Archives 2024

โรงพยาบาลทันตกรรม ม.นเรศวร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการร่วมเป็นสถานพยาบาลในการให้บริการทางทันตกรรมไม่ต้องสำรองจ่าย

รองศาสตราจารย์ ดร.ทันตแพทย์หญิงพีรยา ภูอภิชาติดำรง คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วย ผศ.ดร.ทพญ.จิตติมา พุ่มกลิ่น รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลทันตกรรม ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดพิษณุโลก ภายใต้โครงการให้บริการทางทันตกรรมโดยไม่ต้องสำรองจ่ายแก่ผู้ประกันตน ในการใช้สิทธิ์ 900 บาทต่อปี

การลงนามในครั้งนี้มีขึ้นที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดพิษณุโลก โดยมี นางอาภรณ์ แว่วสอน ประกันสังคมจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมได้รับสิทธิในการใช้บริการทันตกรรมโดยไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ โดยสามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ทุกปี ในวงเงิน 900 บาท

โครงการนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 3: การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการให้ทุกคนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและสามารถจ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพทั่วไปหรือการรักษาเฉพาะทาง รวมถึงการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการบริการสุขภาพระหว่างชนชั้นและกลุ่มประชากรต่างๆ

การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรและโรงพยาบาลทันตกรรมเข้าร่วมโครงการนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างการเข้าถึงบริการสุขภาพช่องปากที่มีคุณภาพ แต่ยังเป็นการสนับสนุนให้คนในชุมชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการส่งเสริมความยั่งยืนในด้านสุขภาพของสังคมในระยะยาว

สำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่สนใจสามารถใช้สิทธิ์ในการรับบริการทันตกรรมได้ที่โรงพยาบาลทันตกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้รับการรับรองให้เป็นสถานพยาบาลในการให้บริการตามโครงการนี้ และสามารถใช้สิทธิ์ได้ตามข้อกำหนดที่ระบุในบันทึกข้อตกลง.

การประชุมวิชาการวิจัยระดับชาติและนานาชาติ “ความยืดหยุ่นรับภัยพิบัติเพื่อสังคมที่ดีขึ้น

การประชุมวิชาการวิจัยระดับชาติและนานาชาติ:The 2nd TNDR Conference (National & International) “ความยืดหยุ่นรับภัยพิบัติเพื่อสังคมที่ดีขึ้น (Be Better: Disaster Resilience for Better Society)” จัดโดย มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ มหาวิทยาลัยในเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย ในวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการ การจัดประชุมนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับเกียรติจากดร.พิจิตต รัตตกุล ประธานเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (TNDR) เป็นประธานในการเปิดการประชุม

หลังจากนั้นมีการเสวนาที่น่าสนใจ
1 ประเด็น “ระบบนิเวศของการสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ “
1. ดร.พิจิตต รัตตกุล ประธานเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย
2. รศ.ดร.อภิชาต โสภาแดง คณบดีวิทยาลัยพหุวิทยาการและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
3. คุณเอกพงศ์ มุสิกะเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม (กปว.)
4. ดร.ก่อศักดิ์ โตวรรธกวณิชย์ ผู้จัดการแพล็ตฟอร์มสร้างธุรกิจนวัตกรรม ศูนย์ธุรกิจระหว่างประเทศ บจม.พีทีที โกลบอล เคมิคัล ผู้ดำเนินรายการ: ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี

2. เสวนาเครือข่าย TNDR ประเด็น “โลกเดือด-สุดขั้วภัยพิบัติ จัดการน้ำอย่างไรให้รอด!!!”
1. คุณวรรธนศักดิ์ สุปะกิ่ง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศ ทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์กรมหาชน)
2. คุณสุขธวัช พัทธวรากร ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและพันธกิจสังคม บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)
3. คุณวีฤทธิ กวยะปาณิก หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการน้ำ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่
4. รศ.ดร.เดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ นักวิชาการด้านการบริหารจัดการน้ำ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้ดำเนินรายการ: นายสมคิด สะเภาคำ ผู้อำนวยการศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคเหนือตอนล่าง

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ และนานาชาติ พร้อมทั้งนิทรรศการโปสเตอร์และบูธเครือข่าย TNDR

NU Playground Zero Waste

กองกิจการนิสิต จัดโครงการ NU Zero Waste เพื่อส่งเสริมกิจกรรมตามหลัก 3 Rs คือ Reduce Reuse และ Recycle อบรมให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้แก่นิสิต ได้นำความรู้กลับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน โดยได้รับเกียรติจากคุณสมหมาย แก้วเกตุศรี ผู้จัดการวงศ์พานิชย์ สาขาย่อย มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทีมงาน มาบรรยายให้ความรู้เรื่องการจัดการขยะ หัวข้อ “Go Zero Waste” และลงภาคปฏิบัติการ เรื่อง การคัดแยกขยะช่วยโลก

ในช่วงบ่ายได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรารัตน์ มหาศรานนท์พร้อมทีมงาน มาบรรยายให้ความรู้เรื่อง “ลดขยะลดโลกร้อนด้วยนวัตกรรม Recycle” ซึ่งโครงการดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น มากกว่า 200 คน ในวันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ณ ห้องล้อบบี้ ชั้น 2 อาคารขวัญเมือง

ม.นเรศวร จัดประชุมวิจัยนานาชาติ เสริมพัฒนาอุตสาหกรรมและความยืดหยุ่นรับภัยพิบัติ

มหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นในการพัฒนาและส่งเสริมการวิจัยด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรม (SDG 9) ด้วยการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและองค์กรระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและการสร้างความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติ

หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญในการส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยนเรศวร คือการจัดการประชุมวิชาการวิจัยระดับชาติและนานาชาติ “The 2nd TNDR Conference (National & International)” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงนิทรรศการการจัดประชุมนเรศวรมหาราช (KNECC) มหาวิทยาลัยนเรศวร งานนี้จัดขึ้นร่วมกับมหาวิทยาลัยในเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (TNDR) และได้รับเกียรติจากดร.พิจิตต รัตตกุล ประธานเครือข่าย TNDR เป็นประธานในการเปิดการประชุม

การประชุมครั้งนี้จะมีเสวนาที่น่าสนใจหลายหัวข้อ โดยเฉพาะประเด็นที่สำคัญ เช่น “ระบบนิเวศของการสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายองค์กรและสถาบันเข้าร่วมการเสวนา รวมถึงประเด็น “โลกเดือด-สุดขั้วภัยพิบัติ จัดการน้ำอย่างไรให้รอด” ที่จะนำเสนอแนวทางการจัดการทรัพยากรน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติและวิกฤติการณ์ต่างๆ

ในงานนี้ยังมีการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ พร้อมทั้งการจัดนิทรรศการโปสเตอร์และบูธจากเครือข่าย TNDR เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเรียนรู้จากผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการบริหารจัดการภัยพิบัติ

การประชุมนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือที่สำคัญระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรและองค์กรต่างๆ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม และการสร้างความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 9 ในการสร้างความสามารถทางนวัตกรรมและอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว

ม.นเรศวร จัดโครงการฟื้นฟูความรู้ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ประจำปี 2567 ยกระดับการดูแลสุขภาพผู้ป่วยอย่างครบวงจร

🚩

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดโครงการฟื้นฟูความรู้สำหรับผู้ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ประจำปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งให้แก่ผู้ดูแลหรือญาติผู้ป่วย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง โครงการดังกล่าวจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมเอกาทศรถ 9 ชั้น 3 อาคารสิรินธร โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร

ภายในงานมีการอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งในแง่มุมต่าง ๆ เช่น การจัดการด้านจิตใจของผู้ป่วยมะเร็ง, การดูแลผู้ป่วยในช่วงการรักษาและฟื้นฟู, การป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา รวมไปถึงการให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ป่วย เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและเพิ่มทักษะในการดูแลผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดโครงการฟื้นฟูความรู้ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งนี้ มีความสำคัญในการสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งในระดับชุมชน อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมและสนับสนุนการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมในทุกมิติ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้านการให้บริการสุขภาพที่เป็นธรรมและมีคุณภาพสำหรับทุกคน (SDG 3: Good Health and Well-Being) และการสร้างความรู้และการพัฒนาทักษะของบุคลากรในการดูแลผู้ป่วย (SDG 4: Quality Education)

เป้าหมายของโครงการ:

  1. การพัฒนาความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
  2. การสร้างความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งอย่างยั่งยืน
  3. การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพที่เข้าถึงและเป็นธรรมสำหรับทุกคน
  4. ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้ดูแลผู้ป่วย, บุคลากรทางการแพทย์, และชุมชน

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร และหน่วยงานต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในสาขาการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งได้ร่วมกันให้ความรู้และประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมะเร็งอย่างครบวงจร

การดำเนินโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มพูนความรู้และทักษะในการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและผู้ดูแล ตามหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีเป้าหมายในการสร้างสังคมสุขภาพดีสำหรับทุกคนในระยะยาว.

ลงทะเบียน https://forms.gle/5cC2bNodHEoPUowk7

ม.นเรศวร ร่วมมือ GIZ จัดประชุมพัฒนานโยบาย Agrivoltaics เสริมพลังงานสะอาดระดับนานาชาติ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะผู้นำในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 7 และ 17) ได้แสดงบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและการพัฒนานวัตกรรมในด้านพลังงาน โดยการร่วมมือกับองค์กรนานาชาติและหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ในการพัฒนาโครงการที่มีความยั่งยืนและตอบโจทย์การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมกับองค์กร Clean, Affordable and Secure Energy for Southeast Asia: (CASE) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) จัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อรวบรวมความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนานโยบายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการปลูกพืชร่วมกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Agrivoltaics) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในด้านการเกษตร

การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการ “Recommended policy and regulation pertaining Agrivoltaics in Thailand” และเป็นการต่อยอดจากการศึกษาแนวทางปฏิบัติในโครงการ Thai-German Energy Dialogue (TGED) ในปี 2566 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจแนวทางและนโยบายที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนา Agrivoltaics ในประเทศไทย โดยได้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนร่วมในด้านการพัฒนาพลังงานทดแทน

การพัฒนา Agrivoltaics ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่สนับสนุนการบูรณาการพลังงานสะอาดในภาคการเกษตร พร้อมทั้งช่วยลดการใช้ที่ดินและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย

การร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับ GIZ และองค์กรที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนานโยบายพลังงานที่ยั่งยืนและการสร้างแนวทางใหม่ ๆ สำหรับการใช้พลังงานสะอาดในประเทศไทย และเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านพลังงาน

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและกิจกรรมของวิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ที่:

ม.นเรศวร บริการยาเบื้องต้นฟรีสำหรับผู้มีสิทธิบัตรทอง ดูแลสุขภาพ ลดภาระพบแพทย์

ในช่วงเปิดเทอมนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวรขอส่งเสริมสุขภาพของนิสิตและบุคลากรด้วยบริการพิเศษจากร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรับยาฟรี! สำหรับนิสิตและบุคลากรที่มีสิทธิบัตรทอง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเป็นการให้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว เพื่อช่วยดูแลสุขภาพเบื้องต้นและส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่สามารถรับยาได้มีดังนี้
– ปวดหัว – เวียนหัว – ปวดข้อ – ปวดกล้ามเนื้อ – ปวดฟัน – ไข้ – ไอ – เจ็บคอ – ปวดท้อง – โรคกระเพาะ – ท้องเสีย- ท้องผูก-ริดสีดวง – ปัสสาวะแสบขัด – ปวดประจำเดือน – ตกขาวผิดปกติ – อาการทางผิวหนัง ผื่น – คัน – ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตา – ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับหู – การดูแลบาดแผลเบื้องต้น

บริการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ:

  1. การเข้าถึงบริการสุขภาพที่ง่ายและสะดวก: การให้บริการยาเบื้องต้นสำหรับอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยจะช่วยลดภาระในการไปพบแพทย์ในกรณีที่ไม่จำเป็น ช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  2. การส่งเสริมสุขภาพดีสำหรับทุกคน: นอกจากการให้บริการยาแล้ว ยังมีการให้คำแนะนำจากเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้องและปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3: Good Health and Well-being) เพื่อให้ทุกคนในสังคมมีสุขภาพที่ดีและเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม
  3. การสนับสนุนความรู้และการป้องกัน: การเข้าถึงยาเบื้องต้นที่ร้านยาในมหาวิทยาลัยยังสามารถเป็นโอกาสในการให้ความรู้และคำแนะนำในการดูแลสุขภาพเบื้องต้น เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคที่อาจเกิดขึ้นจากอาการต่างๆ

การใช้บริการ:
หากท่านมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยตามที่ระบุ สามารถไปที่ร้านยาคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร สาขา 2 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณทางเข้า ประตู 4 ของมหาวิทยาลัย (โดยต้องนำบัตรประชาชนมาด้วยทุกครั้งที่รับบริการ) ทีมเภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำและดูแลท่านอย่างครบถ้วน

อย่าลืม! สวัสดีปีการศึกษาใหม่แล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมดูแลสุขภาพของท่าน ด้วยบริการที่ดีและสะดวก พร้อมให้ความรู้การดูแลสุขภาพและการใช้ยาอย่างถูกต้อง เพื่อสังคมที่มีสุขภาพดีไปด้วยกัน!

รณรงค์และประชาสัมพันธ์งดสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก

ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมรณรงค์และประชาสัมพันธ์งดสูบบุหรี่ เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day) ซึ่งสอดคล้องกับ SDGs 3 การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบจากการสูบบุหรี่ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็งปอด โรคหัวใจ และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ในด้านโทษของการสูบบุหรี่ต่อสุขภาพของบุคคลและสังคม

กิจกรรมในปีนี้ประกอบด้วยการเดินรณรงค์ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยใช้สื่อประชาสัมพันธ์เช่น แผ่นป้ายและโปสเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโทษของการสูบบุหรี่ และการให้คำแนะนำในการเลิกสูบบุหรี่ รวมถึงการจัดเวทีสัมมนาและการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

กิจกรรมนี้มีเป้าหมายในการลดอัตราการสูบบุหรี่ในกลุ่มนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยนเรศวร ช่วยลดภาระโรคจากการสูบบุหรี่ และส่งเสริมการเลือกวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี โดยตรงกับ SDG 3 ซึ่งมุ่งเน้นการลดปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ เช่น การสูบบุหรี่ พร้อมทั้งช่วยสร้างสังคมที่ปราศจากบุหรี่ และการเข้าถึงบริการสุขภาพที่ดีสำหรับทุกคน

ม.นเรศวร นำน้ำเสียหมุนเวียน ลดการใช้น้ำใหม่ สนับสนุนอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการจัดการน้ำ (Sustainable Development Goal 6: Clean Water and Sanitation) โดยเฉพาะการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ผ่านระบบน้ำหมุนเวียน (Water Recycling) เพื่อลดการใช้น้ำใหม่และสนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ

พื้นที่ทั้งหมดของมหาวิทยาลัยครอบคลุมกว่า 2,167,624 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่สีเขียวคิดเป็น 55.35% ของพื้นที่รวม ซึ่งประกอบด้วยสนามหญ้า สวนดอกไม้ ต้นไม้ และพื้นที่ป่า พื้นที่เหล่านี้ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการใช้น้ำในการรดต้นไม้และบำรุงรักษา

เพื่อให้การดูแลพื้นที่สีเขียวเป็นไปอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการระบบบำบัดน้ำเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยในแต่ละปีมหาวิทยาลัยผลิตน้ำเสียประมาณ 1,090,752 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วถึง 72% หรือประมาณ 783,996 ลูกบาศก์เมตร ถูกนำกลับมาใช้เพื่อดูแลพื้นที่สีเขียวของมหาวิทยาลัย

ผลลัพธ์และความยั่งยืน การนำน้ำหมุนเวียนกลับมาใช้ในระบบนอกจากจะช่วยลดการใช้น้ำประปาใหม่แล้ว ยังช่วยลดต้นทุนในการจัดหาน้ำ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว มหาวิทยาลัยนเรศวรแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDG 6

โครงการน้ำหมุนเวียนนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างชาญฉลาดในภาคการศึกษา และส่งเสริมการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการจัดการทรัพยากรน้ำในกลุ่มนักศึกษา บุคลากร และชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing

กิจกรรมแรกก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เราได้ชูประเด็นของ NU Pride ไม่ใช่เป็นเพราะกระแส แต่เรามีสิ่งที่อยากจะสื่อสารกับนิสิต คือ “LGBTQIA+ have the freedom to live their truth without fear!” เพราะเราจะทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับนิสิตทุกคน ที่สามารถแสดงออกถึงความเป็นตนเอง และได้รับการยอมรับ ทั้งนี้เป้าหมายหลักก็คือ เพื่อให้นิสิตมีชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุข

ขอบคุณ ศาสตราจารย์ ดร.สุจินต์ จินายน อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มีส่วนผลักดันเป็นอย่างมากในการที่ให้นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ มหาวิทยาลัยนเรศวรมีข้อบังคับ ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่นิสิตสามารถแต่งกายตามเพศสภาพได้ โดยให้ถูกต้องตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าด้วยเครื่องแต่งกายของนิสิตขั้นปริญญาตรี ซึ่งจุดนั้นเองทำให้เราในฐานะผู้บริหารชุดปัจจุบันอยากจะย้ำจุดยืนของมหาวิทยาลัยในเรื่องนี้ เพราะเรามองว่า การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เราควรเคารพ และเห็นคุณค่าของความหลากหลายที่สวยงาม

กิจกรรมที่เราใช้สื่อสารกับนิสิตคือการจัดกิจกรรม NU Pride & Rainbow Crossing หรือทางม้าลายสายรุ้ง บริเวณหน้าหอพักนิสิต ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว เป็นผลงานร่วมกันระหว่างนิสิต คณาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัย เพื่อเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ให้ก้าวเดินอย่างภาคภูมิใจสถาบันแห่งนี้ ก้าวข้ามความแตกต่าง และการยอมรับซึ่งกันและกัน และที่สำคัญเราอยากให้นิสิตใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin