ในวันที่ 12 กันยายน 2566, มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การดำเนินงานของ อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม พิธีนำเสนอผลสัมฤทธิ์โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจำปี 2566 ซึ่งมี ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้ก้าวสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาในระดับท้องถิ่น โดยมีการนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยนิสิตจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย
การสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนและการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 1): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น เป็นโครงการที่มีการสนับสนุนจาก ธนาคารออมสิน และมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถยกระดับเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ให้เติบโตและยั่งยืน โดยมีการแบ่งการนำเสนอผลงานออกเป็น 5 ทีมจาก 5 ชุมชนทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์และบริการที่ถูกพัฒนามีทั้งในด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และงานหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของชุมชน ผ่านการสร้างรายได้และเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนตาม SDG 1 (การขจัดความยากจน) โดยตรง โดยช่วยให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้จากทักษะและทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทั้งนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนถือเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ
การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (SDG 4): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนิสิตและประชาชนในชุมชน ผ่านการให้ความรู้ด้านการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน การร่วมงานกับชุมชนในโครงการนี้ทำให้นิสิตมีโอกาสในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่ส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยในการเรียนรู้ด้านการจัดการทรัพยากร การพัฒนานวัตกรรม และการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ
SDG 4 (การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต) เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่โครงการนี้ตอบสนองโดยตรง เพราะนิสิตที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำงานในสถานการณ์จริง ซึ่งส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาในด้านการคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ความรู้ที่มีคุณค่าในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (SDG 8): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น นอกจากจะมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนแล้ว ยังมีการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตในระยะยาว โครงการนี้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนา กิมจิ@ร่องกล้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จาก วิสาหกิจชุมชนซากุระญี่ปุ่น ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ และจะได้เป็นตัวแทนจากธนาคารออมสิน ภาค 7 ไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดท้องถิ่นและตลาดต่างประเทศ ทำให้เกิดการสร้าง งาน และ อาชีพ อย่างยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้และเสริมสร้างฐานเศรษฐกิจให้มั่นคงตามหลัก SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อชุมชนที่เกี่ยวข้อง แต่ยังช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของชุมชนในระดับที่กว้างขึ้น
ผลลัพธ์จากการประกวดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์: ในปีนี้ ทีม SD ยุวพัฒน์@NU จาก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กิมจิ@ร่องกล้า” สำหรับวิสาหกิจชุมชนซากุระญี่ปุ่น ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท และจะได้เป็นตัวแทนจากธนาคารออมสิน ภาค 7 ไปแข่งขันในระดับประเทศ ในขณะเดียวกันทีม PolSci Connect และ พายใจไปล่องแก่งจินดา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งการได้รับรางวัลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ยืนยันถึงความสำเร็จของโครงการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า แต่ยังสะท้อนถึงการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนได้จริง
บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อน SDGs: มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับ SDG 1 (การขจัดความยากจน), SDG 4 (การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต), และ SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี) โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ของนิสิตและประชาชนในชุมชน
ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร