Archives 2024

คณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.นเรศวร เปิดโครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน ปี 2567 เตรียมนิสิตสู่การทำงานในชุมชน

ในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดการประชุมครูพี่เลี้ยง โครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน สำหรับนิสิตหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอนามัยชุมชน ชั้นปีที่ 4 โดยมี ผศ.ดร.กานต์พิชชา เกียรติกิจโรจน์ รองคณบดีฝ่ายบริหารและวางแผน เป็นประธานในพิธีเปิดงานและกล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งให้โอวาทแก่นิสิตที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยมี ผศ.ดร.ธนัช กนกเทศ ประธานหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอนามัยชุมชน เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ และ รศ.ดร.ณรงค์ศักดิ์ หนูสอน หัวหน้าสาขาวิชาอนามัยชุมชน เป็นผู้กล่าวชี้แจงรายละเอียดและแนวทางการปฏิบัติให้แก่ครูพี่เลี้ยงจากสถานที่ฝึกปฏิบัติงานทั่วประเทศ.

วัตถุประสงค์ของโครงการ โครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชนมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้นิสิตได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพในระดับปฐมภูมิ การจัดการระบบสุขภาพในชุมชน และการทำงานร่วมกับครูพี่เลี้ยงที่มีประสบการณ์ในการให้บริการสุขภาพในพื้นที่ชุมชน.

การฝึกประสบการณ์นี้จะช่วยให้นิสิตได้ฝึกฝนทักษะในด้านการวางแผนและการบริหารจัดการด้านสุขภาพชุมชน รวมทั้งทำความเข้าใจในบทบาทของสาธารณสุขในระดับท้องถิ่น การทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับประชาชน รวมถึงการเข้าใจถึงความท้าทายที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติงานจริง.

การฝึกงานที่สำคัญและความร่วมมือกับครูพี่เลี้ยง การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักในการ ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ การ ปฏิบัติตัว และการ ให้ข้อมูลกฎระเบียบต่าง ๆ สำหรับนิสิตที่กำลังจะเริ่มต้นฝึกงานในพื้นที่จริง ซึ่งครูพี่เลี้ยงจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จะช่วยแนะนำและคอยดูแลนักศึกษาในการปฏิบัติงานในพื้นที่ชุมชน.

นิสิตจะได้มีโอกาส พบปะ และ พูดคุย กับครูพี่เลี้ยงและอาจารย์ผู้ดูแลโครงการ เพื่อ สอบถามปัญหาหรืออุปสรรค ที่อาจเกิดขึ้นในการฝึกงานและการให้บริการสุขภาพในชุมชน รวมถึงการได้รับคำแนะนำในการพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริง.

การพบปะนี้ยังเป็นโอกาสที่นิสิตจะได้ เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และสามารถนำความรู้ที่ได้รับจากการเรียนในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้ในการทำงานในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบสุขภาพชุมชน.

การฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชนนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายที่ 3 (Good Health and Well-being) และ เป้าหมายที่ 11 (Sustainable Cities and Communities) ของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคนในชุมชน.

โดยเฉพาะในส่วนของ SDGs 3 ที่เน้นการ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี และการ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงบริการสุขภาพ โครงการฝึกประสบการณ์นี้จะช่วยเตรียมทักษะและความรู้ในการให้บริการสุขภาพในชุมชนให้แก่ผู้ที่จำเป็นต้องการดูแลในด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคอย่างยั่งยืน.

ส่วนในด้าน SDGs 11 โครงการนี้ช่วยส่งเสริม การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืน โดยการเตรียมผู้ที่มีความรู้ในด้านการดูแลสุขภาพให้สามารถทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อสร้างระบบสุขภาพที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

การเตรียมตัวและความพร้อมก่อนการลงพื้นที่ นิสิตทุกคนที่เข้าร่วมโครงการจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ กระบวนการปฏิบัติงาน และ แนวทางการดูแลสุขภาพ ในพื้นที่ชุมชนอย่างละเอียดจากครูพี่เลี้ยง ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจในการลงพื้นที่และสามารถ ประยุกต์ใช้ความรู้ จากการเรียนในห้องเรียนเข้าสู่การปฏิบัติในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

การจัดกิจกรรมนี้จึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้นิสิตได้ฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการ พัฒนาสังคมและชุมชน และช่วยสร้าง ระบบสุขภาพที่ยั่งยืน โดยการฝึกปฏิบัติในพื้นที่จริงซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอนาคตเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน.

โครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพสาธารณสุขชุมชนประจำปีการศึกษา 2567 ของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นโครงการที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตในการทำงานจริงในชุมชน โดยการสร้างความรู้และทักษะในการให้บริการสุขภาพและการบริหารจัดการระบบสุขภาพในพื้นที่ พร้อมทั้งเป็นการสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพและการพัฒนาชุมชน โดยการร่วมมือกับครูพี่เลี้ยงจากโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุขต่างๆ.

ที่มา: คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

NU SEED ม.นเรศวร เดินหน้าขับเคลื่อนสร้างผู้ประกอบการสู่เวทีโลก

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงบทบาทสำคัญใน SDG 8 (Decent Work and Economic Growth) ซึ่งเน้นการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงานที่เหมาะสม และการพัฒนาผู้ประกอบการ โดยมี NU SEED (Science and Technology Park) เป็นศูนย์กลางในการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการท้องถิ่นและระดับประเทศให้มีความพร้อมในการแข่งขันในตลาดโลก

ความสำเร็จของ NU SEED: การสร้างผู้ประกอบการสู่ตลาดโลก NU SEED มีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยล่าสุด บริษัท นวล อนันต์ จินเจอร์ ฟู๊ด จำกัด หนึ่งในผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การดูแลของ NU SEED ได้รับ “รางวัลผู้ประกอบการโดดเด่น สาขา Internationalization” ในงาน “Thai-BISPA Day 2024”

จุดเด่นของความสำเร็จ
  1. การสนับสนุนผู้ประกอบการในการขยายตลาด
    • NU SEED สนับสนุนการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการในระดับท้องถิ่นและผลักดันให้เข้าสู่ตลาดสากล
    • ส่งเสริมความรู้และเครื่องมือในการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์
  2. เน้นนวัตกรรมและความยั่งยืน
    • บริษัท นวล อนันต์ จินเจอร์ ฟู๊ด จำกัด ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้ทรัพยากรท้องถิ่น เช่น ขิง มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
    • การดำเนินธุรกิจที่ผสมผสานนวัตกรรมและความยั่งยืนสร้างความโดดเด่นในตลาด
บทบาทของ NU SEED ใน SDG 8
  1. การสร้างงานและการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
    • NU SEED ช่วยสร้างงานในชุมชนและยกระดับผู้ประกอบการท้องถิ่นสู่การเติบโตที่ยั่งยืน
    • สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของ SME และ Startups ผ่านการฝึกอบรม ให้คำปรึกษา และเครือข่ายพันธมิตร
  2. การเชื่อมต่อกับตลาดโลก
    • เสริมสร้างความสามารถของผู้ประกอบการในการขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ
    • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยในระดับสากล
การเชื่อมโยงกับเป้าหมาย SDGs อื่น ๆ
  • การสนับสนุนธุรกิจที่ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นอย่างยั่งยืนยังส่งผลต่อ SDG 12 (Responsible Consumption and Production) และ SDG 9 (Industry, Innovation, and Infrastructure)

ติดตามความก้าวหน้าของ NU SEED : NU SEED เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการสามารถติดตามและเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านเศรษฐกิจและนวัตกรรมได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น

  • Facebook: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • Line: @nuscipark
  • Website: scipark.nu.ac.th
  • TikTok: @nuscipark

ความสำเร็จของบริษัท นวล อนันต์ จินเจอร์ ฟู๊ด จำกัด ในการได้รับรางวัล “ผู้ประกอบการโดดเด่น” เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกจากการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยนเรศวรผ่าน NU SEED ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังสะท้อนถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยในการสร้างความยั่งยืนผ่านการพัฒนาผู้ประกอบการและนวัตกรรมในระดับสากล.

ม.เรศวร ร่วมเสริมสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเข้าถึงกระบวนการกฎหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ตระหนักถึงบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 16 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมที่สงบสุข ยุติธรรม และมีสถาบันที่โปร่งใสและเข้มแข็ง ในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ริเริ่มกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของประชาชน รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจด้านกฎหมาย โดยกิจกรรมล่าสุดคือ “การให้คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้นแก่ประชาชน” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสังคมที่มีความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในกระบวนการยุติธรรม

  1. หัวข้อและวัตถุประสงค์ของกิจกรรม
    • กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ทำอย่างไรเมื่อจะฟ้อง หรือถูกฟ้อง”
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ
      • กระบวนการทางกฎหมายในกรณีฟ้องร้อง
      • การเตรียมเอกสารที่จำเป็น
      • ขั้นตอนและวิธีการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดี
    • ให้บริการ คำปรึกษากฎหมายเบื้องต้น แก่ประชาชน บุคลากร และนิสิต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
  2. ผู้ร่วมดำเนินกิจกรรม
    • ความร่วมมือระหว่าง คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ สภาทนายความภาค 6
    • การผนึกกำลังนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและหน่วยงานด้านกฎหมาย
  3. กลุ่มเป้าหมาย
    • ประชาชนในพื้นที่ ตำบลท่าโพธิ์
    • บุคลากร และนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
    • ประชาชนทั่วไปที่สนใจ
  4. วัน เวลา และสถานที่จัดกิจกรรม
    • วัน: อังคารที่ 3 ธันวาคม 2567
    • เวลา: 08.30 – 12.00 น.
    • สถานที่: บริเวณโถงชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  5. การลงทะเบียน
    • ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่าน QR Code หรือลิงก์ที่ระบุในประกาศ

กิจกรรมนี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในหลากหลายมิติ ได้แก่

  • การลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยให้ประชาชนที่ขาดโอกาสสามารถเข้าถึงข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมาย
  • การเสริมสร้างความรู้: ส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม
  • การเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชน: สนับสนุนให้ชุมชนมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหากฎหมายด้วยตัวเอง

การดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้กรอบเป้าหมาย SDG 16 สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสังคมผ่านการส่งเสริมความยุติธรรมและการให้ความรู้แก่ประชาชนในวงกว้าง กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำของมหาวิทยาลัยในการสนับสนุนสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน นอกจากนี้ยัง สะท้อนถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรวิชาชีพ โดย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ สภาทนายความภาค 6 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักในการขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสังคม ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการศึกษาและวิชาชีพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDG 17: เครือข่ายความร่วมมือเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม

ม.นเรศวร ร่วมสถานทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก จัดนิทรรศการผ้าไทย ส่งเสริมความร่วมมือวัฒนธรรมไทย-เม็กซิโก

ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก จัด นิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทย เพื่อส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผ้าไทยและแฟชั่นไทยในต่างประเทศ โดยการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในระดับสากลเกี่ยวกับคุณค่าของผ้าไทยและภูมิปัญญาในการทอผ้าที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมไทย รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมไทยกับประเทศเม็กซิโก ซึ่งมีความคล้ายคลึงในเรื่องของผ้าชาติพันธุ์.

การออกแบบและการจัดนิทรรศการ การจัดนิทรรศการในครั้งนี้ได้รับการออกแบบและดำเนินการโดย ผศ. ชโรธรณ์ ทิพย์อุปถัมภ์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ และ นางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านผ้าไทย โดยนิทรรศการเน้นการนำเสนอผ้าไทยและผ้าชาติพันธุ์ไทที่มีความคล้ายคลึงกับผ้าของประเทศเม็กซิโก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ.

นิทรรศการนี้ได้นำเสนอ ผ้าไทยในหลากหลายรูปแบบ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทอผ้า เช่น ผ้าไหมไทย ผ้าฝ้าย ผ้าลายทอมือ โดยมีการจัดแสดงผลงานศิลปะการทอผ้าที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องแต่งกาย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายทอดวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของชาติไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในงาน.

การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ การจัดนิทรรศการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและความร่วมมือระหว่างไทยและเม็กซิโก โดยผ่านการนำเสนอผ้าไทยในมิติของ การส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น และ การเสริมสร้างอัตลักษณ์ของชาติ ผ่านภูมิปัญญาการทอผ้า นอกจากนี้ ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศเม็กซิโกได้เรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการทอผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย ซึ่งอาจมีการพัฒนาเป็นความร่วมมือทางวัฒนธรรมในอนาคต.

ในบริบทของ การพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการส่งเสริม SDGs 11 ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองและชุมชนที่ยั่งยืน โดยการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งผ้าไทยถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สามารถสร้างความยั่งยืนในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น และสร้างความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของชาติ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ SDGs 17 ที่เน้นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยการเผยแพร่วัฒนธรรมและสร้างความเข้าใจร่วมกันในระดับสากล.

การตอบรับจากผู้เข้าชมนิทรรศการ การจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทยในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมนิทรรศการในกรุงเม็กซิโกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการเผยแพร่ผ้าไทยและแฟชั่นไทยในระดับโลก รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผ่านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม. นิทรรศการดังกล่าวยังเป็นการยืนยันถึงความสำคัญของการร่วมมือระหว่างประเทศไทยและเม็กซิโกในการส่งเสริมและอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม.

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเม็กซิโก (Embajada Real de Tailandia en México) ที่ได้ให้การสนับสนุนในการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ และขอขอบคุณผู้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการทุกท่านที่ให้ความสนใจในภูมิปัญญาผ้าไทย ซึ่งเป็นการร่วมมือที่สำคัญในการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของไทยสู่สากล.

การจัดนิทรรศการภูมิปัญญาผ้าไทยในกรุงเม็กซิโกนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และ การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการส่งเสริม การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและการสร้างความยั่งยืนในชุมชน ผ่านการส่งเสริมผ้าไทยและแฟชั่นไทยให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ.

มุ่งส่งเสริมสุขภาพและสร้างความสามัคคีในชุมชน FSS Halloween Fancy Run 2024

เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์สำหรับกิจกรรม FSS Halloween Fancy Run 2024
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา กิจกรรม FSS Halloween Fancy Run 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดย คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นอย่างเรียบร้อยและประสบความสำเร็จในทุกด้าน งานวิ่งนี้ได้รับความสนใจและการเข้าร่วมจากนักวิ่งหลายร้อยคน พร้อมทั้งการสนับสนุนจากนิสิตคณะสังคมศาสตร์และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนสำคัญในการทำให้กิจกรรมนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน.

การจัดกิจกรรม FSS Halloween Fancy Run 2024 มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อ ส่งเสริมการออกกำลังกาย และ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี ในหมู่นิสิต บุคลากร และประชาชนในชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี และ การส่งเสริมกิจกรรมทางกาย เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงและลดการเกิดโรคเรื้อรังจากการขาดการเคลื่อนไหวร่างกาย.

นอกจากนี้ กิจกรรมยังมุ่งหวังที่จะ สร้างความสามัคคี และ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ผ่านการจัดกิจกรรมที่สนุกสนานและมีความหมาย เช่น การแต่งตัวในธีมฮาโลวีน ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจและเสริมสร้างบรรยากาศของการทำกิจกรรมร่วมกันในเชิงบวก.

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ทุนทรัพย์ ที่ช่วยให้กิจกรรมสามารถจัดขึ้นได้, อาหารและน้ำดื่ม สำหรับนักวิ่งและผู้เข้าร่วมกิจกรรม, รวมถึงการ สนับสนุนด้านต่างๆ จากหลายหน่วยงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือและความตั้งใจในการสร้างสรรค์กิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้เข้าร่วม.

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมี นิสิตคณะสังคมศาสตร์ ที่ร่วมแรงร่วมใจกันในการจัดเตรียมและดำเนินกิจกรรม ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความทุ่มเทในการสร้างสรรค์งานที่ไม่เพียงแต่สนุกสนาน แต่ยังมีประโยชน์ในแง่ของการ ส่งเสริมสุขภาพ และ การสร้างสังคมที่มีความร่วมมือ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการใช้ ทรัพยากรท้องถิ่น และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในชุมชน.

กิจกรรม FSS Halloween Fancy Run 2024 ได้ส่งเสริม การออกกำลังกาย และ สุขภาพที่ดี ให้แก่ผู้เข้าร่วมทุกคน ซึ่งตรงกับ เป้าหมายที่ 3 ของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3 Good Health and Well-being) โดยการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการเดิน ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวข้องกับการไม่ออกกำลังกายได้.

นอกจากนี้ งานวิ่งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วย สร้างความสัมพันธ์ และ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะพิเศษใดๆ ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ซึ่งเป็นการ ส่งเสริมความเท่าเทียม และ การเข้าถึงโอกาส ในการมีสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคนในสังคม.

งานวิ่ง FSS Halloween Fancy Run 2024 จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการออกกำลังกายอย่างสนุกสนาน โดยสอดคล้องกับ SDGs 3 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในสังคม โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ทั้งในด้านการเงิน อาหาร น้ำดื่ม และกำลังใจจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการมีส่วนร่วมจากนิสิตและบุคลากรของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.

มหาวิทยาลัยนเรศวรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากกิจกรรมนี้ และขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนจนทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี คณะสังคมศาสตร์ขอเชิญชวนให้ทุกท่านพบกันใหม่ในงานวิ่งครั้งถัดไปในปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคม 2568.

ทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 31 ทุน

รับสมัครทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 31 ทุน ทุนละ 5,000 บาท

คุณสมบัติ
-เป็นนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 – 3
-มีผลการเรียนคะแนนเฉลี่ยรวมทุกวิชา 2.00 ขึ้นไป
-เป็นนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
-เป็นนิสิตที่ไม่เคยถูกทัณฑ์บนและการลงโทษ ทางวินัยนิสิต

รับสมัครตั้งแต่ วันที่ 1 – 22 พฤศจิกายน 2567
ส่งเอกสารในวันและเวลาราชการ
Download เพื่อรับใบสมัครเกณฑ์และเงื่อนไข >>> https://shorturl.asia/P4C0x
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ โทร 0 5596 3150 – 2

ม.นเรศวร ร่วมสัมมนาและศึกษาดูงาน Energy Storage ในหัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology”

รศ.ดร.นิพนธ์ เกตุจ้อย ผู้อำนวยการ SGtech พร้อมด้วย รศ.ดร.ธวัช สุริวงษ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและกิจการนิสิต และ ผศ.ดร.ยอดธง เม่นสิน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ เข้าร่วมสัมมนาและศึกษาดูงาน Energy Storage ในหัวข้อ “Renewable Energy and MicroGrid Technology” เมื่อวันที่ 29-30 ตุลาคม 2567 โดย ผศ.ดร.ยอดธง เม่นสิน ได้บรรยายในหัวข้อ “Smart Microgrid Zero Net Energy (ZNE) concept implementation at Naresuan University”
ที่มา: วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร

จักรยาน ยืมปั่นฟรีลดโลกร้อน

จักรยาน ยืมปั่นฟรี บริการดีๆ ให้นิสิตหอพักได้ออกกำลังกายและผ่อนคลายความเครียด อีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานลดการปล่อยคาร์บอน หันมาใช้พาหนะประหยัดพลังงานแถมยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย โดยยืมได้ที่ป้อมยาม B2 ใกล้หอ 9

ม.นเรศวร ขอเรียกร้องให้ต่อต้านบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า สร้างสังคมปลอดบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ขอประกาศแถลงการณ์เพื่อเรียกร้องให้ต่อต้านการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมทั้งคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและประชาชนที่มีความเสี่ยงต่อการเสพติดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

การต่อสู้กับการสูบบุหรี่และการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นภารกิจที่สำคัญในการส่งเสริม เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG Goal 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งหวังให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ รวมถึงการป้องกันการสูบบุหรี่ที่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ

อันตรายจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นภัยร้ายแรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารเคมีอันตรายมากมาย แม้ว่าจะมีการโฆษณาว่ามีความปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่การศึกษาได้แสดงให้เห็นว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารที่เป็นพิษที่สามารถก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ร้ายแรง การใช้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นภัยสุขภาพใหม่ที่มีการแพร่ระบาดในหมู่เยาวชนและวัยรุ่น ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาและอนาคตของสังคม

การคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้า มหาวิทยาลัยนเรศวรขอคัดค้านการยกเลิกการแบนบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยเฉพาะการที่มีข้อเสนอในการอนุญาตให้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในบางกรณี เนื่องจากการยกเลิกการแบนจะทำให้การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเยาวชนและกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงต่อการเสพติด เพิ่มโอกาสในการเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชนโดยไม่จำเป็น และขัดแย้งกับความพยายามในการลดภาระจากโรคที่สามารถป้องกันได้ในระบบสาธารณสุขของประเทศ

การสนับสนุนความร่วมมือและการรณรงค์เพื่อสุขภาพที่ดี มหาวิทยาลัยนเรศวรขอสนับสนุนความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และบุคคลทั่วไป เพื่อร่วมกันต่อสู้และรณรงค์เพื่อลดการบริโภคบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการจัดกิจกรรมสร้างความรู้ให้แก่ประชาชน รวมถึงการสนับสนุนมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการผลิต การจำหน่าย และการใช้บุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น

นอกจากนี้ยังควรมีการสนับสนุนการเข้าถึงการเลิกบุหรี่และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะอย่างเข้มงวด ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้สูบบุหรี่และลดภาระโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในประเทศ

การมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวรจะดำเนินกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา และบุคลากรในมหาวิทยาลัยเกี่ยวกับผลกระทบของการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงการจัดทำโครงการสุขภาพที่สนับสนุนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดชนิดนี้ โดยผ่านการวิจัย งานวิชาการ การให้บริการสุขภาพ และการให้คำปรึกษาทางการแพทย์แก่ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่

NU Playground Zero Waste: Event ดีๆ ที่ไม่มีขยะ

NU PLAYGROUND แลนด์มาร์คแห่งใหม่มหาลัยนเรศวร กิจกรรมดีๆ ที่สร้างความสุขในการจับจ่ายซื้ออาหาร และเป็นพื้นที่ซื้อสินค้าและการผักผ่อน โดยไม่สร้างขยะเหลือทิ้ง ด้วยการใช้ภาชนะใส่อาหารส่วนตัวมาใช้เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติก โดยจัดกจกรรมวันที่ 23 – 25 กันยายน 2567 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ลาน Playground หอในมอนอ

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin