ม.นเรศวรจัดกิจกรรม “NU Art & Craft Fun Fair 2022” สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) เพื่อพัฒนานิสิตให้มีความเป็นพลโลก (Global Citizenship)
วันที่ 20 สิงหาคม 2565 มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม “NU Art & Craft Fun Fair 2022” ระหว่างวันที่ 19 – 20 สิงหาคม 2565 ณ ลานกิจกรรม กองกิจการนิสิต พิพิธภัณฑ์ผ้า และหอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อสร้างกิจกรรมให้เกิดการกระตุ้นให้มีพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) ทั้งในเชิงกายภาพ เศรษฐกิจและสังคม ย้ำจุดยืนของความเท่าเทียม ความเสมอภาค และความหลากหลายในทุกมิติ โดยเป็นการจัดงานร่วมกันของกองกิจการนิสิตและกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย
รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยนเรศวรมีนโยบาย “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ (University for Entrepreneurial Society)” ซึ่งจากโยบายดังกล่าวต้องอาศัยทุกภาคส่วนของมหาวิทยาลัยตลอดจนองค์ความรู้และนวัตกรรมในการสร้างความร่วมมือกันทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคเอกชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อก่อให้เกิดการสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีกลไกในการขับเคลื่อนที่สำคัญคือ การสร้าง “The Entrepreneur Mindset” ให้แก่บุคลากรและนิสิต เพราะแนวคิดนี้จะทำให้เราพัฒนาตัวเองให้กล้าเผชิญกับความท้าทาย พร้อมรับมือกับปัญหาที่จะเข้ามา รู้จักเป็นผู้บุกเบิกในการเริ่มต้น หรือนำความคิดสร้างสรรค์มาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดเป็นนวัตกรรมหรือ Innovation จากการคิดแบบนี้จะทำให้สามารถนำไปปรับใช้หรือต่อยอดการทำงานและธุรกิจ เพื่อให้เกิดรายได้มากขึ้นอีก ดังนั้นเพื่อให้เกิดการกระตุ้นนิสิตจึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวนี้ขึ้นให้เพื่อเกิดพื้นที่สร้างสรรค์ (Creative Space) ทั้งในเชิงกายภาพเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้เป็นพื้นที่ในการฝึกปฏิบัติจริง
ด้าน ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า กิจกรรม “NU Art & Craft Fun Fair 2022” เป็นการทำงานแบบ Cross-Functional ระหว่างกองกิจการนิสิต และกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ หน่วยงานในมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน เพื่อเป็นกิจกรรมในการพัฒนานิสิตให้สามารถมีมุมมองสอดคล้องกับนโยบายมหาวิทยาลัยและมีความเป็นพลโลก (Global Citizenship) ซึ่งมหาวิทยาลัยจะสร้างนิสิตให้เป็นผู้มีศักยภาพในการที่จะสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและโลกที่สามารถทำงานที่ใด ๆ ในโลกนี้ได้ โดยให้นิสิตมีประสบการณ์ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย นอกจากนั้น เรายังให้ความสำคัญเกี่ยวกับเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติด้วย
หัวใจสำคัญในการจัดงานในครั้งนี้ คือ
– การเคารพและเห็นคุณค่าของความหลากหลายและความแตกต่าง ซึ่งความหลากหลายนี้เรามองในหลายๆ มิติ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) ความหลากหลายทางวัฒนธรรม (Cultural Diversity) รวมไปถึงความเท่าเทียม/ความเสมอภาค ของกลุ่มเปราะบางด้วย
– การแต่งกายชุดนิสิตตามเพศสภาพคือการแสดงออกถึงเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เราควรเคารพ
– พัฒนานิสิตให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การทำงานเป็นทีม รวมทั้งสามารถทำงานร่วมกับคนต่างภาษาและวัฒนธรรมได้
– นิสิตมองเห็นคุณค่า ในการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม ในหลากหลายมิติ
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกคือ Art & Craft ซึ่งประกอบไปด้วย Art Exhibition (นิทรรศการผ้าแห่งขุนเขา, Art Therapy, Doll House และ Art Collections), Art & Craft Workshop, Art & Craft Market (มีสินค้าจากโครงการมหาวิทยาลัยสู่ตำบลหรือที่เรียกว่า U2T และร้านค้าอื่น ๆ) , Art Innovation (ผลงานของนิสิตและคณาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ) และ Art Talk (การสร้างสรรค์งานศิลปะ Speed Art โดยศิลปินพื้นบ้านเมืองบางขลัง คุณอุเทน ลำไย และการสร้างสรรค์งานศิลปะ Speed Painter โดย คุณบัลลังค์ เชยบาล) และ ส่วนที่สองจะเป็น Fun Fair ซึ่งจะมีกิจกรรมหลักคือ NU Pride, Equity and Diversity Parade นอกจากนั้นยังมีการประกวดชุดประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้/ ใช้ซ้ำ (ชุด Recycle) ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้นิสิตมีความคิดสร้างสรรค์แบบรักษ์โลกและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นยังมี Performing Arts, มีการแสดงดนตรีและ Talent Show ในพื้นที่งานจะมีการฉายหนังกลางแปลง Food Truck, Food Kiosk และ Outdoor Café’ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นนี้น่าจะทำให้นิสิตมีความสนุกสนาน และได้การเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน
มหาวิทยาลัยวิทยาลัยนเรศวร ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม ความเสมอภาคและความหลากหลาย พัฒนานิสิตให้เป็น Global Citizen เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ (University for Entrepreneurial Society)”
ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร