โนรา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 คณะมนุษยศาสตร์ ได้จัดโครงการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ธรรมนิตย์ นิคมรัตน์ ศิลปินแห่งชาติ และคณะนักแสดงโนรา

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม ระหว่าง คณะมนุษยศาสตร์กับหน่วยงานภายนอก และเพื่อทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของคนไทย

“โนรา” เป็นศิลปะการแสดงท้องถิ่นของคนภาคใต้ ที่มีความงดงามทั้งในเรื่องของการร่ายรำ การเล่นดนตรี และการขับร้องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของการแสดง “โนรา” อีกทั้ง ยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียน “โนรา” ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติอีกด้วย

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เสวนา Mini-Symposium: The Visiting Professor เสริมสร้างความร่วมมือสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายน 2566 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านวัสดุชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ และ สถานวิจัยเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการด้านนวัตกรรมทางเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.ภาณุ พุทธวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในการกล่าวเปิดและกล่าวต้อนรับ รวมถึง รศ.ดร.พัชราภรณ์ สุดชาฎา คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ ที่ได้กล่าวรายงานการจัดกิจกรรมในครั้งนี้

กิจกรรม Mini-Symposium: The Visiting Professor เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการวิจัยและนวัตกรรมระหว่างนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ โดยมีการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและต่างประเทศรวม 10 ท่าน เช่น Assistant Professor Dr. Yujia Liu และ Prof. Dr. Masafumi Unno จาก Gunma University, Japan, Dr. Celine Viennet และ Dr. Gwenael Rolin จาก University of France Comte, France, Professor Dr. David Parker จาก Hong Kong Baptist University, Hong Kong, Dr. Thanchanok Muangman จาก Thailand Institute of Scientific and Technological Research, Thailand รวมถึงนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร เช่น ศ.ดร.ภญ.จารุภา วิโยชน์, ผศ.ดร.ภญ.เพ็ญศรี เจริญสิทธิ์, Asst.Prof. Dr. Gareth Ross, และ รศ.ดร.สุกัญญา รอส

การจัดกิจกรรมนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการวิจัยในสาขาวัสดุชีวภาพและนวัตกรรมทางเคมี ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาชุมชนได้ในอนาคต การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการวิจัย ทำให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายนักวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีคุณค่า

กิจกรรมดังกล่าวเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDGs 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย SDGs 9 มุ่งเน้นการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและวัสดุชีวภาพซึ่งสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อมได้ ในขณะที่ SDGs 17 เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ จึงเป็นการสร้างเครือข่ายการวิจัยที่มีความแข็งแกร่งและมีศักยภาพในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ

กิจกรรม Mini-Symposium ครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยและองค์กรต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนางานวิจัยที่มีคุณภาพและสามารถสร้างผลกระทบที่ยั่งยืนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาจึงเป็นการช่วยขยายขีดความสามารถในการสร้างนวัตกรรมและผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่นและระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ม.นเรศวร เจรจาความร่วมมือด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน

คณะผู้บริหารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ ผู้บริหารหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมเจรจาความร่วมมือด้านวิชาการ หลักสูตรการเรียนการสอน การแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา พร้อมสนับสนุนทุนการศึกษาให้นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเฉิงตู เมืองเฉิงตู ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน

ม.นเรศวร ให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพร เสริมสุขภาพ สร้างรายได้ สู่ชุมชน

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2566 คณาจารย์และบุคลากรจากมหาวิทยาลัยนเรศวรภายใต้การนำของ รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ดร.วรศักดิ์ แก้วก่อง รองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ได้ร่วมกับหน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชนจัดกิจกรรมบริการวิชาการในหัวข้อ “การให้ความรู้และสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ” ณ ตำบลหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งกิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมการรักษาสุขภาพตามหลักภูมิปัญญาท้องถิ่นและเชื่อมโยงกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SDG 4 การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต และ SDG 17 การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีความสำคัญต่อการส่งเสริมการใช้สมุนไพรท้องถิ่นเพื่อดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและปลอดภัย ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายประการ โดยเน้นการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการบำรุงรักษาสุขภาพและการพัฒนาชุมชน โดยกิจกรรมหลักที่จัดขึ้นคือการสาธิตการทำยาดมสมุนไพรสูตรโบราณ ซึ่งเป็นการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะและคัดจมูก นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้เรียนรู้วิธีการใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันได้อย่างปลอดภัย

กิจกรรมนี้ไม่ได้เป็นเพียงการส่งเสริมสุขภาพ แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12 การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน โดยการเสริมสร้างทักษะในการใช้สมุนไพรในชีวิตประจำวันไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังส่งเสริมให้ประชาชนใช้ทรัพยากรธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน

นอกจากนี้ กิจกรรมนี้ยังช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยในชีวิตประจำวัน และเปิดโอกาสให้ประชาชนในชุมชนสามารถพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้เพื่อสร้างรายได้เสริมในชุมชน โดยการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพและสร้างผลิตภัณฑ์สมุนไพรในท้องถิ่นให้เป็นสินค้าท้องถิ่นที่สามารถสร้างรายได้ในระยะยาว

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้แสดงบทบาทในการเป็นผู้นำในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยการร่วมมือกับโรงเรียนบ้านหนองตูม อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ในการจัดกิจกรรมนี้ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมีการเสริมสร้างทักษะและความรู้เพื่อให้ชุมชนสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาชีวิตอย่างยั่งยืนในด้านสุขภาพและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

การดำเนินกิจกรรมนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 4 การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเน้นการให้ความรู้และทักษะใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการดูแลสุขภาพในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืน การให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างความตระหนักในเรื่องการดูแลสุขภาพที่ดี แต่ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตในชุมชนท้องถิ่น

มหาวิทยาลัยนเรศวรยังคงยืนหยัดในบทบาทสำคัญในการพัฒนาความรู้และทักษะที่จำเป็นแก่ชุมชน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในทางที่เหมาะสมและยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในระดับท้องถิ่นที่ยั่งยืนต่อไป

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม: สร้างประสบการณ์ศิลปะและวัฒนธรรมให้แก่ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัย

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566, นางนิพัทธ์ เกษาพร ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้มอบหมายให้บุคลากรกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมดูแลต้อนรับและนำชมกลุ่มลูกค้าและพนักงานจากบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด จำนวน 50 คน ในการเข้าชม ผลงานศิลปะจากคลังสะสม “Color light” ซึ่งจัดแสดง ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวรและพิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ด้านศิลปะและวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าเยี่ยมชมทุกเพศทุกวัยได้สัมผัสการสร้างสรรค์ผ้าแบบดั้งเดิม และมีกระบวนการในการเรียนรู้ศิลปะผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่น.

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม ประสบการณ์ด้านศิลปะ (Learning Experience) ซึ่งมีเป้าหมายในการเผยแพร่และอนุรักษ์ศิลปะพื้นบ้าน พร้อมทั้งเสริมสร้างความเข้าใจในคุณค่าของการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในทุกยุคทุกสมัย โดยผ่านการสัมผัสกับกระบวนการและเทคนิคการทำผ้าด้วยมือ รวมถึงการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ที่สะท้อนถึง ภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีความยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน.

กิจกรรม “ผ้าคลุมไหล่มัดย้อม” ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณค่า โดยการสัมผัสกระบวนการสร้างสรรค์ผ้าด้วยมือและการใช้สีจากธรรมชาติในการมัดย้อม ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำผ้าแบบดั้งเดิมที่เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมไทยและสามารถสืบทอดความรู้เหล่านี้ได้ในอนาคต การศึกษาเกี่ยวกับการทำผ้าและการใช้วัสดุธรรมชาติยังช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในกระบวนการผลิตที่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกวัยได้เรียนรู้ศิลปะที่มีคุณค่า.

กิจกรรมในครั้งนี้ยังช่วยเสริมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการใช้วัสดุท้องถิ่นในกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยการใช้ สีจากธรรมชาติ ในการมัดย้อมผ้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ไม่เพียงแต่ช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ แต่ยังส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่มีความยั่งยืนและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.

การใช้ วัตถุดิบท้องถิ่น และกระบวนการผลิตที่ไม่ใช้สารเคมีในกิจกรรมการมัดย้อมเป็นการส่งเสริมการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างยั่งยืน ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน.

กิจกรรมนี้สะท้อนถึงการสร้างความร่วมมือที่มีความสำคัญระหว่าง มหาวิทยาลัย ภาครัฐและ ชุมชนท้องถิ่น ในการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมไทยที่สามารถสืบสานไปยังอนาคต. การส่งเสริมให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์ศิลปะไทยไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนาน แต่ยังช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรต่าง ๆ ที่มุ่งมั่นในการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นและธรรมชาติ.

นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมนี้ยังเสริมสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย กับ ภาคธุรกิจ เช่นบริษัท เอ็มวันพิษณุโลก จำกัด ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งในแง่ของการศึกษาศิลปะและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมเปิดโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมัน เสริมสร้างพลังงานสะอาดและการเป็นกลางทางคาร์บอน

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2566 วิทยาลัยพลังงานทดแทนและสมาร์ตกริดเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านพลังงาน คมนาคม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Thai-German Cooperation on Energy, Mobility, and Climate: TGC EMC) ซึ่งเป็นโครงการที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 ท่าน จากหน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMWK) ภายใต้แผนงานปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับสากล (IKI) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยในการวางแผนและดำเนินกิจกรรมที่มุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงในภาคพลังงาน ขนส่ง อุตสาหกรรม และชีวมวล เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 ของรัฐบาลไทย

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับโครงการนี้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดและการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค โดยมีการสนับสนุนจากกองทุน ThaiCI (Thai Climate Initiative Fund) เพื่อให้ทุนแก่โครงการต่าง ๆ ที่มีเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย

การมีส่วนร่วมในโครงการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ และการพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืนในด้านพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่กำหนดโดยองค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะในด้านพลังงานสะอาดและการสร้างความร่วมมือที่มีผลกระทบในเชิงบวกทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก

ม.นเรศวร สร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยนเรศวรในการลงนามในบันทึกการตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding (MOU) กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และเทศบาลตำบลท่าทอง จำนวน 11 แห่ง ณ ห้องเทพรณรงค์ฤาไชย ชั้น 1 อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีรายนามหน่วยงานดังต่อไปนี้

1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
3. โรงพยาบาลสุโขทัย
4. โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
5. โรงพยาบาลพิจิตร
6. โรงพยาบาลกำแพงเพชร
7. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
8. โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
9. โรงพยาบาลจิตเวชพิษณุโลก
10. โรงพยาบาลพิษณุเวช
11. เทศบาลตำบลท่าทอง

โดย MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันด้านวิชาการและการศึกษาวิจัย ด้านบริการวิชาการ และเพื่อพัฒนาบุคลากรของทุกๆหน่วยงาน รวมถึงคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรด้วย

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมอบรมวิชาการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” รุ่นที่ 8

บุคลากรสถานสัตว์ทดลองฯ ม.นเรศวร เข้าร่วม การอบรมวิชาการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” รุ่นที่ 8

เมื่อวันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2566 เวลา 08.00-16.45 น. ณ SHE Training Room ศูนย์บริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จัดโดย คณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพมหาวิทยาลัยมหิดล (MU-IBC)

โดยมีผู้เข้าอบรม ดังนี้ 1. สพ.ญ.ศกลวรรณ จินดารักษ์ 2. นายปิยะพงษ์ กลมพุก 2. นางวิลาสินี อริยะวรรณ 3. นางสาวอารีย์ คำจันทร์ และ นายวีรเชษฐ์ สิงหเดช ซึ่งในการอบรมดังกล่าวมีการสอบวัดผลความรู้ โดยนายวีรเชษฐ์ สามารถทำคะแนนสอบได้คะแนนเต็ม

ที่มา: สถานสัตว์ทดลองเพื่อการวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร

ฝึกทักษะการทำ D.I.Y. กระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์ตัวเก่า ส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาและสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ในวันที่ 14 กันยายน 2566, งานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม ส่งเสริมทักษะด้านวิชาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ ครั้งที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมทักษะการประกอบอาชีพและการสร้างธุรกิจในรูปแบบที่ยั่งยืน โดยในกิจกรรมนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุจิตรา สงวนสิน เป็นวิทยากรในการจัด Workshop “ฝึกทักษะการทำ D.I.Y. กระเป๋าผ้า จากกางเกงยีนส์ตัวเก่า” ซึ่งจัดขึ้น ณ โถงอาคารเรียนรวม คณะวิทยาศาสตร์.

กิจกรรมในครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับนิสิตและบุคคลทั่วไปในการประกอบอาชีพ โดยการฝึกทำกระเป๋าผ้าจาก กางเกงยีนส์เก่า เป็นการนำวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้และมีโอกาสในการสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดการสร้างขยะจากสิ่งของที่ใช้แล้ว. การจัดกิจกรรมนี้สะท้อนถึงการมุ่งส่งเสริม การศึกษาที่มีคุณภาพ (SDG 4) โดยการเปิดโอกาสให้นิสิตและประชาชนได้เรียนรู้วิธีการนำสิ่งของที่ใช้แล้วมารีไซเคิลเพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่มีประโยชน์.

การเรียนรู้ทักษะการทำกระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์เก่าผ่านกิจกรรม Workshop D.I.Y. นี้ ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและผลิตสินค้าที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรใหม่ เป็นการสร้างพื้นฐานทักษะวิชาชีพให้กับนิสิต ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจส่วนตัวหรือการประกอบอาชีพในอนาคตได้.

กิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้าง ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย, นักศึกษา, และชุมชน เพื่อพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพและเสริมสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้าน การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (SDG 12) และ การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 17). การใช้วัสดุที่เหลือใช้แล้วในกิจกรรมนี้ยังส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการ รีไซเคิล และการนำของเก่ากลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ โดยการสร้างสิ่งของที่มีคุณค่าทางการใช้งานและสามารถจำหน่ายได้.

การนำความรู้และเทคนิคมาฝึกฝนร่วมกันในกิจกรรมนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงการสร้าง เครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างบุคลากรจากคณะวิทยาศาสตร์และผู้เข้าร่วมที่หลากหลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งในด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพให้กับนิสิตและชุมชน โดยการนำแนวคิดที่เกี่ยวกับ การพัฒนาที่ยั่งยืน มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง.

กิจกรรมการทำ กระเป๋าผ้าจากกางเกงยีนส์เก่า เป็นการสนับสนุนการ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน (SDG 12)โดยการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วมารีไซเคิล ทำให้สามารถลดการสร้างขยะและการใช้วัสดุใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเห็นถึงคุณค่าของการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือและการปรับใช้เทคนิคการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม.

ม.นเรศวร ผนึกกำลัง 10 หน่วยงาน นำงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์  

    เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทัย  วิชัย รองอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ ผู้แทนมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมลงนาม ในกิจกรรม “พิธีลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงทางวิชาการ (Memorandum of Intent: MOI) ระหว่าง บพข. กับ 11 หน่วยงานเร่งรัดงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึก (Deep Science and Technology Accelerators) เพื่อเร่งรัดนำงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” ได้แก่ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)  ณ โรงแรมพูลแมนกรุงเทพ จี ถนนสีลม กรุงเทพฯ 

    พิธีลงนาม ฯ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเร่งรัดนำงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์” เพื่อต่อยอดความร่วมมือและนำสิ่งที่เป็นองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดการทำงานที่ทับซ้อน ซึ่งจะมีการแบ่งปันและเชื่อมโยงทรัพยากร เช่น โครงสร้างพื้นฐาน และระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างผลิตภัณฑ์ หรือบริการ แหล่งฝึกอบรมบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญรวมไปถึงผู้ประกอบการ ให้สามารถพัฒนาต่อยอดนวัตกรรม และเทคโนโลยีเชิงลึกจนได้ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีมูลค่าสูง เสริมสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บพข. ได้มีความร่วมมือกับ 9 มหาวิทยาลัย และ สวทช. จนเกิดเป็น 11 หน่วยงานเร่งรัดงานวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชิงลึก หรือ 11 Accelerator Platforms 

    สำหรับหน่วย Accelerator ของ มหาวิทยาลัยนเรศวร คือ โครงการ Organic Tech Accelerator Platform (OTAP) : แพลตฟอร์มเร่งการเติบโตทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล และนวัตกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สุขกิจ  ยะโสธรศรีกุล เป็นหัวหน้าโครงการ  ซึ่งสามารถบ่มเพาะ 8 ธุรกิจสตาร์ทอัพ เน้นถ่ายทอดองค์ความรู้ในกระบวนการทดสอบการตลาด การออกแบบต้นแบบ อาทิ ดิจิทัลแคตตาล็อก สำหรับทดลองสวมใส่เครื่องประดับสามมิติ เครื่องฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือ gamified application สำหรับบริหารการเงินเพื่อ Gen Z โดยเฉพาะ โดยสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยนเรศวร “มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมของผู้ประกอบการ” 

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin