ม.นเรศวร เจรจาความร่วมมือด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน

คณะผู้บริหารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ผู้บริหารหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเจรจาความร่วมมือด้านวิชาการ หลักสูตรการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู เมืองเฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

NULIFE เพราะการเรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด

มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดรับสมัครโครงการสัมฤทธิบัตร เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนเรียนรายวิชาระดับปริญญาตรี และขอเทียบโอนผลการเรียนรายวิชามาเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาต่อในหลักสูตรระดับปริญญาตรี โดยการสะสมหน่วยกิต (Credit Bank)

โดยภาคเรียนที่ 2/2566 เรียนร่วมกับนิสิตระดับปริญญาตรีในชั้นเรียนปกติในเวลาราชการ ทั้งหมด 82 รายวิชา ผ่านระบบ NULife (Naresuan University Lifelong Learning) >> https://nulife.nu.ac.th

เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2566 ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nu.ac.th/?p=36633 หรือที่ https://www.youtube.com/watch?v=365w_IRBea0#nusdg4

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เรียนรู้ทักษะพร้อมทำงานกับ Samart Skills

ผู้สมัคร Samart Skills จะได้รับ e-Mail แจ้ง Link เข้าเรียนจาก coursera.org ระหว่างวันที่ 15-20 พฤศจิกายน 2566

ศึกษาขั้นตอนการเข้าเรียนได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Fq6ckupGqC4

สอบถามข้อมูล ได้ที่ คุณจินตนา ชัยรัตนศักดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-1510 หรือ e-Mail : citcoms_training@nu.ac.th

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การนำของ รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และ รองศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ แก้วก่อง รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ได้ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชนจัดกิจกรรมบริการวิชาการ “การให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ” ให้แก่คณะครู นักเรียน และประชาชนในตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการรักษาสุขภาพตามหลักภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการใช้ สมุนไพรท้องถิ่น ในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ซึ่งเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายประการ โดยเฉพาะในด้าน SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, SDG 4: การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต, และ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.

กิจกรรมการให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพร: การจัดกิจกรรมนี้ได้แก่การ สาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้พืชสมุนไพรจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและคัดจมูก โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้วิธีการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณเท่านั้น แต่ยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้ สมุนไพรไทย ที่มีอยู่ในท้องถิ่นเพื่อดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันอย่างปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับการรักษาสุขภาพในวิถีธรรมชาติที่ยั่งยืน.

การใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเป็นการเสริมสร้างการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน ทั้งในแง่ของการดูแลร่างกายและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น โดยกิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมการ อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

การเสริมสร้างความรู้และการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชน: กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการ ค่ายวิทย์แพทย์อาสา โดยมี หน่วยงานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้จัดการดำเนินงาน และได้รับการสนับสนุนจาก โรงเรียนบ้านหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย. นอกจากการสาธิตการทำยาดมสมุนไพรแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่ความรู้และสร้างทักษะใหม่ ๆ ให้กับคณะครู นักเรียน และประชาชนในชุมชน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการใช้สมุนไพรไทย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดี.

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านสมุนไพรเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างการ มีส่วนร่วมของชุมชน ในการพัฒนาองค์ความรู้และการพัฒนาที่ยั่งยืนทางด้านสุขภาพ โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความยั่งยืน.

การสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน: การจัดกิจกรรมนี้ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการ ร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่น ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน. มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำได้มีบทบาทในการนำความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้แก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ.

การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการศึกษา (SDG 4): กิจกรรมนี้ยังเชื่อมโยงกับ SDG 4: การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เนื่องจากมันเน้นการให้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ แก่ประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะในด้านการใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเพื่อดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้.

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม: สร้างประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566, นางนิพัทธ์ เกษาพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดูแลต้อนรับและนำชมกลุ่มลูกค้าและพนักงานจากบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด จำนวน 50 คน ในการเข้าชม ผลงานศิลปะจากคลังสะสม “Color light” ซึ่งจัดแสดง ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวรและพิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัยได้สัมผัสการสร้างสรรค์ผ้าแบบดั้งเดิม และมีกระบวนการในการเรียนรู้ศิลปะผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น.

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม ประสบการณ์ด้านศิลปะ (Learning Experience) ซึ่งมีเป้าหมายในการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน พร้อมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจในคุณค่าของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในทุกยุคทุกสมัย โดยผ่านการสัมผัสกับกระบวนการและเทคนิคการทำผ้าด้วยมือ รวมถึงการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ที่สะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

กิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า โดยการสัมผัสกระบวนการสร้างสรรค์ผ้าด้วยมือและการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำผ้าแบบดั้งเดิมที่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยและสามารถสืบทอดความรู้เหล่านี้ได้ในอนาคต การศึกษาเกี่ยวกับการทำผ้าและการใช้วัสดุธรรมชาติยังช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในกระบวนการผลิตที่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยได้เรียนรู้ศิลปะที่มีคุณค่า.

กิจกรรมในครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้วัสดุท้องถิ่นในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยการใช้ สีจากธรรมชาติ ในการมัดย้อมผ้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีความยั่งยืนและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

การใช้ วัตถุดิบท้องถิ่น และกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีในกิจกรรมการมัดย้อมเป็นการส่งเสริมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน.

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการสร้างความร่วมมือที่มีความสำคัญระหว่าง มหาวิทยาลัย ภาครัฐและ ชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สามารถสืบสานไปยังอนาคต. การส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์ศิลปะไทยไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน แต่ยังช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติ.

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมนี้ยังเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย กับ ภาคธุรกิจ เช่นบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในแง่ของการศึกษาศิลปะและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ฝึกทักษะการทำ D.I.Y. กระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์ตัวเก่า ส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาและสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในวันที่ 14 กันยายน 2566, งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมทักษะด้านวิชาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ ครั้งที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพและการสร้างธุรกิจในรูปแบบที่ยั่งยืน โดยในกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา สงวนสิน เป็นวิทยากรในการจัด Workshop “ฝึกทักษะการทำ D.I.Y. กระเป๋าผ้า จากกางเกงยีนส์ตัวเก่า” ซึ่งจัดขึ้น ณ โถงอาคารเรียนรวม คณะวิทยาศาสตร์.

กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับนิสิตและบุคคลทั่วไปในการประกอบอาชีพ โดยการฝึกทำกระเป๋าผ้าจาก กางเกงยีนส์เก่า เป็นการนำวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และมีโอกาสในการสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสร้างขยะจากสิ่งของที่ใช้แล้ว. การจัดกิจกรรมนี้สะท้อนถึงการมุ่งส่งเสริม การศึกษาที่มีคุณภาพ (SDG 4) โดยการเปิดโอกาสให้นิสิตและประชาชนได้เรียนรู้วิธีการนำสิ่งของที่ใช้แล้วมารีไซเคิลเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่มีประโยชน์.

การเรียนรู้ทักษะการทำกระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์เก่าผ่านกิจกรรม Workshop D.I.Y. นี้ ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและผลิตสินค้าที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรใหม่ เป็นการสร้างพื้นฐานทักษะวิชาชีพให้กับนิสิต ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจส่วนตัวหรือการประกอบอาชีพในอนาคตได้.

กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย, นักศึกษา, และชุมชน เพื่อพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพและเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้าน การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (SDG 12) และ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 17). การใช้วัสดุที่เหลือใช้แล้วในกิจกรรมนี้ยังส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการ รีไซเคิล และการนำของเก่ากลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ โดยการสร้างสิ่งของที่มีคุณค่าทางการใช้งานและสามารถจำหน่ายได้.

การนำความรู้และเทคนิคมาฝึกฝนร่วมกันในกิจกรรมนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างบุคลากรจากคณะวิทยาศาสตร์และผู้เข้าร่วมที่หลากหลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพให้กับนิสิตและชุมชน โดยการนำแนวคิดที่เกี่ยวกับ การพัฒนาที่ยั่งยืน มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง.

กิจกรรมการทำ กระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์เก่า เป็นการสนับสนุนการ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (SDG 12)โดยการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมารีไซเคิล ทำให้สามารถลดการสร้างขยะและการใช้วัสดุใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเห็นถึงคุณค่าของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือและการปรับใช้เทคนิคการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม.

ม.นเรศวร จัดปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566

การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยกองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่าน Microsoft Teams ถือเป็นการดำเนินการที่สำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาของนิสิตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีความสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งหวังให้การศึกษามีความเท่าเทียมและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4)

โครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตที่ได้รับทุนจากกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้มีความเข้าใจในการใช้ทุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนการเงินและการเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับทุนกู้ยืมในอนาคต การจัดโครงการนี้ผ่านระบบออนไลน์ (Microsoft Teams) ยังเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงข้อมูลและการเรียนรู้ได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการสนับสนุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้

ในโครงการนี้ นิสิตจำนวน 1,296 คนเข้าร่วมการปัจฉิมนิเทศ โดยการอบรมและการทดสอบผ่านระบบออนไลน์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการสร้างพื้นฐานการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับนิสิตทุกคน โดยเฉพาะนิสิตที่ได้รับทุน กยศ. ซึ่งเป็นทุนที่ช่วยให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนกยศ. ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงการศึกษา การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนี้มีบทบาทในการช่วยให้ผู้ที่ได้รับทุนสามารถใช้ประโยชน์จากทุนได้อย่างเต็มที่ โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้ กฎเกณฑ์การกู้ยืม และแนวทางในการบริหารจัดการการเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้รับทุนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาความสามารถในการจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการดำรงชีวิตในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและการเข้าถึงข้อมูล

การจัดโครงการผ่าน Microsoft Teams ยังสะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีในการเสริมสร้างการศึกษาให้เข้าถึงได้มากขึ้น และช่วยให้การเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่สามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังนิสิตทุกคนที่ต้องการข้อมูลในรูปแบบออนไลน์ การเข้าร่วมโครงการออนไลน์จำนวนมาก (1,296 คน) และผ่านการทดสอบได้ถึง 1,281 คน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการในการเข้าถึงผู้เรียนในวงกว้าง และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

สร้างความยั่งยืนในระบบการศึกษา

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงการสร้าง สังคมแห่งการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานิสิตให้มีความรู้และทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะในด้านการจัดการการเงินและการบริหารทรัพยากร ในที่สุด โครงการนี้ช่วยให้นิสิตสามารถใช้ทุนการศึกษาอย่างมีความรับผิดชอบและทำให้สามารถสำเร็จการศึกษาได้อย่างราบรื่น

ที่มา: งานส่งเสริมการจัดการศึกษา กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

แนะหลักสูตรระยะสั้น : การเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านการศึกษาและการพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การจัดหลักสูตรระยะสั้น “การเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ” โดยคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมการบริการที่เติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะการประกอบธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 4) ที่มุ่งเน้นให้ผู้คนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและการพัฒนาทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตจริง โดยเฉพาะการพัฒนาอาชีพและการสร้างธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

รายละเอียดหลักสูตร: การเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ หลักสูตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างทักษะการประกอบธุรกิจให้กับผู้เรียน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมร้านกาแฟที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ผู้เรียนจะได้รับทั้งทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติจริงเกี่ยวกับการเปิดร้านกาแฟตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงการดำเนินงานให้สำเร็จ โดยมีรายละเอียดกิจกรรมที่สำคัญดังนี้:

  1. ฝึกปฏิบัติการทำกาแฟกับมืออาชีพ ในส่วนนี้ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เทคนิคการทำกาแฟที่มีคุณภาพ เรียนรู้การชงกาแฟตามสูตรต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมในตลาด รวมถึงวิธีการเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ และวิธีการชงกาแฟให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อให้ธุรกิจร้านกาแฟสามารถสร้างรายได้จากการขายเครื่องดื่มกาแฟที่มีรสชาติพิเศษ
  2. เข้าใจรูปแบบของธุรกิจร้านกาแฟ หลักสูตรนี้จะสอนให้ผู้เรียนเข้าใจการทำธุรกิจร้านกาแฟตั้งแต่การจัดการต้นทุน การวางแผนการเงิน ไปจนถึงการบริหารการบริการลูกค้าอย่างมืออาชีพ ผู้เรียนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการกำหนดราคาขาย การเลือกซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และการวางแผนการจัดการธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
  3. เทคนิคการเปิดร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจกระบวนการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ ตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง การออกแบบร้าน การจัดการทรัพยากร และการวางแผนการตลาดจนถึงการเปิดร้านจริง ผู้เรียนจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและมืออาชีพในการเปิดร้านให้มีความน่าสนใจและสามารถดึงดูดลูกค้าได้
  4. การออกแบบร้านกาแฟเพื่อสร้างความดึงดูด การสร้างบรรยากาศภายในร้านกาแฟให้ดึงดูดลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจร้านกาแฟ หลักสูตรนี้จะสอนวิธีการออกแบบร้านกาแฟให้มีเอกลักษณ์และตอบสนองความต้องการของลูกค้า เช่น การเลือกวัสดุตกแต่งที่มีความเหมาะสม การใช้สีและแสงในการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและน่าดึงดูด
  5. การวางตำแหน่งแบรนด์และกลยุทธ์ทางการตลาด การสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์และการทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ หลักสูตรนี้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจการวางตำแหน่งแบรนด์และการทำกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้ร้านกาแฟเป็นที่รู้จักในตลาด รวมถึงการใช้ช่องทางต่าง ๆ ในการโปรโมทสินค้าและบริการ
  6. ทริปพิเศษ “เขาค้อ” การทัศนศึกษาในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ เช่น เขาค้อ เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจในการออกแบบธุรกิจ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการออกแบบร้านกาแฟจากสถานที่ที่มีความน่าสนใจ เพื่อการสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้า

หลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบเพื่อสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยมุ่งเน้นในสองด้านหลัก:

  1. การส่งเสริมการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8)
    หลักสูตรนี้มีเป้าหมายในการเสริมสร้างทักษะการทำธุรกิจที่ยั่งยืนให้แก่ผู้เรียน เพื่อให้สามารถสร้างธุรกิจที่ไม่เพียงแต่ทำกำไรได้ แต่ยังส่งเสริมการสร้างงานและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจในชุมชน การฝึกอบรมผู้ประกอบการให้มีทักษะที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างฐานเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและยั่งยืนในระยะยาว
  2. การใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน (SDG 12)
    หลักสูตรนี้เน้นการเลือกใช้วัตถุดิบและวัสดุที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านการเลือกซื้อเมล็ดกาแฟจากแหล่งที่ยั่งยืน รวมทั้งการเลือกใช้วัสดุตกแต่งและการออกแบบร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รายละเอียดหลักสูตร
  • จำนวนรับสมัคร: 20 ท่าน
  • ค่าลงทะเบียน: 3,900 บาท
  • วันที่จัดกิจกรรม: ตามประกาศ
  • สถานที่: คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • วิธีการสมัคร: สมัครผ่านลิงก์ https://shorturl.asia/5817U
  • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: โทร. 055 964 822 (งานวิจัยและบริการวิชาการ)

รับสมัครด่วน! เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการร้านกาแฟอย่างมืออาชีพ พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคต!

มอบโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน นักเรียน และนิสิต ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์

พิธีมอบทุนการศึกษา “มูลนิธินายประจักษ์ และนางสาลี่ คนตรง” ประจำปีการศึกษา 2566

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดพิธีมอบทุนการศึกษา “มูลนิธินายประจักษ์ และนางสาลี่ คนตรง” ประจำปีการศึกษา 2566 ขึ้น ในวันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2566 ณ ห้องนเรศวร 102 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยได้รับเกียรติจาก นายอานนท์ณัฏฐ์ เปรมฤทัย ประธานกรรมการมูลนิธินายประจักษ์ และนางสาลี่ คนตรง และคณะ เป็นผู้มอบทุนฯ ร่วมกับ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต (ดร.จารุวรรณ แดงบุปผา) ผู้อำนวยการกองกิจการนิสิต และคณาจารย์ผู้แทนสถาบัน ทั้งนี้มีนักเรียนและนิสิตที่ได้รับทุน จำนวนทั้งสิ้น 29 ทุน จาก 5 สถาบันการศึกษา ได้แก่ นิสิตจากมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 9 ทุน นักเรียนจากโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม จำนวน 5 ทุน นักเรียนจากโรงเรียนพุทธชินราช จำนวน 5 ทุน นักเรียนจากโรงเรียนพิษณุโลกปัญญานุกูล จำนวน 6 ทุน และสามเณรจากโรงเรียนวัดธรรมจักรวิทยา จำนวน 4 ทุน

ซึ่งทุนดังกล่าวถือเป็นโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชน นักเรียน และนิสิตที่มีความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อีกทั้งยังเป็นการส่งต่อโอกาสและแบ่งปันไปยังผู้อื่นในสังคม เพื่อให้ “ผู้รับ” ในวันนี้ ได้มีโอกาสพัฒนาตนเองให้เป็น “ผู้ให้” ในวันหน้า และร่วมแบ่งปันโอกาสทางการศึกษาให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน และส่งต่อความสุขสู่บุคคลอื่นในสังคมต่อไปอย่างไม่มีสิ้นสุดต่อไป

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

สู่การเป็นนวัตกร ผู้ประกอบการในอนาคต กับ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ และน่าสนใจ

ประชาสัมพันธ์เชิญชวนสำหรับนิสิตคณะวิทยาศาสตร์ สู่การเป็นนวัตกร ผู้ประกอบการในอนาคต กับ 4 ขั้นตอนง่าย ๆ และน่าสนใจ นิสิตลงทะเบียนเรียน รายวิชา 251200 “นวัตกรทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี” ที่ www.reg.nu.ac.th ในเทอม 2/2566

เมื่อนิสิตลงทะเบียนเรียน ก็จะ Enjoy ไปกับเนื้อหาที่น่าสนใจ และแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานที่สนใจด้านต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน นิสิตเข้าร่วมอบรมเพิ่มความรู้ทักษะ สำหรับการเตรียมความพร้อมในการเป็นนวัตกร กับกิจกรรม “ Summer Research Camp” ช่วงเดือน เม.ย.-พ.ย.

เมื่อมีแนวคิดสร้างสรรค์ผลงาน จาก “Summer Research Camp” นิสิตสามารถสมัครขอรับทุนส่งเสริมโครงการนวัตกรรม นิสิตคณะวิทยาศาสตร์ โดยแบ่งเป็น ทุนบุ่มเพาะนวัตกรรมรุ่นเยาว์ 5,000 บาท หรือทุนสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ 10,000 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : หน่วยอำนวยการและสนับสนุนการเรียนรู้ งานบริการการศึกษา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โทร.055-963140 (ในวันและเวลาราชการ) หรือ อีเมล์ ACSC@nu.ac.th #nusdg4#nusdg8

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin