกาสไปฝึกงานในบริษัทและองค์กรชั้นนำของประเทศ อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับทุนการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.สัมฤทธิ์ โม้พวง คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ เป็นประธานในการกล่าวเปิดโครงการดังกล่าว

ซึ่งการจัดโครงการ Beyond Coding – Intensive Onsite Training ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนสนับสนุน โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.ระเบียน วังคีรี เป็นหัวหน้าโครงการ

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

NULIFE เพราะการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด

มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับสมัครโครงการสัมฤทธิบัตร เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับปริญญาตรี และขอเทียบโอนผลการเรียนรายวิชามาเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาต่อในหลักสูตรระดับปริญญาตรี โดยการสะสมหน่วยกิต (Credit Bank)

โดยภาคเรียนที่ 2/2566 เรียนร่วมกับนิสิตระดับปริญญาตรีในชั้นเรียนปกติในเวลาราชการ ทั้งหมด 82 รายวิชา ผ่านระบบ NULife (Naresuan University Lifelong Learning) >> https://nulife.nu.ac.th

เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2566 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nu.ac.th/?p=36633 หรือที่ https://www.youtube.com/watch?v=365w_IRBea0#nusdg4

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เรียนรู้ทักษะพร้อมทำงานกับ Samart Skills

ผู้สมัคร Samart Skills จะได้รับ e-Mail แจ้ง Link เข้าเรียนจาก coursera.org ระหว่างวันที่ 15-20 พฤศจิกายน 2566

ศึกษาขั้นตอนการเข้าเรียนได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Fq6ckupGqC4

สอบถามข้อมูล ได้ที่ คุณจินตนา ชัยรัตนศักดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-1510 หรือ e-Mail : citcoms_training@nu.ac.th

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin