ถ่ายทอดความรู้ พัฒนาทักษะส่วนบุคคลและเป็นการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากและฟัน

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 นิสิตทันตแพทย์ชั้นปีที่ 5 จัดกิจกรรมสอนทักษะการแปรงฟันให้กับผู้ดูแล (เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนา นิคมสร้างตนเองบางระกำ) เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้ ร่วมกับช่วยดูแลการแปรงฟันให้กับผู้รับสมาชิกบ้านน้อยได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะส่วนบุคคลและเป็นการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากและฟันให้กับผู้ดูแลและผู้รับในนิคมสร้างตนเองบางระกำ เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษารายวิชาทันตกรรมชุมชน และปลูกนิสัยการมีจิตสาธารณะให้กับนิสิตทันตแพทย์ ณ นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

“ปันของให้น้องเล่น” มอบชุดสนามเด็กเล่นในโรงพยาบาล (Indoor Playground)

วันที่ 20 ตุลาคม 2566 เวลา 10.00 น. ผศ.พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานรับมอบสนามเด็กเล่น เครื่องรักษาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Auto Pap)  เครื่องคอมพิวเตอร์ Note Book และ อุปกรณ์เครื่องเขียนพร้อมหนังสือนิทานสำหรับเด็ก ของเล่น จากทีมโครงการปันของให้น้องเล่น นำโดยคุณจุฑามาศ ปัทมวิภาต นาลูลา เป็นตัวแทนทีมส่งมอบ

    โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ที่จะสนับสนุนสนามเด็กเล่นในโรงพยาบาล (Indoor Playground)  2 ส่วน ได้แก่  สถานรักษาแก้ไขภาวะปากเหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้า  และ แผนกผู้ป่วยนอกกุมารเวชกรรม เพื่อให้เด็กเล็กที่รอตรวจได้เล่น พร้อมของเล่นส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เช่น สมุดระบายสี หนังสือนิทาน ฯลฯ ระหว่างรอตรวจ สร้างความสุขให้แก่เด็กๆ และผู้ปกครองที่มารอรับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ในการนี้ ได้รับความอนุเคราะห์จากทีมโครงการปันของให้น้องเล่น โดยมีผู้มีจิตศรัทธา

ในการนี้มีกิจกรรมเดี่ยวเปียโน โดย ดช.รินทร์ จิตต์ผิวงาม ในเพลง Joy to the world การขับร้องเพลงด้วยเกียรติแพทย์ไทยโดยคณบดีและคณาจารย์พร้อมด้วยนิสิตแพทย์ รวมทั้งขับร้องเพลงมาร์ชพยาบาล สร้างความสุขด้วยเสียงเพลงและเสียงดนตรีให้เด็ก ๆ ผู้ปกครองที่มารอตรวจได้อย่างมาก

        คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณแทนเด็ก ๆ ผู้ปกครอง และบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นอย่างยิ่ง ทางคณะฯ จะนำอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ได้ ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยได้อย่างสูงสุดต่อไป ขอขอบพระคุณทีมโครงการ “ปันของให้น้องเล่น” มา ณ โอกาสนี้

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566

การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยกองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่าน Microsoft Teams ถือเป็นการดำเนินการที่สำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาของนิสิตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีความสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งหวังให้การศึกษามีความเท่าเทียมและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4)

โครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตที่ได้รับทุนจากกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้มีความเข้าใจในการใช้ทุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนการเงินและการเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับทุนกู้ยืมในอนาคต การจัดโครงการนี้ผ่านระบบออนไลน์ (Microsoft Teams) ยังเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงข้อมูลและการเรียนรู้ได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการสนับสนุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้

ในโครงการนี้ นิสิตจำนวน 1,296 คนเข้าร่วมการปัจฉิมนิเทศ โดยการอบรมและการทดสอบผ่านระบบออนไลน์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการสร้างพื้นฐานการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับนิสิตทุกคน โดยเฉพาะนิสิตที่ได้รับทุน กยศ. ซึ่งเป็นทุนที่ช่วยให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนกยศ. ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงการศึกษา การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนี้มีบทบาทในการช่วยให้ผู้ที่ได้รับทุนสามารถใช้ประโยชน์จากทุนได้อย่างเต็มที่ โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้ กฎเกณฑ์การกู้ยืม และแนวทางในการบริหารจัดการการเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้รับทุนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาความสามารถในการจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการดำรงชีวิตในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและการเข้าถึงข้อมูล

การจัดโครงการผ่าน Microsoft Teams ยังสะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีในการเสริมสร้างการศึกษาให้เข้าถึงได้มากขึ้น และช่วยให้การเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่สามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังนิสิตทุกคนที่ต้องการข้อมูลในรูปแบบออนไลน์ การเข้าร่วมโครงการออนไลน์จำนวนมาก (1,296 คน) และผ่านการทดสอบได้ถึง 1,281 คน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการในการเข้าถึงผู้เรียนในวงกว้าง และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

สร้างความยั่งยืนในระบบการศึกษา

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงการสร้าง สังคมแห่งการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานิสิตให้มีความรู้และทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะในด้านการจัดการการเงินและการบริหารทรัพยากร ในที่สุด โครงการนี้ช่วยให้นิสิตสามารถใช้ทุนการศึกษาอย่างมีความรับผิดชอบและทำให้สามารถสำเร็จการศึกษาได้อย่างราบรื่น

ที่มา: งานส่งเสริมการจัดการศึกษา กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

‘คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน’ ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในพิษณุโลก เสริมสร้างความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่ไม่เพียงแค่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพและการลดความเหลื่อมล้ำ แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐานของประชาชนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มักถูกมองข้ามและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานได้อย่างเต็มที่ เช่น คนไร้สัญชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เผชิญกับการขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล, การประกอบอาชีพ และสิทธิขั้นพื้นฐานอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

หนึ่งในโครงการสำคัญที่สะท้อนถึงการดำเนินงานในแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ โครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลก โดยการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานที่พวกเขาควรได้รับ ภายใต้แนวคิดของการส่งเสริม ความยุติธรรม และ การลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม

การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติ ในตอนที่ 2 ของโครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้บริการช่วยเหลือและคำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ คนไร้สัญชาติ ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายหรือสิทธิพื้นฐานที่เหมาะสม โดยเฉพาะสิทธิในการขอสัญชาติ การได้รับการศึกษา การเข้าถึงการรักษาพยาบาล และการมีสิทธิในการดำเนินชีวิตอย่างเท่าเทียมกับประชาชนอื่น ๆ ในสังคม

การให้บริการทางกฎหมายในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ภาคีต่างๆ รวมถึงคณาจารย์จาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และบุคคลผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย โดยมีการให้คำปรึกษาในการยื่นขอสัญชาติ การจัดการกับปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมายของคนไร้สัญชาติ และการส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนในระดับท้องถิ่น

สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับโครงการ ในระหว่างการดำเนินงานของโครงการนี้ ผศ.กิติวรญา รัตนมณี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติว่า:

“การส่งเสริมสิทธิทางกฎหมายให้แก่ประชาชนทุกคนเป็นเรื่องที่จำเป็นในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน การให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านกฎหมายสำหรับกลุ่มคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลกนี้ ถือเป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานอย่างเท่าเทียม โดยการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียมไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา แต่ยังสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและสันติภาพได้”

ขณะเดียวกัน น.ส.ภิญญาภัทร ปุญญธนา (น้องแตงโม) นิสิตชั้นปีที่ 1 จาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวในโครงการนี้ว่า:

“การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสและสิทธิพื้นฐานในสังคม การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือในด้านการขอสัญชาติหรือสิทธิที่เกี่ยวข้อง แต่ยังเป็นการสร้างความหวังให้กับพวกเขาในการมีชีวิตที่ดีขึ้น การได้เห็นพวกเขามีโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่ควรได้รับถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก”

การสอดคล้องกับ SDGs 3, 10, และ 16: SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) มุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล, การศึกษา, และโอกาสในการมีชีวิตที่ดี โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไร้สัญชาติสามารถเข้าถึงสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ และลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 16 (สันติภาพ, ความยุติธรรม, และสถาบันที่เข้มแข็ง) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมความยุติธรรม และสร้างสังคมที่มีการให้บริการทางกฎหมายอย่างเท่าเทียม โครงการนี้ช่วยสร้างความยุติธรรมให้แก่คนไร้สัญชาติ ที่มักถูกมองข้ามในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานผ่านการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม

ผลกระทบที่สำคัญและการต่อยอดโครงการ: โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในการขอสัญชาติ แต่ยังช่วยส่งเสริมการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนในชุมชน การให้คำปรึกษาทางกฎหมายช่วยเพิ่มความเข้าใจและการเข้าถึงสิทธิของพวกเขาในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่ถูกมองข้ามในสังคมสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ในระยะยาว โครงการนี้มีความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้สัญชาติให้สามารถเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล และการมีงานทำได้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ ในสังคม ส่งผลให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีความยุติธรรมมากขึ้น

ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวรขอเชิญชวนทุกท่านร่วมรับชม คลิปวิดีโอ และตอบ แบบสอบถาม เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้ พร้อมทั้งช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้กับผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากโครงการ โดยการกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในสังคม

การให้โอกาสทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติถือเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการดำเนินโครงการนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกัน

ลิงค์สำหรับตอบแบบสอบถาม: https://forms.gle/BefJfJ5HaZ1Q1mLD7

ที่มา: สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร NUradio Naresuan

มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส

การจัดกิจกรรมในวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 โดยคณะพยาบาลศาสตร์ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ภายใต้โครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” สอดคล้องกับแนวทางของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน SDGs (Sustainable Development Goals) หรือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ, และ SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ.

โครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” เป็นการสร้างโอกาสในการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4 ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆ เช่น วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก, วิทยาลัยเทคนิคแม่สอด, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก, มหาวิทยาลัยนเรศวร, และสถาบันการศึกษาชั้นนำอื่นๆ ทำให้ผู้เรียนที่มาจากพื้นฐานที่แตกต่างกันมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการส่งเสริมความเสมอภาคและการลดช่องว่างทางการศึกษา (SDG 10).

กิจกรรมในโครงการนี้ไม่เพียงแต่เน้นการเรียนรู้ทางวิชาการ แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานในอนาคต โดยการจัดกิจกรรมที่เน้นการเตรียมตัวเข้าสู่โลกของการทำงาน นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงได้รับการแนะนำจากผู้บริหารจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.), รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการศึกษาและมีงานทำแล้ว รวมถึงการได้พบปะกับนายจ้างและสถานประกอบการที่ให้คำแนะนำในด้านทักษะการทำงาน ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ เช่น ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ และสายอาชีพชั้นสูงอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน การศึกษาสายอาชีพนี้ช่วยสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในการทำงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8).

การจัดตั้งโครงการ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยคัดเลือกสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ยังมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาให้พร้อมรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในยุค Thailand 4.0 การลงทุนในโครงการศึกษาสายอาชีพที่มุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่ทันสมัยและตรงกับความต้องการของตลาด จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างการศึกษาที่พร้อมตอบสนองความต้องการของสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต.

การที่คณะพยาบาลศาสตร์จัดกิจกรรมร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษา โดยการเข้าร่วมกิจกรรมปลุกพลังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่ประสบความสำเร็จจากรุ่นพี่และผู้เชี่ยวชาญในสายงาน อาทิ การได้พบกับผู้บริหารจากกองทุนฯ, นายจ้าง และสถานประกอบการที่มอบคำแนะนำในการพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถพัฒนาทักษะและสร้างเครือข่ายที่สำคัญในโลกของการทำงาน ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและส่งเสริมการพัฒนาตนเองของเยาวชนที่ด้อยโอกาส (SDG 10).

การจัดกิจกรรมนี้ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาหลายแห่ง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักศึกษาและครู/อาจารย์จากสถาบันต่างๆ ที่เข้าร่วม ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับชาติและระดับสากล (SDG 17). การสร้างเครือข่ายและการร่วมมือในการจัดกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสนับสนุนการพัฒนาความรู้ในเชิงลึกในทุกภาคส่วน.

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก

ส่งเสริมนิสิตที่มีความพิการด้านร่างกายสร้างรายได้ระหว่างเรียน

วันนี้ น้องทาม นิสิตสาขาทัศนศิลป์ ร่วมออกบูทเพ้นกระเป๋า/แก้ว ในงาน “มหกรรมอาชีพ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ เมืองแผ่นดิน ถิ่นสองแคว ” ตั้งแต่เวลา 10.00-16.30 น. ณ อาคารอุทยานสมเด็จพระนเรศวนมหาราช มหาวิทยาลัยนเรศวร อย่าลืมไปเยี่ยมชมและอุดหนุนสินค้าน้องทามกันนะคะ

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ออกให้บริการทางทันตกรรมให้กับประชาชนทั่วไป

วันที่ 15 มิถุนายน 2566 หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ออกให้บริการทางทันตกรรม ให้กับประชาชนทั่วไป จำนวน 120 ราย โดยแบ่งเป็น อุดฟัน 44 ราย ขูดหินปูน 48 ราย ถอนฟัน 23 ราย และ ผ่าฟันคุด 5 ราย ณ วิทยาลัยชุมชนพิจิตร อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร

อำนวยความสะดวกให้นิสิตที่มีความพิการให้ได้รับโอกาสเข้าถึงการศึกษาและใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียม

คณะสถาปัตย​กรรมศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดย ผศ.ดร.ธีรวุฒิ บุญยศักดิ์เสรี และ ผศ.ดร.จรัญญา พหลเทพ ได้นัดน้องทามและคุณแม่มาทดสอบอุปกรณ์​ในการเรียนที่คณะ ได้มีการทดลองนั่งเก้าอี้เรียนในห้องคอมพิวเตอร์​ ห้องเลคเชอร์ ห้องเรียนภาคปฏิบัติ(สเก็ตรูปภาพ)​ เก้าอี้นั่งที่โรงอาหาร และห้องนํ้าในชั้นต่างๆ โดยมีนายช่างวัดเก็บรายละเอียด​ต่างๆ เพื่อออกแบบเก้าอี้เลคเชอร์ เก้าอี้วาดรูป อ่างล้างหน้า และโต๊ะทานอาหาร เพื่อให้ทันใช้ในช่วงเปิดเทอม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นิสิตทึ่มีความพิการทางร่างกายให้เข้าถึงความสะดวกในการศึกษาภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ห้องสมุด ที่เท่าเทียมสำหรับนิสิตทุกคน

วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ตามที่ น้องทาม ได้เป็นนิสิตใหม่ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ประจำปีการศึกษา 2566 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ นั้น ในการนี้ รศ.ดร.ภญ.รัตติมา จีนาพงษา ผู้อำนวยการสำนักหอสมุด และทีมงาน จึงได้เชิญ

ผศ.ดร.ธีรวุฒิ บุญยศักดิ์เสรี และ ผศ.ดร.จรัญญา พหลเทพ อาจารย์ภาควิชาศิลปะและการออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ฯ มาให้คำแนะนำในการจัดสถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการของสำนักหอสมุด เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2566 เช่น ประตูทางเข้า ลิฟต์โดยสาร ห้องน้ำ จุดสืบค้นคอมพิวเตอร์ ห้องศึกษาค้นคว่ากลุ่ม โต๊ะอ่านหนังสือ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ที่มา: สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร สร้างโอกาสความเท่าเทียม เพราะความพิการไม่ใช่อุปสรรคในการเรียน

ในปีการศึกษา 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พิจารณาให้นายวรรธณะ คำอินทร์ หรือน้องทาม มีความพิการทางด้านร่างกาย ไม่มีแขนทั้งสองข้าง เข้าศึกษาต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ

และเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 นำโดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ฯ พาน้องทาม เข้าเยี่ยมชมหอพักที่จะใช้พักอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในระหว่างการศึกษา และทดลองการใช้บริการต่าง ๆ ในหอพัก อาทิ การขึ้นลงบันได การเปิดห้องห้องพัก เป็นต้น รวมทั้งได้อธิบายการใช้ห้องส่วนรวมต่างๆ อุปกรณ์เครื่องใช้ ภายในหอพักให้ทางน้องทามทราบ ในเบื้องต้นแล้ว

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวร มีศูนย์บริการนิสิตพิการมหาวิทยาลัยนเรศวร (NU DSS) อยู่ในการดูแลของกองกิจการนิสิต จะช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้นิสิตพิการหรือมีความบกพร่อง สามารถเข้าถึงระบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยได้อย่างเท่าเทียมกับนิสิตทั่วไป โดยจัดหาบริการสนับสนุน เพื่อช่วยให้นิสิตพิการสามารถบรรลุเป้าหมายทางการศึกษาได้

ขอบคุณภาพและข้อมูล จาก Paul wonder กองกิจการนิสิต และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin