ม.นเรศวร จัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2567

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2567 ส่วนภูมิภาค เขตภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งจัดขึ้นจนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ภายใต้หัวข้อหลัก “วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต สิ่งแวดล้อมและสังคม BCG” และหัวข้อย่อย “เรียน – เล่น – งาน – อาชีพ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” โดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลายทั้งในรูปแบบ Onsite ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และรูปแบบ Online ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เพจ Facebook: Scienceweek Nu และทาง Youtube: Sci-PR Naresuan University

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมมากมาย เช่น การประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, การแสดงโครงงานวิทยาศาสตร์, กิจกรรมดนตรีสากล, การแข่งขันวาดภาพการ์ตูนและภาพจินตนาการทางวิทยาศาสตร์, การตอบปัญหาคณิตศาสตร์, การประกวดสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์, การตอบปัญหาวิทยาศาสตร์, และการแข่งขันจรวดขวดน้ำ ซึ่งได้รับความสนใจจากนักเรียนโรงเรียนต่างๆ ในภูมิภาคนำนักเรียนมาศึกษาดูงานจำนวนมาก

มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันอุดมศึกษาในกลุ่มมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก (Global and Frontier Research University) และมีวิสัยทัศน์ “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” (University For Entrepreneurial Society) มุ่งมั่นตามพันธกิจการผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศชาติ

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม สัปดาห์วิทยาศาสตร์ ประจำปีเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนจากโรงเรียนห่างไกลได้เข้าถึงการเรียนรู้ โดยนำเสนอองค์ความรู้จากหลากหลายด้านผ่านกิจกรรมติวเตอร์ที่น่าสนใจ เช่น การทดลองทางวิทยาศาสตร์, ความรู้ด้านการแพทย์, และการสำรวจท้องฟ้าจำลอง. กิจกรรมนี้ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ให้กับผู้เข้าร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดงาน สัปดาห์วิทยาศาสตร์ นี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์แก่เยาวชน โดยนำเสนอความรู้ที่หลากหลายและสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ให้กับนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ โดยเฉพาะนักเรียนจากพื้นที่ห่างไกลที่มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาและกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมนี้ยังสอดคล้องกับการส่งเสริม การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong Learning) เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและบุคคลทั่วไปได้พัฒนาทักษะและเรียนรู้ในหลากหลายด้านต่อไป

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างอนาคตของเยาวชน โดยผ่านการจัดกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และแสดงความสามารถของตนเอง ทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และการประดิษฐ์เทคโนโลยี เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) โดยการจัดกิจกรรมให้ความรู้ทางด้านสุขภาพและการดูแลร่างกายที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันที่ดีและยั่งยืน

ม.นเรศวร ร่วมมือชุมชนท้องถิ่น รักษาระบบนิเวศและพัฒนาป่าชุมชนอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย ผศ.ศิษฐ์ภัณฑ์ แคนลา รักษาการผู้อำนวยการกองส่งเสริมการบริการวิชาการ ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมการบริการวิชาการ เข้าร่วมประชุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสร้างระบบนิเวศในนิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ครั้งที่ 3/2567

ภายในที่ประชุม รศ.ดร.ศศิมา เจริญกิจ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ได้นำเสนอแผนพัฒนาป่าชุมชน เพื่อสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าชุมชนอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่การอนุรักษ์ระบบนิเวศและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ การนำเสนอนี้ยังครอบคลุมถึงการพัฒนาป่านิเวศชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้และทรัพยากรที่ชุมชนสามารถใช้ร่วมกัน

การประชุมครั้งนี้มี นายสุริชาติ จงจิตต์ ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองบางระกำ เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้แทนจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และชุมชนกว่า 30 คน ที่ได้ร่วมวางแผนและจัดทำร่างแผนปฏิบัติการสำหรับปีงบประมาณ 2568

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชนผ่านการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาร่วมกันอย่างยั่งยืน

ม.นเรศวร จัดกิจกรรม NU Safety Day 2024 สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรจัดกิจกรรม วันความปลอดภัย มหาวิทยาลัยนเรศวร ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 (NU Safety Day 2024) ในวันที่ 22 สิงหาคม 2567 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดและมอบรางวัลให้กับผู้ชนะการประกวด Poster & Infographic ใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน, ด้านความปลอดภัยสารเคมี และด้านความปลอดภัยทางรังสี. การจัดกิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ยั่งยืน.

กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัยให้ยั่งยืน” โดยมีการบรรยายจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศิริชัย ตันรัตนวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งได้กล่าวถึงนโยบายในการพัฒนาและยกระดับการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยให้ยั่งยืน. การส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรมีความสำคัญในการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมการทำงาน.

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยยังได้จัดให้มีการบรรยายและการให้ความรู้จากวิทยากรทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยในหลายหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยและอาชีวอนามัย. การให้ความรู้ในเรื่องของความปลอดภัยทั้งทางรังสีและสารเคมี ถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความตระหนักและความเข้าใจในเรื่องความปลอดภัยสำหรับบุคลากรและนิสิต.

คณะกรรมการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับคณะกรรมการด้านความปลอดภัยทางรังสีได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้น ณ หอประชุมมหาราช ศูนย์แสดงนิทรรศการและการจัดประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ความรู้และเพิ่มพูนทักษะในการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย.

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้สอดคล้องกับ SDG 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงานและการศึกษาของมหาวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพทั้งในด้านการศึกษาและการทำงาน เพื่อให้บุคลากรและนิสิตทุกคนสามารถดำเนินชีวิตและการทำงานได้อย่างปลอดภัย.

กิจกรรม NU Safety Day 2024 เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่ยั่งยืนและส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรและนิสิตในมหาวิทยาลัย. การให้ความรู้และสร้างความตระหนักในด้านความปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างสังคมที่ยั่งยืนในมหาวิทยาลัย.

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพผ่านกิจกรรม “แฟนพันธุ์แท้ปลาไทย”

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม “แฟนพันธุ์แท้ปลาไทย” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่เน้นการสร้างความรู้และความตระหนักรู้เกี่ยวกับทรัพยากรสัตว์น้ำของไทย โดยเฉพาะปลาน้ำจืดไทยในแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมดุลของระบบนิเวศ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำ การแข่งขันนี้จัดขึ้นในงาน Open House ของคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2567

ดร.นณณ์ ผาณิตวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ได้ให้การสนับสนุนรางวัลการแข่งขัน โดยการมอบรางวัลให้กับผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ซึ่งมอบโดย ดร.กัลย์กนิต พิสมยรมย์ ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตร์การประมง คณะเกษตรศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ในปีนี้ รางวัลชนะเลิศ ตกเป็นของ โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี ทีมที่ 2 และยังมี รางวัลรองชนะเลิศ และ รางวัลชมเชย สำหรับทีมอื่น ๆ จากโรงเรียนเฉลิมขวัญสตรีและโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งสิ้น 24 ทีม ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 14) ซึ่งมุ่งเน้นการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพ และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสำหรับเยาวชนและชุมชนในอนาคต

กิจกรรมนี้ไม่เพียงแต่เป็นเวทีการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชนในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะมีบทบาทสำคัญในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและดูแลทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนและร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมนี้ พร้อมทั้งยินดีกับนักเรียนที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันในครั้งนี้ การสนับสนุนกิจกรรมด้านการศึกษาทรัพยากรทางน้ำนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย.

มหาวิทยาลัยนเรศวร สร้างพื้นที่แห่งความสุข “ตลาดโบราณย้อนยุค”

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีการสร้างพื้นที่แห่งความสุข “ตลาดโบราณย้อนยุค” เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างคนในมหาวิทยาลัย, ชุมชนโดยรอบ, และผู้ประกอบการท้องถิ่น สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ, สังคม, และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs ที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ตลาดโบราณย้อนยุคไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเลือกซื้ออาหารที่สะอาด ปลอดภัย และมีราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวของขนมและอาหารโบราณที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม การสร้างพื้นที่เช่นนี้ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นการส่งเสริมเป้าหมาย SDG 4 “การศึกษาที่มีคุณภาพ” และ SDG 11 “เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน”

นอกจากนี้ ตลาดโบราณย้อนยุคยังเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน การเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีโอกาสสร้างรายได้ถือเป็นการส่งเสริม SDG 8 “การทำงานที่ดีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ” โดยการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการในชุมชน อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเงินภายในพื้นที่ ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น

ในด้านสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมีกิจกรรมร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการนำขวดพลาสติกใช้แล้วมาใช้ใหม่เป็นภาชนะในการปลูกต้นไม้ เช่น การปลูกต้นไม้ในขวดพลาสติกที่เป็นวัสดุรีไซเคิล ช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่และลดขยะในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12 “การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน” โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การสร้างพื้นที่แห่งความสุขเช่นนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาความยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเป็นต้นแบบของการพัฒนาชุมชนและสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการใช้ความรู้ วัฒนธรรม และนวัตกรรมในทุกมิติของการพัฒนา

นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร คว้ารางวัลที่ 3 ในโครงการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับประเทศ

นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร คว้ารางวัลที่ 3 ในโครงการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับประเทศ จากมูลนิธิรากแก้ว ในงาน National Exposition 2024 University Sustainability Showcase ในระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม พ.ศ.2567 ณ สามย่านมิตรทาวน์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแสดงความยินดีกับนิสิตคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์และคณะวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศลำดับที่ 3 ทีมหน้าใหม่ประจำปี 2567 ในการแข่งขันโครงการนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิรากแก้ว ซึ่งมีบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), บริษัท KPMG, Junior Achievement Thailand และมูลนิธิ SCG เป็นผู้ร่วมสนับสนุน

นิสิตที่ได้รับรางวัลประกอบด้วย นายสกาย คิดลูน จอมพงษ์ นางสาววาสิตา รอดอินทร์ นิสิตชั้นปีที่ 4 จากคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายกษิดิศ เห็มกัณฑ์ จากคณะวิทยาศาสตร์ โดยได้นำเสนอผลงาน “Paopae” นวัตกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ผลงาน “Paopae” มุ่งเน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดพิษณุโลกโดยใช้ระบบพาสปอร์ตสะสมแต้ม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสะสมแต้มเพื่อแลกรับน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ประจำจังหวัด ทั้งนี้ ยังได้มีการนำเสนอแนวความคิดในการนำผ้าทอลายประจำจังหวัดมาใช้ในการออกแบบชุดร่วมสมัย เพื่อดึงดูดความสนใจและเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น

ผลงานนี้ได้รับการยกย่องจากคณะกรรมการและได้รับรางวัลระดับ Silver พร้อมโล่ห์รางวัล อันเป็นการยืนยันถึงศักยภาพและความสามารถของนิสิตในการนำความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ ดร.ชไมพร ศรีสุราช และ อาจารย์ศรัณย์พร เกิดเกาะ จากวิทยาลัยนานาชาติ ได้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนและแนะนำให้นิสิตได้พัฒนาผลงานจนประสบความสำเร็จ

มหาวิทยาลัยนเรศวรขอแสดงความยินดีและภูมิใจในความสำเร็จของนิสิตที่ได้นำชื่อเสียงและเกียรติยศมาสู่มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและป้องกันโรคในที่ทำงาน

ในแง่ของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs 3) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีแก่ทุกคนในทุกช่วงวัย มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อเสริมสร้างสุขภาพของบุคลากรและประชาชนในพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมสุขภาพของบุคลากรคือ โครงการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงาน กิจกรรมที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นโดย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงพิริยา นฤขัตรพิชัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์และรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานเปิดโครงการ

วัตถุประสงค์ของโครงการ: การป้องกันโรคจากการทำงาน โครงการนี้มีจุดประสงค์หลักในการให้ความรู้และส่งเสริมการป้องกันโรคที่เกิดจากการทำงาน โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อและกระดูก (ออฟฟิศซินโดรม) ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่เกิดจากการทำงานที่มีลักษณะซ้ำซากหรือท่าทางที่ไม่เหมาะสมในการทำงาน เช่น การนั่งทำงานในท่าทางที่ผิดปกติ การยกของหนัก หรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม การให้คำแนะนำในการออกกำลังกายและการเสริมสมรรถภาพทางกายจึงมีความสำคัญในการลดความเสี่ยงจากโรคเหล่านี้

โครงการนี้มุ่งเน้นการให้ความรู้กับบุคลากรในหน่วยงานที่มีความเสี่ยงจากปัญหาด้านการยศาสตร์ และการให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการป้องกันและการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย เพื่อช่วยให้บุคลากรสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต

การตรวจสุขภาพและประเมินสมรรถภาพทางกาย โครงการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงจากการทำงานนี้มีการจัดกิจกรรม การตรวจสมรรถภาพทางกาย ซึ่งช่วยให้บุคลากรทราบข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและการทำงานของร่างกายที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมการทำงานของตนเอง โดยผ่านการประเมินสภาพทางกายและการแนะนำวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดอาการเจ็บป่วยจากการทำงานที่ยืดเยื้อและป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต เช่น ปัญหาจากท่าทางการนั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม หรือการยกของหนัก

การตรวจสมรรถภาพทางกายจะช่วยให้บุคลากรทราบข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพของตนเอง และสามารถปรับพฤติกรรมการทำงานให้มีความปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้วิธีการป้องกันอาการเจ็บป่วยจากการทำงานที่สามารถเกิดขึ้นได้ในระยะยาว

การอบรมและการสาธิต หนึ่งในกิจกรรมสำคัญของโครงการคือ การอบรมเกี่ยวกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งให้ความรู้ในการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในการทำงานเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากการทำงาน ทั้งในด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังมี การสาธิตการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรคทางกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น โรคปวดหลังหรือออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะช่วยให้บุคลากรสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

การสนับสนุนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โครงการนี้สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 3 “การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีในทุกกลุ่มประชากร การลดอัตราการเจ็บป่วยจากการทำงาน และการส่งเสริมความยั่งยืนในสังคมที่มีสุขภาพดีขึ้น การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคที่เกิดจากการทำงานและการส่งเสริมความปลอดภัยในการทำงานมีส่วนช่วยในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ผลกระทบทางสุขภาพและเศรษฐกิจ จากรายงานของ สำนักงานประกันสังคม ระหว่างปี 2562-2566 พบว่าโรคที่เกิดจากการทำงานในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น โรคปวดหลังจากการยกของหนักหรือการนั่งทำงานในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลกระทบทั้งในด้านสุขภาพของบุคลากรและผลผลิตทางเศรษฐกิจ ในกรณีนี้การลงทุนในการป้องกันโรคจากการทำงานถือเป็นการลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยที่สามารถป้องกันได้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในอนาคต

การสร้างสังคมสุขภาพดีและยั่งยืน การดำเนินโครงการนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคในที่ทำงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีและยั่งยืน โดยโครงการนี้มีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของบุคลากร และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานต่าง ๆ ในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพดีในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงขอเชิญชวนบุคลากรทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมนี้เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในทุกช่วงวัย และร่วมกันพัฒนาสังคมที่มีสุขภาพดีและยั่งยืนไปพร้อมกัน

หากท่านสนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ ห้องประชุมเอกาทศรถ 9 อาคารสิรินธร โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน่วยอาชีวอนามัยและส่งเสริมสุขภาพนิสิตที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ที่มา: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียม จัดทำสัญญา กยศ. สนับสนุนนิสิตขาดแคลนทุนทรัพย์

มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำพันธกิจด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในเป้าหมายการศึกษาที่เท่าเทียมและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (SDG 4) ผ่านโครงการที่ช่วยสนับสนุนนิสิตขาดแคลนทุนทรัพย์ให้สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างเท่าเทียม

เมื่อวันที่ 3-4 สิงหาคม 2567 กองบริการการศึกษาได้จัดโครงการทำสัญญากองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ประจำปีการศึกษา 2567 ณ ห้อง 32, 52 ชั้น 2 อาคารปราบไตรจักร 1 ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมีนิสิตเข้าร่วมทำสัญญาจำนวน 3,223 ราย

โครงการนี้ถือเป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือนิสิตที่มีข้อจำกัดทางการเงินให้สามารถเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาได้ โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรมุ่งมั่นสนับสนุนการสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงการศึกษา พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาศักยภาพนิสิตในทุกมิติ

การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถพัฒนาตนเอง เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน

ที่มา: งานส่งเสริมการจัดการศึกษา กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

NU Art & Craft Fun Fair 2024 พื้นที่แสดงออกด้านศิลปวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม กองกิจการนิสิต และงานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดพิธีเปิดงาน “NU Art & Craft Fun Fair 2024” ภายใต้แนวคิด “Eco x Friendly x Mental Well-being” โดยมี ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิด งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2567

กิจกรรมภายในงานมีความหลากหลายและตอบสนองความสนใจทั้งด้านศิลปะ วัฒนธรรม และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดแฟชั่นโชว์เครื่องแต่งกายจากผ้าไทยและผ้าชาติพันธุ์ โดยนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรและนิสิตชมรมสืบสานวัฒนธรรมม้ง การเสวนาเรื่อง “Mental Well-being” เพื่อสร้างความสุขและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต และการแสดงดนตรีร่วมกับกิจกรรมนันทนาการจากนิสิต

การจัดกิจกรรมยังสะท้อนถึงการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG5 และ SDG11 ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการส่งเสริมการเรียนรู้และการแสดงออกอย่างเท่าเทียม โดยกิจกรรมต่างๆ ภายในงานช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมที่ให้ความเคารพในความแตกต่างและความหลากหลาย

นอกจากนี้ยังมีเวิร์คชอปด้านศิลปะและหัตถกรรม ซึ่งเปิดโอกาสให้นิสิตได้ฝึกฝนทักษะด้านศิลปะและงานฝีมือ รวมถึงการร่วมกิจกรรมออกแบบและระบายสีกระเป๋ารักโลก เป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์และฝึกฝนประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับการสร้างรายได้ระหว่างเรียน งานนี้ยังมอบโอกาสให้นิสิตได้ฝึกวาดภาพศิลปะในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

กิจกรรมยังคงเน้นย้ำเรื่องการอนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นและการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการเดินแฟชั่นเสื้อผ้าชนเผ่าและผ้าท้องถิ่น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ผ้าไทยและผ้าท้องถิ่น โดยมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักในความสำคัญของการรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและการอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่สืบไป

งาน “NU Art & Craft Fun Fair 2024” ถือเป็นพื้นที่แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ที่มีความสำคัญ โดยไม่เพียงแต่เป็นโอกาสสำหรับนิสิตในการฝึกทักษะและสร้างรายได้ ยังเปิดโอกาสให้พวกเขาได้เรียนรู้และสัมผัสกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและจิตใจให้มีความสุขยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนสังคมแห่งความยั่งยืนในมหาวิทยาลัยนเรศวร

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมมือ อบต. ท่าโพธิ์ ยกระดับมาตรฐานร้านอาหารรอบชุมชน สู่ความปลอดภัยยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรตอกย้ำความมุ่งมั่นในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDG 2 (การขจัดความหิวโหย) และ SDG 17 (ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน) โดยในวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 กลุ่มสาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ จัดพิธีปิดโครงการ “พัฒนามาตรฐานร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารรอบมหาวิทยาลัยนเรศวร” ณ ห้อง Main Conference อาคารกองบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้น 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร

โครงการนี้มีเป้าหมายยกระดับมาตรฐานร้านค้าและแผงลอยอาหารในชุมชนตำบลท่าโพธิ์ให้มีความปลอดภัยและคุณภาพ โดยมีการมอบรางวัลให้แก่ร้านค้าที่ได้รับคัดเลือกดีเด่นจำนวน 33 ร้าน ซึ่งได้รับป้ายเชิดชูเกียรติรูปช้างลิมิเต็ด ภายใต้สโลแกน “Quality you can taste, Plate you can trust” หรือ “คุณภาพที่สัมผัสได้ จานที่คุณไว้ใจ” นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าจำนวน 100 ร้านที่ผ่านการอบรมและพัฒนามาตรฐานจะได้รับป้าย Clean Food Good Taste และใบประกาศนียบัตร

งานนี้ได้รับเกียรติจากนายธวัช สิงหเดช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ และรองศาสตราจารย์ ดร.นิทรา กิจธีระวุฒิวงษ์ คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ เป็นผู้มอบรางวัลและประกาศนียบัตรให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า การดำเนินโครงการครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชนในการส่งเสริมสุขาภิบาลอาหารและคุณภาพชีวิต พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคและผลักดันให้ร้านค้าในพื้นที่รอบมหาวิทยาลัยนเรศวรเป็นต้นแบบของร้านอาหารที่ได้มาตรฐานในอนาคต

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin