มหาวิทยาลัยนเรศวร ออกให้บริการรักษาทางทันตกรรมให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำกลางพิษณุโลก
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 หน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ออกให้บริการรักษาทางทันตกรรมแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางพิษณุโลก โดยมีผู้ต้องขังมารับการรักษาทางทันตกรรมจำนวน 554 ราย ซึ่งการให้บริการในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือด้านการรักษาสุขภาพช่องปาก แต่ยังเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ SDGs 10: การลดความเหลื่อมล้ำ
ในโครงการนี้ ทีมทันตแพทย์จากหน่วยทันตกรรมพระราชทานฯ ได้มุ่งเน้นการให้บริการรักษาทางทันตกรรมที่ครอบคลุมต่อผู้ต้องขัง ซึ่งรวมถึงการถอนฟัน 548 ราย และการผ่าฟันคุด 6 ราย โดยบริการดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ต้องขังหลายราย ซึ่งแสดงความคิดเห็นว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้รับการรักษาฟันจากคุณหมอ และบางคนยังแสดงความต้องการให้มีการจัดบริการด้านทันตกรรมในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง
การให้บริการทันตกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดีแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการรักษาคุณภาพชีวิตของผู้คนในกลุ่มที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ต้องขังที่อาจไม่ได้รับการดูแลทางทันตกรรมที่เพียงพอในชีวิตประจำวัน การให้บริการนี้ช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพช่องปากที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม และช่วยลดความเจ็บปวดจากปัญหาฟันที่ไม่สามารถได้รับการรักษาตามปกติ
การให้บริการทันตกรรมนี้สอดคล้องกับ SDGs 3: การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการสุขภาพที่ทั่วถึงและมีคุณภาพ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ผู้ต้องขังเป็นกลุ่มคนที่มักไม่ได้รับการเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพในทุกๆ ด้าน การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการนี้จึงเป็นการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการทำให้การรักษาสุขภาพช่องปากมีความยั่งยืนและเข้าถึงทุกคนอย่างเท่าเทียม โดยเฉพาะการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับกลุ่มผู้ต้องขังที่บางครั้งไม่ได้รับความสนใจจากสังคมในด้านนี้
การให้บริการนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางร่างกาย แต่ยังช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขังให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อสิทธิพื้นฐานในการมีสุขภาพที่ดีของทุกคนในสังคม
อีกหนึ่งเป้าหมายที่สำคัญที่โครงการนี้สนับสนุนคือ SDGs 10: การลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งมุ่งเน้นการลดช่องว่างและความไม่เท่าเทียมในด้านต่างๆ รวมถึงการเข้าถึงบริการสาธารณสุข โครงการนี้ช่วยให้ผู้ต้องขังในเรือนจำได้เข้าถึงบริการทันตกรรมอย่างมีคุณภาพ ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพระหว่างกลุ่มคนที่มีสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน
การให้บริการทันตกรรมแก่ผู้ต้องขังในครั้งนี้เป็นการช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการทางสุขภาพที่มีคุณภาพ เนื่องจากผู้ต้องขังมักจะเผชิญกับข้อจำกัดในการได้รับการรักษาจากสาธารณสุขที่มีอยู่ในระบบ การนำบริการทันตกรรมไปให้ถึงกลุ่มนี้ถือเป็นการปฏิบัติตามหลักการของ SDGs 10 ในการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยมุ่งเน้นให้บริการแก่กลุ่มคนที่อาจไม่ได้รับการดูแลสุขภาพเท่าเทียมกับกลุ่มอื่นๆ
ผลกระทบต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับชุมชน โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการเสริมสร้างความเท่าเทียมในด้านการเข้าถึงบริการสุขภาพของกลุ่มคนในสังคมที่มักถูกมองข้าม โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ต้องขังที่อาจไม่ได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างเหมาะสม โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาปัญหาด้านสุขภาพในขณะนั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ต้องขังสามารถกลับเข้าสู่สังคมด้วยสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบทางบวกในด้านจิตใจและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรและคณะทันตแพทยศาสตร์ได้ดำเนินการดังกล่าวยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสถาบันการศึกษากับชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการนำความรู้และทักษะที่มีไปให้บริการแก่ผู้ที่มีความจำเป็นในชุมชน ส่งผลให้การพัฒนาที่ยั่งยืนเกิดขึ้นในระดับท้องถิ่น