สัมมนานักวิชาการระดับนานาชาติ SOFT POWER: THE CULTURAL DIPOMACY

การสัมมนานักวิชาการระดับนานาชาติด้านอารยธรรมศึกษา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 โดยวารสารอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน และกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายประการ โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ และ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา.

การจัดสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ (SDG 4) โดยการนำเสนอหัวข้อต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งด้านวัฒนธรรมและศิลปะ เช่น “Process of Korean Wave Development as a Key Driver for Economic Growth” และ “Music for Healing Society” ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นการถ่ายทอดความรู้ในเชิงทฤษฎี แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและประสบการณ์จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา นอกจากนี้ การสัมมนายังเปิดโอกาสให้ทั้งนักวิชาการและนิสิตของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ และเสริมสร้างทักษะในการศึกษาและวิจัยจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระดับนานาชาติ

การจัดกิจกรรมดังกล่าวยังเสริมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและยั่งยืน โดยการนำเสนอตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น ความสำเร็จของคลื่นเกาหลี (Korean Wave) ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือการใช้ดนตรีเพื่อเยียวยาสังคม ซึ่งเป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทของไทยและในระดับนานาชาติได้

หัวข้อ “The Transformative Potential of Small-Scale Community Events: an LGBTQIA+ Perspective” โดย Dr. Williem Coetzee จาก Western Sydney University, Australia ได้สะท้อนถึงความสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการสนับสนุนการรวมกลุ่มทางสังคมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ การศึกษาด้านวัฒนธรรมและการรับรู้ในประเด็นเหล่านี้ช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหลากหลายทางสังคมและส่งเสริมให้เกิดการยอมรับในความแตกต่าง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ถูกมองข้ามหรือมีความเสี่ยงทางสังคม เช่น กลุ่ม LGBTQIA+ การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรนำเสนอโอกาสในการเรียนรู้เหล่านี้จึงเป็นการส่งเสริมการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเสมอภาค

โครงการสัมมนานี้ยังเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิชาการจากหลากหลายประเทศและสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นการสอดคล้องกับ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การมีเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ช่วยเสริมสร้างการแบ่งปันทรัพยากรทางวิชาการและสร้างโอกาสในการร่วมมือในโครงการวิจัยและกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีส่วนในการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในระดับการศึกษาและการพัฒนาสังคมในภาพรวม

หัวข้อ “Local Food on Global Stages” โดยอาจารย์อนุวัต เชื้อเย็น จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น อาหารท้องถิ่น ที่สามารถขยายขอบเขตไปยังเวทีโลก โดยการสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านการท่องเที่ยวและการเผยแพร่อาหารไทยในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์และการยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างการจ้างงานในชุมชนซึ่งเป็นการสนับสนุน SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน

การจัดสัมมนานักวิชาการระดับนานาชาติในครั้งนี้สะท้อนถึงการมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยการสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในหลากหลายด้านของอารยธรรมศึกษา การร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทางวิชาการและการเปิดโอกาสให้สมาชิกในชุมชนการศึกษาระดับนานาชาติได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ จึงเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และการพัฒนาทั้งในด้านการศึกษาและสังคมอย่างยั่งยืน.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส

การจัดกิจกรรมในวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 โดยคณะพยาบาลศาสตร์ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ภายใต้โครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” สอดคล้องกับแนวทางของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน SDGs (Sustainable Development Goals) หรือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ, และ SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ.

โครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” เป็นการสร้างโอกาสในการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4 ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆ เช่น วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก, วิทยาลัยเทคนิคแม่สอด, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก, มหาวิทยาลัยนเรศวร, และสถาบันการศึกษาชั้นนำอื่นๆ ทำให้ผู้เรียนที่มาจากพื้นฐานที่แตกต่างกันมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการส่งเสริมความเสมอภาคและการลดช่องว่างทางการศึกษา (SDG 10).

กิจกรรมในโครงการนี้ไม่เพียงแต่เน้นการเรียนรู้ทางวิชาการ แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานในอนาคต โดยการจัดกิจกรรมที่เน้นการเตรียมตัวเข้าสู่โลกของการทำงาน นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงได้รับการแนะนำจากผู้บริหารจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.), รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการศึกษาและมีงานทำแล้ว รวมถึงการได้พบปะกับนายจ้างและสถานประกอบการที่ให้คำแนะนำในด้านทักษะการทำงาน ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ เช่น ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ และสายอาชีพชั้นสูงอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน การศึกษาสายอาชีพนี้ช่วยสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในการทำงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8).

การจัดตั้งโครงการ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยคัดเลือกสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ยังมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาให้พร้อมรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในยุค Thailand 4.0 การลงทุนในโครงการศึกษาสายอาชีพที่มุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่ทันสมัยและตรงกับความต้องการของตลาด จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างการศึกษาที่พร้อมตอบสนองความต้องการของสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต.

การที่คณะพยาบาลศาสตร์จัดกิจกรรมร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษา โดยการเข้าร่วมกิจกรรมปลุกพลังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่ประสบความสำเร็จจากรุ่นพี่และผู้เชี่ยวชาญในสายงาน อาทิ การได้พบกับผู้บริหารจากกองทุนฯ, นายจ้าง และสถานประกอบการที่มอบคำแนะนำในการพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถพัฒนาทักษะและสร้างเครือข่ายที่สำคัญในโลกของการทำงาน ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและส่งเสริมการพัฒนาตนเองของเยาวชนที่ด้อยโอกาส (SDG 10).

การจัดกิจกรรมนี้ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาหลายแห่ง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักศึกษาและครู/อาจารย์จากสถาบันต่างๆ ที่เข้าร่วม ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับชาติและระดับสากล (SDG 17). การสร้างเครือข่ายและการร่วมมือในการจัดกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสนับสนุนการพัฒนาความรู้ในเชิงลึกในทุกภาคส่วน.

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก

ชมรมศิษย์เก่า มอบทุนการศึกษาให้แก่นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนทั้งสิ้น 28 ทุน

สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร และชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย มอบทุนการศึกษาให้กับนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นจำนวนเงิน 125,000 บาท จากการจัดกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยคุณจิตมากร รอบบรรเจิด นายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคม ฯ และชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย นำโดย ดร.ถวิล น้อยเขียว ประธานชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยคณะกรรมการ ฯ เข้ามอบทุนการศึกษาให้แก่นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนทั้งสิ้น 28 ทุน แบ่งเป็น

1. ทุนจากสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 23 ทุน ๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 115,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวมาจากการจัดคอนเสิร์ตคาราบาวของสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 โดยเปิดรับสมัครนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แต่เรียนดี จากทุกคณะ ทุกชั้นปี เพื่อเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์และคัดเลือก จากสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร

2. ทุนชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวมาจากการจัดการแข่งขันวิ่ง NU ST RUN 2023 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการกลางสอบสัมภาษณ์นิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ในระหว่าง 7 – 9 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา 3 ชั้น 3 สำนักงานอธิการบดี

ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

**ผู้บริจาคขอหักลดหย่อนภาษีประจำปีได้ 2 เท่า**

สามารถดาวโหลดแบบฟอร์มการบริจาคได้ที่ bit.ly/3F2r0XC กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

งานบริการสวัสดิการนิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน ให้สามารถใช้ชีวิต ในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุขและสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร รวมถึงการจัดหาแหล่งทุนการศึกษาให้กับนิสิต ควบคุมการเบิกจ่ายเงินทุนการศึกษา พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านทุนการศึกษาแก่นิสิต และติดตามประเมินผลการศึกษานิสิตที่ได้รับทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

ติดต่อเพื่อบริจาคทุนการศึกษาได้ที่
กองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร 99 หมู่9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 งานบริการสวัสดิการนิสิต โทร. 0-5596-1216, 1211 งานศิษย์เก่าสัมพันธ์ โทร. 0-5596-1225

ที่มา: งานศิษย์เก่าสัมพันธ์ กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ลงพื้นที่จัดกิจกรรมยกระดับธุรกิจของสถานประกอบการ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเย็บผ้าตําบลสนามคลี

วันที่ 28 – 30 กรกฎาคม 2566 งานบ่มเพาะธุรกิจ อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร และวิทยากรโดยนางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม งานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ลงพื้นที่ดำเนินกิจกรรมที่ 2 การสร้างมูลค่า (Value Creation) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าพิมพ์ลายใบไม้เป็นสุภาพสตรีและเสื้อผ้าเด็ก ภายใต้แผนงานยกระดับธุรกิจภูมิภาค (Regional Entrepreneur Upgrade) ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเย็บผ้า ตําบลสนามคลี อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก

โครงการยกระดับความพร้อมของเทคโนโลยี และส่งเสริมระบบนิเวศสำหรับสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนานวัตกรรมของประเทศ และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจท้องถิ่นในภูมิภาค ด้วยการสนับสนุนการเข้าถึงการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัย โครงสร้างพื้นฐาน ววน. และการให้บริการด้านเทคโนโลยี

อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร เราพร้อมบริการและสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้รับกับโอกาสทางธุรกิจและพัฒนาเทคโนโลยี

สนใจสอบถามข้อมูลบริการของอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรเพิ่มเติมได้ที่ https://linktr.ee/sciparkcontent
โทร: 0 5596 8755

NU SciPark พาผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ ยกระดับธุรกิจและเสริมแกร่งวิสาหกิจชุมชน ผ้าตัดเย็บสนามคลี

อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU SciPark) ร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจัดกิจกรรมยกระดับธุรกิจสำหรับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์ตัดเย็บผ้า ตำบลสนามคลี อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ภายใต้แผนงาน Regional Entrepreneur Upgrade เพื่อสร้างโอกาสและเสริมศักยภาพธุรกิจในภูมิภาคให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยการถ่ายทอดความรู้และทักษะทางด้านการผลิตที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการธุรกิจในระดับท้องถิ่น.

กิจกรรมที่จัดขึ้นในวันที่ 9 และ 11 กรกฎาคม 2566 มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับกระบวนการทำผ้าพิมพ์ลายใบไม้ (Eco Printing) และเทคนิคการห่มสี ซึ่งเป็นการนำแนวคิดด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ในงานฝีมือของชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน โดยวิทยากรจากงานศิลปวัฒนธรรม กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมได้นำเสนอเทคนิคการพิมพ์ลายใบไม้และการผสมผสานเทคนิคการทำผ้ามัดย้อมเพื่อเพิ่มความหลากหลายและความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ผ้าตัดเย็บ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าชุมชนและสร้างความแตกต่างในตลาด.

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการยกระดับความพร้อมของเทคโนโลยีและส่งเสริมระบบนิเวศสำหรับสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ภายใต้ความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น การเข้าถึงผลประโยชน์จากงานวิจัย โครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการบริการด้านเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจได้จริง.

ในอนาคตอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้รับโอกาสทางธุรกิจและสามารถพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างต่อเนื่อง โดยการสร้างความร่วมมือกับชุมชนและผู้ประกอบการในทุกระดับ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและในภูมิภาค.

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ของอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร สามารถติดต่อได้ที่ https://linktr.ee/sciparkcontent โทร: 0 5596 8755

ม.นเรศวร ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลกและองค์กรภาคีเครือข่าย จัดงาน ‘เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023’ แสดงนวัตกรรมและความรู้เพื่อพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน

ระหว่างวันที่ 3-9 กรกฎาคม 2566 คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดงาน “เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023” ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งคณะ โดยในปีนี้ งานได้รับการยกระดับจากการจัดงานเกษตรประจำปีให้เป็นงาน ระดับเอ็กซ์โป ที่มุ่งเน้นการแสดงสินค้า นวัตกรรม และกิจกรรมหลากหลายด้านการเกษตร เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

การจัดงานในปีนี้มุ่งเน้นให้เกษตรกร นักวิชาการ และผู้ประกอบการทางธุรกิจเกษตรได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ และเกษตรกรตัวอย่างในการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และกระบวนการที่ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และพัฒนาธุรกิจเกษตรอย่างยั่งยืน พร้อมการสนับสนุนให้เกิดการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเกษตรทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

งาน “เกษตรนเรศวรเอ็กซ์โป 2023” ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายต่างๆ เช่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดพิษณุโลก และองค์กรต่างๆ ที่มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และสนับสนุนการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทั้งนี้ การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้เข้าชมได้มีโอกาสสัมผัสกับนวัตกรรมการเกษตรและการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติของอุตสาหกรรมการเกษตร

สิ่งที่น่าสนใจในงาน ได้แก่:

  1. การแสดงสินค้าและนวัตกรรมการเกษตร เช่น เทคโนโลยีการเกษตรอัจฉริยะ ระบบเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) เครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ ที่ช่วยลดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
  2. การสัมมนาและการบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับการพัฒนาเกษตรกรรมในยุคดิจิทัล การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การใช้พลังงานทดแทนในการเกษตร
  3. กิจกรรมฝึกอบรมและเวิร์กช็อป ในการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ การปลูกพืชที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาธุรกิจเกษตรที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน SDG 2 (การขจัดความหิวโหยและส่งเสริมการเกษตรอย่างยั่งยืน) และ SDG 12 (การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน) ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสามารถลดผลกระทบจากการผลิตที่ไม่ยั่งยืน

ข้อมูลเพิ่มเติม: ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร โทรศัพท์ 0 5596 2718 หรือที่ https://www.naiexpo.agi.nu.ac.th

4o mini

คณะนิติศาสตร์ จัดพิธีมอบทุน ให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี มีจิตสาธารณะ

วันที่ 30 มิถุนายน 2566 คณะนิติศาสตร์ จัดพิธีมอบทุนหนังสือจากบริษัท สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด ให้กับนิสิตคณะนิติศาสตร์ ที่มีผลการเรียนดี มีความประพฤติดี มีจิตสาธารณะ และยังต้องการทุนทรัพย์ทางการศึกษาเพิ่มเติม โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.บุญญรัตน์ โชคบันดาลชัย คณบดีคณะนิติศาสตร์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จรรยารักษ์ สุวพันธ์ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ ให้การต้อนรับคุณปพิชญา จันทะเสน ผู้แทนจากบริษัท สำนักพิมพ์วิญญูชน จำกัด ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 คณะนิติศาสตร์

ที่มา: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์

เมื่อวันที่ 24-25 มิถุนายน 2566 นางนิพัทธ์ เกษาพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มอบหมายให้ นางสาววรรณชลี กุลศรีไชย หัวหน้างานศิลปวัฒนธรรม เป็นวิทยากรในโครงการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์/บริการ ภายใต้แผนงานยกระดับธุรกิจภูมิภาค (Regional Entrepreneur Upgrade) เพื่อยกระดับผู้ประกอบการธุรกิจภูมิภาคทุกกลุ่มที่เป็นฐานสำคัญของเศรษฐกิจภูมิภาค (Regional Economy) และนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และงานวิจัย มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้ประกอบการในภูมิภาค ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ตัดเย็บ ตำบลสนามคลี จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร เข้าร่วมการสัมมนาพหุภาคี “สู้ชนะความจน”

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน 2566 ศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ และคณะทำงานโครงการวิจัยฯ เข้าร่วมการสัมมนาพหุภาคี “สู้ชนะความจน : บนฐานพลังความรู้ พลังภาคี” ภายใต้แผนงานแพลตฟอร์มขจัดความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำระดับจังหวัดของหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมีศาสตราจารย์ (พิเศษ) เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นประธานในพิธีฯในการสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยและนำไปสู่การขับเคลื่อนขยายผลและกลยุทธ์การขับเคลื่อนพื้นที่จังหวัด SRA แบบบูรณาการ ณ ห้องวิภาวดีบอลรูม บี โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

ที่มา: คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มน. ร่วมลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) แนวทางบูรณาการแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.)”

สืบเนื่องจากการที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ได้ร่วมลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) แนวทางบูรณาการแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (ววน.)” เชิงพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมเชิงพื้นที่ โดยมุ่งเน้นนำองค์ความรู้จากวิทยาศาสตร์ ผลงานวิจัย และผลผลิตที่เป็นนวัตกรรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพลิกโฉมประเทศ ในการพัฒนาพื้นที่ พัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด อีกทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน อันจะเป็นทางเลือก และทางรอดสำหรับอนาคต

วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก จึงได้ร่วมทำการหารือกับ รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร ณ อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวร มหาวิทยาลัยนเรศวร เพื่อร่วมหาแนวทางการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ โดยใช้งานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรพร้อมเป็นแหล่งข้อมูลองค์ความรู้ วิชาการ วิจัยและนวัตกรรม และสนับสนุนทรัพยากรบุคคลทางด้านวิชาการ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่สำคัญของประเทศที่สามารถตอบโจทย์ แก้ไข ปัญหาในพื้นที่ และจะร่วมพัฒนาความร่วมมือกับจังหวัดพิษณุโลกในลำดับถัดไป

ที่มา: กองการวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin