ม.นเรศวร จับมือ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงานเสวนา TWEA สัญจร “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่”

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงาน TWEA สัญจร ในหัวข้อ “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ดร. ปิยพรรณ หันนาคินทร์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยนเรศวร , กรรมการผู้จัดการบริษัท Operational Energy Group และที่ปรึกษาสมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) และ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมวิศวกรหญิงไทย เป็นผู้ร่วมเสวนา เพื่อแนะแนวและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานจนถึงเตรียมการวิศวกรรุ่นใหม่และนิสิตที่กำลังจะเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ซึ่งในงานนี้มีนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ณ ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จับมือ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงานเสวนา TWEA สัญจร “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่”

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ สมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) จัดงาน TWEA สัญจร ในหัวข้อ “เตรียมพร้อมทำงานในโลกวิศวกรรมยุคใหม่” โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ดร. ปิยพรรณ หันนาคินทร์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยนเรศวร , กรรมการผู้จัดการบริษัท Operational Energy Group และที่ปรึกษาสมาคมวิศวกรหญิงไทย (TWEA) และ นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย นายกสมาคมวิศวกรหญิงไทย เป็นผู้ร่วมเสวนา เพื่อแนะแนวและถ่ายทอดประสบการณ์ในการทำงานจนถึงเตรียมการวิศวกรรุ่นใหม่และนิสิตที่กำลังจะเข้าสู่ชีวิตการทำงาน ซึ่งในงานนี้มีนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ณ ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถ ชั้น 3 มหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลวังนํ้าคู้ ให้บริการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าและตรวจสุขภาพฟันฟรี

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 หน่วยเวชปฏิบัติชุมชนจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่เพื่อให้บริการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าและการตรวจสุขภาพฟันให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังน้ำคู้ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยกิจกรรมในครั้งนี้มีผู้ป่วยเข้ารับบริการจำนวน 90 ราย ซึ่งได้รับการตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าและฟันจากอาจารย์และนักศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อ ส่งเสริมสุขภาพที่ดี และ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ที่มักเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะ ภาวะแทรกซ้อนทางเท้า ที่เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาหรือมีการสูญเสียอวัยวะ รวมถึงปัญหาสุขภาพฟันที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยโรคเบาหวาน การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้จึงมุ่งหวังที่จะ ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และ เสริมสร้างความรู้ ให้กับผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน เพื่อ เพิ่มคุณภาพชีวิต และลดภาระในการรักษาพยาบาลในระยะยาว โดยมีการคัดกรองและให้คำแนะนำ ดังนี้

1. การตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้า ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักมีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถรับรู้ความเจ็บปวดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่เท้าและลุกลามจนเกิดแผลหรือการติดเชื้อจนต้องมีการตัดอวัยวะ การตรวจคัดกรองภาวะแทรกซ้อนทางเท้าในครั้งนี้ รวมถึงการทดสอบ การตอบสนองของเส้นประสาท การตรวจหาบาดแผลและการติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น และการให้คำแนะนำในการ ดูแลรักษาเท้า เช่น การล้างทำความสะอาดเท้า การเลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสม รวมถึงการ บริหารเท้า เพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในเท้า

2. การตรวจสุขภาพฟัน ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพฟันที่รุนแรงมากขึ้น เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงสามารถทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในปาก ส่งผลให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์ หรือปัญหาฟันผุ การตรวจสุขภาพฟันในครั้งนี้ได้มีการตรวจสอบสภาพฟันและเหงือกของผู้ป่วย พร้อมทั้งการให้คำแนะนำในการดูแลรักษาสุขภาพฟัน เช่น การแปรงฟันอย่างถูกวิธี การใช้ไหมขัดฟัน การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง และการตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ

นอกจากการตรวจคัดกรองและรักษาเบื้องต้นแล้ว ทีมงานยังได้ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับ การดูแลเท้า และ การบริหารเท้า ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูแลเท้าของตนเองได้อย่างถูกต้องและป้องกันการเกิดแผลที่อาจลุกลามไปสู่การติดเชื้อที่รุนแรงได้ นอกจากนี้ ยังได้ให้ความรู้ในเรื่องของ การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา

กิจกรรมในครั้งนี้ได้ช่วย เพิ่มการตระหนักรู้ ให้แก่ผู้ป่วยโรคเบาหวานในพื้นที่เกี่ยวกับการดูแลเท้าและสุขภาพฟัน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่อาจขาดการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ การให้ความรู้และการตรวจคัดกรองในครั้งนี้จึงมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมสุขภาพ และ เพิ่มคุณภาพชีวิต ของผู้ป่วยโรคเบาหวานในชุมชน

การดำเนินกิจกรรมในครั้งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 3: Good Health and Well-being) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและการป้องกันโรค โดยเฉพาะการดูแลโรคเรื้อรังอย่างโรคเบาหวาน ซึ่งมีความสำคัญในการลดภาระของระบบสุขภาพและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน นอกจากนี้ การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้และเสริมทักษะการดูแลสุขภาพให้กับชุมชน ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความยั่งยืนทางด้านสุขภาพในระยะยาว

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมวันเบาหวานโลก 2566 เสริมสร้างความรู้และการป้องกันโรคเบาหวาน พร้อมส่งเสริมการร่วมมือเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม วันเบาหวานโลก (ค่ายเบาหวาน) ประจำปี 2566 โดยกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.พญ.ศรินยา สัทธานนท์ และ พญ.แพรว สุวรรณศรีสุข อาจารย์แพทย์จากภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นที่ ห้องประชุม CC2-801 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา 2 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความรู้และการป้องกันโรคเบาหวานในสังคม รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยโรคเบาหวานในทุกระดับ

กิจกรรมวันเบาหวานโลกในปี 2566 นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้และการรับรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน โดยเฉพาะในด้านการ ป้องกันและจัดการโรคเบาหวาน เพื่อช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าใจถึงการดูแลรักษาตนเองเมื่อมีความเสี่ยงหรือเป็นโรคเบาหวานแล้ว รวมถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สามารถลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคเบาหวานและการพัฒนาภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำแนวทางในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันเพื่อเสริมสร้าง สุขภาพที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคน

กิจกรรมในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงการ ร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรกับองค์กรต่าง ๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและชุมชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาสุขภาพอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคประชาชนในการสร้างความตระหนักรู้และการให้บริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพให้กับประชาชน การทำงานร่วมกันในลักษณะนี้ส่งเสริมการสร้าง ความเป็นหุ้นส่วน ที่มีความสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับประเทศและระดับโลก

ภายในงานกิจกรรมวันเบาหวานโลกนี้ มีการจัดกิจกรรมหลากหลายเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับโรคเบาหวาน รวมถึงการ ตรวจคัดกรองเบาหวาน การ ให้คำแนะนำด้านการป้องกันโรคเบาหวาน และการจัดการกับโรคเบาหวานในระยะยาว โดยกิจกรรมหลักในวันนั้นได้แก่:

  1. การบรรยายและการให้ความรู้ จากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคเบาหวานและการจัดการเบาหวานที่เหมาะสม
  2. การฝึกอบรม และ การให้คำแนะนำ เรื่องการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการตรวจสุขภาพที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
  3. การให้คำปรึกษาด้านการดูแลเบาหวาน โดยแพทย์และพยาบาลจากคณะแพทยศาสตร์ เพื่อช่วยผู้เข้าร่วมมีข้อมูลที่ถูกต้องในการจัดการกับโรคเบาหวานในชีวิตประจำวัน

กิจกรรมในครั้งนี้มีบทบาทสำคัญในการ ส่งเสริมการป้องกันโรคเบาหวาน และ การจัดการโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอัตราการเกิดโรคเบาหวานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การจัดกิจกรรมที่สามารถให้ความรู้และข้อมูลแก่ประชาชนในด้านการดูแลตนเองและการป้องกันโรคได้ จึงมีส่วนช่วยในการ ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน และส่งเสริม คุณภาพชีวิต ของผู้ป่วยและผู้ที่มีความเสี่ยง

การ สร้างความร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัยกับองค์กรต่าง ๆ ภาครัฐและภาคเอกชน ในการจัดกิจกรรมและสร้างความตระหนักรู้เช่นนี้ ยังเป็นการ สนับสนุน SDG 17: Partnerships for the Goals ซึ่งมุ่งส่งเสริมการทำงานร่วมกันในทุกระดับเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

โนรา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 คณะมนุษยศาสตร์ ได้จัดโครงการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ และคณะนักแสดงโนรา

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม ระหว่าง คณะมนุษยศาสตร์กับหน่วยงานภายนอก และเพื่อทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของคนไทย

“โนรา” เป็นศิลปะการแสดงท้องถิ่นของคนภาคใต้ ที่มีความงดงามทั้งในเรื่องของการร่ายรำ การเล่นดนตรี และการขับร้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของการแสดง “โนรา” อีกทั้ง ยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียน “โนรา” ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอีกด้วย

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เสวนา Mini-Symposium: The Visiting Professor เสริมสร้างความร่วมมือสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านวัสดุชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ และ สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านนวัตกรรมทางเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในการกล่าวเปิดและกล่าวต้อนรับ รวมถึง รศ.ดร.พัชราภรณ์ สุดชาฎา คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ที่ได้กล่าวรายงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

กิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ โดยมีการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศรวม 10 ท่าน เช่น Assistant Professor Dr. Yujia Liu และ Prof. Dr. Masafumi Unno จาก Gunma University, Japan, Dr. Celine Viennet และ Dr. Gwenael Rolin จาก University of France Comte, France, Professor Dr. David Parker จาก Hong Kong Baptist University, Hong Kong, Dr. Thanchanok Muangman จาก Thailand Institute of Scientific and Technological Research, Thailand รวมถึงนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร เช่น ศ.ดร.ภญ.จารุภา วิโยชน์, ผศ.ดร.ภญ.เพ็ญศรี เจริญสิทธิ์, Asst.Prof. Dr. Gareth Ross, และ รศ.ดร.สุกัญญา รอส

การจัดกิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการวิจัยในสาขาวัสดุชีวภาพและนวัตกรรมทางเคมี ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาชุมชนได้ในอนาคต การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการวิจัย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่า

กิจกรรมดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDGs 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย SDGs 9 มุ่งเน้นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและวัสดุชีวภาพซึ่งสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ในขณะที่ SDGs 17 เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จึงเป็นการสร้างเครือข่ายการวิจัยที่มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

กิจกรรม Mini-Symposium ครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพและสามารถสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาจึงเป็นการช่วยขยายขีดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ม.นเรศวร เจรจาความร่วมมือด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน

คณะผู้บริหารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ผู้บริหารหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเจรจาความร่วมมือด้านวิชาการ หลักสูตรการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู เมืองเฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ส่งเสริมการสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การนำของ รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และ รองศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ แก้วก่อง รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ได้ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชนจัดกิจกรรมบริการวิชาการ “การให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ” ให้แก่คณะครู นักเรียน และประชาชนในตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการรักษาสุขภาพตามหลักภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการใช้ สมุนไพรท้องถิ่น ในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ซึ่งเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนหลายประการ โดยเฉพาะในด้าน SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, SDG 4: การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต, และ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.

กิจกรรมการให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพร: การจัดกิจกรรมนี้ได้แก่การ สาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้พืชสมุนไพรจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและคัดจมูก โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้วิธีการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณเท่านั้น แต่ยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการใช้ สมุนไพรไทย ที่มีอยู่ในท้องถิ่นเพื่อดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันอย่างปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับการรักษาสุขภาพในวิถีธรรมชาติที่ยั่งยืน.

การใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเป็นการเสริมสร้างการมีสุขภาพที่ดีและยั่งยืน ทั้งในแง่ของการดูแลร่างกายและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่น โดยกิจกรรมนี้ยังเป็นการส่งเสริมการ อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

การเสริมสร้างความรู้และการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชน: กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการ ค่ายวิทย์แพทย์อาสา โดยมี หน่วยงานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้จัดการดำเนินงาน และได้รับการสนับสนุนจาก โรงเรียนบ้านหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย. นอกจากการสาธิตการทำยาดมสมุนไพรแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นโอกาสในการเผยแพร่ความรู้และสร้างทักษะใหม่ ๆ ให้กับคณะครู นักเรียน และประชาชนในชุมชน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการใช้สมุนไพรไทย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันเพื่อสุขภาพที่ดี.

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านสมุนไพรเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างการ มีส่วนร่วมของชุมชน ในการพัฒนาองค์ความรู้และการพัฒนาที่ยั่งยืนทางด้านสุขภาพ โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาปรับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความยั่งยืน.

การสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชน: การจัดกิจกรรมนี้ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการ ร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่น ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน. มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำได้มีบทบาทในการนำความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วยเสริมสร้างทักษะและความรู้แก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ.

การส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านการศึกษา (SDG 4): กิจกรรมนี้ยังเชื่อมโยงกับ SDG 4: การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เนื่องจากมันเน้นการให้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ แก่ประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะในด้านการใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันเพื่อดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในวิธีการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สามารถปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้.

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม: สร้างประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566, นางนิพัทธ์ เกษาพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดูแลต้อนรับและนำชมกลุ่มลูกค้าและพนักงานจากบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด จำนวน 50 คน ในการเข้าชม ผลงานศิลปะจากคลังสะสม “Color light” ซึ่งจัดแสดง ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวรและพิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัยได้สัมผัสการสร้างสรรค์ผ้าแบบดั้งเดิม และมีกระบวนการในการเรียนรู้ศิลปะผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น.

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม ประสบการณ์ด้านศิลปะ (Learning Experience) ซึ่งมีเป้าหมายในการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน พร้อมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจในคุณค่าของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในทุกยุคทุกสมัย โดยผ่านการสัมผัสกับกระบวนการและเทคนิคการทำผ้าด้วยมือ รวมถึงการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ที่สะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

กิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า โดยการสัมผัสกระบวนการสร้างสรรค์ผ้าด้วยมือและการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำผ้าแบบดั้งเดิมที่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยและสามารถสืบทอดความรู้เหล่านี้ได้ในอนาคต การศึกษาเกี่ยวกับการทำผ้าและการใช้วัสดุธรรมชาติยังช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในกระบวนการผลิตที่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยได้เรียนรู้ศิลปะที่มีคุณค่า.

กิจกรรมในครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้วัสดุท้องถิ่นในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยการใช้ สีจากธรรมชาติ ในการมัดย้อมผ้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีความยั่งยืนและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

การใช้ วัตถุดิบท้องถิ่น และกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีในกิจกรรมการมัดย้อมเป็นการส่งเสริมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน.

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการสร้างความร่วมมือที่มีความสำคัญระหว่าง มหาวิทยาลัย ภาครัฐและ ชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สามารถสืบสานไปยังอนาคต. การส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์ศิลปะไทยไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน แต่ยังช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติ.

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมนี้ยังเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย กับ ภาคธุรกิจ เช่นบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในแง่ของการศึกษาศิลปะและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร สร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยนเรศวรในการลงนามในบันทึกการตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding (MOU) กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และเทศบาลตำบลท่าทอง จำนวน 11 แห่ง ณ ห้องเทพรณรงค์ฤาไชย ชั้น 1 อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีรายนามหน่วยงานดังต่อไปนี้

1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
3. โรงพยาบาลสุโขทัย
4. โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
5. โรงพยาบาลพิจิตร
6. โรงพยาบาลกำแพงเพชร
7. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
8. โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
9. โรงพยาบาลจิตเวชพิษณุโลก
10. โรงพยาบาลพิษณุเวช
11. เทศบาลตำบลท่าทอง

โดย MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันด้านวิชาการและการศึกษาวิจัย ด้านบริการวิชาการ และเพื่อพัฒนาบุคลากรของทุกๆหน่วยงาน รวมถึงคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรด้วย

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin