NU-SDGs เพราะความยั่งยืนคือความสุขของชีวิต

รางวัลชนะเลิศ การประกวดผลิตสื่อออนไลน์ NU-SDGs ประเภทนิสิต

ชื่อผลงาน NU-SDGs เพราะความยั่งยืนคือความสุขของชีวิต

เรื่องย่อ เรื่องราวของนิสิตคนหนึ่ง ที่ได้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้พบเจอสิ่งต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเรื่องราวสุขหรือทุกข์ แต่ทำให้นิสิตคนนี้ สามารถยิ้มออกมาได้ สิ่งเหล่านั้นจะคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ไปติดตามกันเลยกับ NU SDGs

พบกับช่วงให้ความรู้ SDGs หรือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน มีทั้งหมด 17 เป้าหมาย โดยองค์การสหประชาชาติ สามารถแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มเป้าหมาย (5P) ดังนี้
1. กลุ่มเป้าหมายด้านสังคม (People) นำเสนอ NU Pride การยอมรับความหลากหลาย และการแต่งกายตามเพศสภาพ #nusdgs5

2. กลุ่มเป้าหมายด้านเศรษฐกิจ (Prosperity) นำเสนอ โครงการขนส่งมวลชน มหาวิทยาลัยนเรศวร (NU Transit) #nusdgs7

3. กลุ่มเป้าหมายด้านทรัพยากรธรรมชาติ (Planet) นำเสนอ โครงการปลูกรัก ปลูกเสลา (Your Home Always) #nusgds15

4. กลุ่มเป้าหมายด้านสันติภาพ (Peace) นำเสนอ ศูนย์ดูแลช่วยเหลือและเคียงข้างเพื่อนนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร #nusdgs16

5. กลุ่มเป้าหมายหุ้นส่วนการพัฒนา (Partnership) นำเสนอ เพราะศิษย์เก่าคือทรัพยากรที่มีคุณค่าของมหาวิทยาลัยนเรศวร #nusdgs17

วิดีทัศน์นี้ จัดทำขึ้นเพื่อส่งเข้าประกวดในโครงการประกวดสื่อประชาสัมพันธ์ หัวข้อ การขับเคลื่อน SDGs ด้วยสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มหาวิทยาลัยนเรศวร

Credit
Director : Ohm Chaipat Keatravee Panukon Rakklin
Video Grapher & Editor : Tanatorn Jeenpitak
Actor : อิสรานุวัฒน์ วินทะสมบัติ Cholthicha Thadsri Tanawat Wiriyadilok Raksina Sovannee Fs Chuenkamon Chayanin Onnom Namwhan Natthika Tang May
Speacial Thank : สภานิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร – Student Council of Naresuan University
Props : ศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมจัดทำแผนที่นำทางเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ BCG

NU SciPark จับมือ NSRU ระดมสมองทำ Roadmap พัฒนาธุรกิจ BCG ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ 🌾🎋

วันที่ 14 กันยายน 2566 ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ม.นเรศวร พร้อมด้วยอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร นำทีมโดย ผศ.ดร.สมลักษณ์ วรรณฤมล กีเยลาโรว่า ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร และรศ.ดร.รังสรรค์ เจริญสุข รองผู้อำนวยการฯ พร้อมด้วย รศ.ดร.ธนัชสัณห์ พูนไพบูลย์พิพัฒน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการรัฐกับเอกชนภาคเหนือล่าง ร่วมจัดทำแผนที่นำทางเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ BCG ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร และ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มหาวิทยาลัยเครือข่ายก่อตั้งและมหาวิทยาลัยเครือข่ายใหม่ ภายใต้โครงการบริหารจัดการและพัฒนาเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ ในรูปแบบกิจกรรมเสริมสร้างขีดความสามารถและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายก่อตั้ง (บัดเดอร์) อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร และเครือข่ายใหม่ (บัดดี้) มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ให้ดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้มหาวิทยาลัยบัดดี้

โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ด้านเศรษฐกิจ สำนักงานจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และ ผศ.ดร.สมบูรณ์ นิยม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.สราวุธ สัตยากวี รองผู้อำนวยการสำนักกลยุทธ์และพัฒนากองทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นวิทยากรร่างแผนที่นำทางเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ BCG ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีผู้แทนจากทางภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมระดมความคิดเห็นแผนที่นำทางฯ ณ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมอบรมแบบเข้มข้นในกิจกรรม BCG INNOVATIVE BUSINESS INCUBATION : “Network Development Project for Globalization”

วันที่ 6 -11 กันยายน 2566 NU SciPark ม.นเรศวร นำทีม โดย ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมบุคลากร เข้าร่วมอบรมในโครงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรม BCG สู่สากล BCG INNOVATIVE BUSINESS INCUBATION : “Network Development Project for Globalization” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการบ่มเพาะธุรกิจนวัตกรรมเกษตร ภายใต้แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือด้านการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยี ระหว่างเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคของประเทศไทย กับมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเบงเก็ต ประเทศฟิลิปปินส์ ณ ห้องประชุม 311 อาคาร 75ปี แม่โจ้ คณะสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่

ภายในงานจัดให้มีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ภาพรวมการดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคและการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศไทย” เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจถึงความสำคัญของภารกิจอุทยานวิทยาศาสตร์ในการผลักดันการนำผลงานวิจัยไปต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ โดย ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช สำนักงานปลัด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

การบรรยายพิเศษในหัวข้อ “BCG Model : From Local to Global” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่สากลอย่างยั่งยืน โดย ผศ. ดร.เกษมศักดิ์ อุทัยชนะ รองผู้อำนวยการ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

กิจกรรม “Icebreaking และ Network Community Sharing (สร้างเครือข่าย ขยายความร่วมมือ)” โดยมี อาจารย์ ดร.พนมพร เฉลิมวรรณ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และนายวิรวัฒน์ ญาณวุฒิ อาจารย์พิเศษ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

บรรยายพิเศษในหัวข้อ “การพัฒนาธุรกิจเกษตรและอาหารจากชุมชนสู่ตลาดโลก” (From Local Farmer to Global Market) เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ระดับสากล รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับเกษตรกรในชุมชนให้เกิดการขับเคลื่อนร่วมกับธุรกิจ โดย คุณณลี อายุ จือปา ผู้ก่อตั้งอาข่าอาม่า (AKHA AMA COFFEE)

บรรยายและอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การวิเคราะห์และวิจัยทางการตลาด (Market Analysis and Market Research Workshop)” เพื่อใช้เครื่องมือในค้นหาความต้องการของคนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน แล้วนำมาวิเคราะห์สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สู่ตลาด โดย อาจารย์นนท์ ปิ่นเงิน รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและกิจการพิเศษ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้

บรรยายและอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การออกแบบและพัฒนาแผนธุรกิจสำหรับบริการด้านการบ่มเพาะธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม” (Business Model Design for Technology and innovation Business Incubation) โดย คุณภัทราภรณ์ กันยะมี ผู้ก่อตั้งบริษัท เดอะลิตเติ้ล ออนเนี่ยน แฟคทอรี่ จำกัด

อบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การคัดกรองแนวความคิดในการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการแก่ลูกค้า” (Ideas Filtration) และหัวข้อ “เครื่องมือปรับปรุงกระบวนการให้บริการด้วย Service Blueprint” โดย ดร.ก่อศักดิ์ โตวรรธกวณิชย์ ผู้จัดการพัฒนานวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจใหม่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคัล จำกัด (มหาชน)

ปิดท้ายด้วย กิจกรรมศึกษาดูงาน เรียนรู้การผลิต การบริหารจัดการธุรกิจแปรรูป ณ บริษัท ปริ๊นเซส ฟูดส์ จำกัด

ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร

NU SciPark นำวิทยากรลงพื้นที่จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาผลิตภัณฑ์คุกกี้จากแป้งกล้วยน้ำว้า ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

วันที่ 14 กันยายน 2566 งานบ่มเพาะเทคโนโลยีและนวัตกรรม อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร และวิทยากรโดย ผศ.ดร.ศศิวิมล จิตรากร ดร.สุกีวรรณ เดชโยธิน และนางสาวภิรนิตย์ ลบลม ภาควิชาอุตสาหกรรมเกษตร สังกัดคณะเกษตรศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยนเรศวร ลงพื้นที่จัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุกกี้จากแป้งกล้วยน้ำว้า ณ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีพอเพียง 459 บ้านวงฆ้อง ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก

โครงการภายใต้กิจกรรมส่งเสริมการนำ วทน. เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและเศรษฐกิจชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2566 แพลตฟอร์มบริการให้คำปรึกษาและข้อมูลเทคโนโลยี (Technology Consulting Service : TCS) คลินิกเทคโนโลยี

สนใจสอบถามข้อมูลบริการของอุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวรเพิ่มเติมได้ที่ https://linktr.ee/sciparkcontent
ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร จัดกิจกรรมนิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อและอาชีพ

วันที่ 7 กันยายน 2566 ดร.นิภารัตน์ อิ่มศิลป์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ พร้อมด้วยบุคลากรงานบริการการศึกษา และงานกิจการนิสิตและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรเข้าร่วมกิจกรรมนิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อและอาชีพ ประจำปีการศึกษา 2566 ให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ชั้นปีที่ 6 โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จำนวน 550 คน เพื่อให้ข้อมูลและตอบประเด็นข้อซักถามเกี่ยวกับการศึกษาต่อและทุนการศึกษาต่างๆในหลักสูตรที่คณะมนุษยศาสตร์เปิดการเรียนการสอน ณ โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก

ที่มา: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ออกพื้นที่สัญจรเผยแพร่ความรู้พันธุ์สัตว์น้ำ ส่งเสริมการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา หลักสูตรวิทยาศาสตร์การประมง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์จัดกิจกรรม “แนะแนวสัญจร” ณ โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อให้ข้อมูลและแนะนำทางเลือกในการศึกษาต่อในสาขาวิทยาศาสตร์การประมงและการเกษตรแก่เยาวชนและนักเรียนในพื้นที่ การจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์และการจัดการทรัพยากรทางทะเลและน้ำจืด รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการประมงอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับทั้ง SDGs 14 ที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลและทางน้ำอย่างยั่งยืน และ SDGs 4 ที่มุ่งพัฒนาการศึกษาที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้

การให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากร หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของกิจกรรมนี้ คือการให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำจืดและทรัพยากรทางทะเล รวมถึงการทำความเข้าใจถึงวิธีการจัดการทรัพยากรเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ยั่งยืน และการฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลและน้ำจืดที่ถูกทำลายจากกิจกรรมที่ไม่ได้มีการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมให้เยาวชนมีความรับผิดชอบในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสร้างสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

กิจกรรมดังกล่าวได้สร้างความตระหนักให้กับนักเรียนเกี่ยวกับการปกป้องและการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการเรียนรู้กระบวนการจัดการทรัพยากรทางน้ำ การเพาะพันธุ์สัตว์น้ำอย่างยั่งยืน และการประมงที่ไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาอาชีพในอุตสาหกรรมประมงที่สามารถนำไปสู่การสร้างรายได้ที่ยั่งยืนได้

เสริมสร้างความรู้ด้านการศึกษาที่ยั่งยืน การจัดกิจกรรมแนะแนวสัญจรครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เน้นที่การให้ข้อมูลการศึกษาต่อในสาขาวิทยาศาสตร์การประมงและการเกษตรเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในด้านการศึกษาและการพัฒนาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อ SDGs 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสการศึกษาให้แก่เยาวชนในพื้นที่ห่างไกล โดยเปิดโอกาสให้พวกเขามีทางเลือกในการศึกษาต่อในสาขาที่สามารถสร้างอาชีพในอนาคต และยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองและชุมชน

หลักสูตรวิทยาศาสตร์การประมงของมหาวิทยาลัยนเรศวร จึงได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาในด้านนี้ ซึ่งไม่เพียงแค่การศึกษาเพื่อการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปสู่การพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืนและการทำวิจัยที่มุ่งมั่นในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและน้ำจืด ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและการเพาะพันธุ์สัตว์น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน กิจกรรมแนะแนวสัญจรในครั้งนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการเสริมสร้างความรู้และทักษะด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านั้นอย่างยั่งยืน การร่วมมือกับคณะเกษตรศาสตร์และการจัดกิจกรรมในพื้นที่ชุมชนถือเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและชุมชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต

ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวรและคณะเกษตรศาสตร์ยังเป็นการสร้างเสริมเครือข่ายการศึกษาและการวิจัยในระดับท้องถิ่นที่สามารถเชื่อมโยงความรู้ที่ได้รับจากสถาบันการศึกษาไปยังชุมชนได้จริง ผ่านการฝึกอบรมและการทำกิจกรรมในพื้นที่ โดยเฉพาะในการส่งเสริมการประมงที่ยั่งยืนและการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ซึ่งจะมีผลในการพัฒนาผลผลิตจากทรัพยากรธรรมชาติและการป้องกันการใช้ทรัพยากรที่เกินความจำเป็น

การจัดกิจกรรมนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการประยุกต์ใช้ SDGs 14 ในระดับท้องถิ่น โดยการส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้และความเข้าใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและน้ำจืด โดยการให้ความรู้ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจในระยะยาว การส่งเสริมการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการประมงและการจัดการทรัพยากรทางน้ำอย่างยั่งยืนจะช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เยาวชนในพื้นที่ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในชุมชน

การส่งเสริมให้เยาวชนและนักเรียนเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและน้ำจืดจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์การประมงและการเกษตรอย่างยั่งยืน ถือเป็นการพัฒนาภาคการศึกษาและการวิจัยที่ตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

ที่มา: วิทยาศาสตร์การประมง มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ผนึกกำลังพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ผ่านโครงการ “ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น”

ในวันที่ 12 กันยายน 2566, มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การดำเนินงานของ อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม พิธีนำเสนอผลสัมฤทธิ์โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจำปี 2566 ซึ่งมี ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้ก้าวสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาในระดับท้องถิ่น โดยมีการนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยนิสิตจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย

การสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนและการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 1): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น เป็นโครงการที่มีการสนับสนุนจาก ธนาคารออมสิน และมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถยกระดับเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ให้เติบโตและยั่งยืน โดยมีการแบ่งการนำเสนอผลงานออกเป็น 5 ทีมจาก 5 ชุมชนทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์และบริการที่ถูกพัฒนามีทั้งในด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และงานหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของชุมชน ผ่านการสร้างรายได้และเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนตาม SDG 1 (การขจัดความยากจน) โดยตรง โดยช่วยให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้จากทักษะและทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทั้งนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนถือเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (SDG 4): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนิสิตและประชาชนในชุมชน ผ่านการให้ความรู้ด้านการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน การร่วมงานกับชุมชนในโครงการนี้ทำให้นิสิตมีโอกาสในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่ส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยในการเรียนรู้ด้านการจัดการทรัพยากร การพัฒนานวัตกรรม และการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ

SDG 4 (การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต) เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่โครงการนี้ตอบสนองโดยตรง เพราะนิสิตที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำงานในสถานการณ์จริง ซึ่งส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาในด้านการคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ความรู้ที่มีคุณค่าในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (SDG 8): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น นอกจากจะมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนแล้ว ยังมีการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตในระยะยาว โครงการนี้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนา กิมจิ@ร่องกล้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จาก วิสาหกิจชุมชนซากุระญี่ปุ่น ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ และจะได้เป็นตัวแทนจากธนาคารออมสิน ภาค 7 ไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดท้องถิ่นและตลาดต่างประเทศ ทำให้เกิดการสร้าง งาน และ อาชีพ อย่างยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้และเสริมสร้างฐานเศรษฐกิจให้มั่นคงตามหลัก SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อชุมชนที่เกี่ยวข้อง แต่ยังช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของชุมชนในระดับที่กว้างขึ้น

ผลลัพธ์จากการประกวดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์: ในปีนี้ ทีม SD ยุวพัฒน์@NU จาก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กิมจิ@ร่องกล้า” สำหรับวิสาหกิจชุมชนซากุระญี่ปุ่น ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท และจะได้เป็นตัวแทนจากธนาคารออมสิน ภาค 7 ไปแข่งขันในระดับประเทศ ในขณะเดียวกันทีม PolSci Connect และ พายใจไปล่องแก่งจินดา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งการได้รับรางวัลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ยืนยันถึงความสำเร็จของโครงการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า แต่ยังสะท้อนถึงการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนได้จริง

บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อน SDGs: มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับ SDG 1 (การขจัดความยากจน), SDG 4 (การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต), และ SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี) โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ของนิสิตและประชาชนในชุมชน

ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร 

มอบทุนการศึกษาให้กับนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนเงิน 125,000 บาท

สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร และชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย มอบทุนการศึกษาให้กับนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นจำนวนเงิน 125,000 บาท จากการจัดกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยคุณจิตมากร รอบบรรเจิด นายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคม ฯ และชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย นำโดย ดร.ถวิล น้อยเขียว ประธานชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยคณะกรรมการ ฯ เข้ามอบทุนการศึกษาให้แก่นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนทั้งสิ้น 28 ทุน แบ่งเป็น
1. ทุนจากสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 23 ทุน ๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 115,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวมาจากการจัดคอนเสิร์ตคาราบาวของสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 โดยเปิดรับสมัครนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แต่เรียนดี จากทุกคณะ ทุกชั้นปี เพื่อเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์และคัดเลือก จากสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร
2. ทุนชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวมาจากการจัดการแข่งขันวิ่ง NU ST RUN 2023 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการกลางสอบสัมภาษณ์นิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ในระหว่าง 7 – 9 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา 3 ชั้น 3 สำนักงานอธิการบดี

ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

**ผู้บริจาคขอหักลดหย่อนภาษีประจำปีได้ 2 เท่า**
สามารถดาวโหลดแบบฟอร์มการบริจาคได้ที่ bit.ly/3F2r0XC กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

งานบริการสวัสดิการนิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน ให้สามารถใช้ชีวิต ในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุขและสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร รวมถึงการจัดหาแหล่งทุนการศึกษาให้กับนิสิต ควบคุมการเบิกจ่ายเงินทุนการศึกษา พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านทุนการศึกษาแก่นิสิต และติดตามประเมินผลการศึกษานิสิตที่ได้รับทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

ติดต่อเพื่อบริจาคทุนการศึกษาได้ที่ กองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร 99 หมู่9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 งานบริการสวัสดิการนิสิต โทร. 0-5596-1216, 1211 งานศิษย์เก่าสัมพันธ์ โทร. 0-5596-1225

ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักศึกษาทุน กยศ. เสริมสร้างโอกาสการศึกษาและพัฒนาอนาคต

การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลภายใต้โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงในวันที่ 7-8 กันยายน 2566 ที่จัดขึ้นโดยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ, และ SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืนให้กับนักศึกษาทุกคน

การดำเนินงานของโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงและหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลในคณะพยาบาลศาสตร์ มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งยังมีการสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะในด้านต่างๆ เช่น การดูแลความเป็นอยู่และสวัสดิภาพของนักศึกษา รวมถึงการจัดการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งส่งผลต่อการเสริมสร้างทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพได้อย่างมีคุณภาพ

การติดตามและประเมินผลในครั้งนี้ช่วยให้คณะพยาบาลศาสตร์สามารถนำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมและทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้การศึกษาเป็นไปตามเป้าหมายของ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นให้การเรียนการสอนเป็นไปในทิศทางที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและตลาดงานในอาชีพด้านการพยาบาลอย่างยั่งยืน

การให้โอกาสแก่ผู้เรียนในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลทั้งในด้านการเรียนและการพัฒนาทักษะต่างๆ ถือเป็นการส่งเสริม SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการสาธารณสุขที่มักมีการจ้างงานในรูปแบบที่คำนึงถึงความเท่าเทียมและไม่แบ่งแยกทางเพศ การพัฒนาทักษะที่เหมาะสมกับงานในสายอาชีพนี้ ช่วยเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมสำหรับนักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศใด

การสัมภาษณ์และเยี่ยมบ้านนักศึกษาทุน กยศ. จำนวน 3 ราย ยังช่วยให้คณะพยาบาลศาสตร์ได้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และสามารถพัฒนามาตรการสนับสนุนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่อาจประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลให้การศึกษามีความยั่งยืนและเท่าเทียมสำหรับทุกคน

การสร้างโอกาสการมีงานทำและการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายหลักของหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยการเชื่อมโยงการศึกษาและทักษะที่นักศึกษาได้รับกับการพัฒนาอาชีพในอนาคต นักศึกษาที่จบจากหลักสูตรนี้จะมีโอกาสในการหางานทำในสายงานพยาบาลหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการสนับสนุน SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การศึกษาที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานและการสร้างทักษะทางอาชีพให้กับนักศึกษานั้นช่วยให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและช่วยลดปัญหาความยากจนในระยะยาว

การที่คณะพยาบาลศาสตร์มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่ช่วยในการพัฒนาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียนและสถานประกอบการเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้าง วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาได้ตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมและตลาดแรงงาน การรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษาผ่านการสัมภาษณ์และเยี่ยมบ้านช่วยให้คณะพยาบาลศาสตร์เข้าใจถึงปัญหาของนักศึกษาในเชิงลึก และสามารถออกแบบมาตรการสนับสนุนที่ตรงประเด็นได้

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

สัมมนานักวิชาการระดับนานาชาติ SOFT POWER: THE CULTURAL DIPOMACY

การสัมมนานักวิชาการระดับนานาชาติด้านอารยธรรมศึกษา ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 โดยวารสารอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน และกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการและการแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) หลายประการ โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ และ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา.

การจัดสัมมนาครั้งนี้ถือเป็นการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ (SDG 4) โดยการนำเสนอหัวข้อต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งด้านวัฒนธรรมและศิลปะ เช่น “Process of Korean Wave Development as a Key Driver for Economic Growth” และ “Music for Healing Society” ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นการถ่ายทอดความรู้ในเชิงทฤษฎี แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและประสบการณ์จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา นอกจากนี้ การสัมมนายังเปิดโอกาสให้ทั้งนักวิชาการและนิสิตของมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีส่วนร่วมในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ และเสริมสร้างทักษะในการศึกษาและวิจัยจากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระดับนานาชาติ

การจัดกิจกรรมดังกล่าวยังเสริมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและยั่งยืน โดยการนำเสนอตัวอย่างจากต่างประเทศ เช่น ความสำเร็จของคลื่นเกาหลี (Korean Wave) ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือการใช้ดนตรีเพื่อเยียวยาสังคม ซึ่งเป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในบริบทของไทยและในระดับนานาชาติได้

หัวข้อ “The Transformative Potential of Small-Scale Community Events: an LGBTQIA+ Perspective” โดย Dr. Williem Coetzee จาก Western Sydney University, Australia ได้สะท้อนถึงความสำคัญของการสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการสนับสนุนการรวมกลุ่มทางสังคมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ การศึกษาด้านวัฒนธรรมและการรับรู้ในประเด็นเหล่านี้ช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับความหลากหลายทางสังคมและส่งเสริมให้เกิดการยอมรับในความแตกต่าง โดยเฉพาะในกลุ่มที่ถูกมองข้ามหรือมีความเสี่ยงทางสังคม เช่น กลุ่ม LGBTQIA+ การที่มหาวิทยาลัยนเรศวรนำเสนอโอกาสในการเรียนรู้เหล่านี้จึงเป็นการส่งเสริมการสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเสมอภาค

โครงการสัมมนานี้ยังเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิชาการจากหลากหลายประเทศและสถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นการสอดคล้องกับ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนา การมีเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ ช่วยเสริมสร้างการแบ่งปันทรัพยากรทางวิชาการและสร้างโอกาสในการร่วมมือในโครงการวิจัยและกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถตอบสนองต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีส่วนในการผลักดันการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั้งในระดับการศึกษาและการพัฒนาสังคมในภาพรวม

หัวข้อ “Local Food on Global Stages” โดยอาจารย์อนุวัต เชื้อเย็น จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น อาหารท้องถิ่น ที่สามารถขยายขอบเขตไปยังเวทีโลก โดยการสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านการท่องเที่ยวและการเผยแพร่อาหารไทยในระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์และการยอมรับในความหลากหลายทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและสร้างการจ้างงานในชุมชนซึ่งเป็นการสนับสนุน SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และ SDG 12: การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน

การจัดสัมมนานักวิชาการระดับนานาชาติในครั้งนี้สะท้อนถึงการมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และการสร้างความร่วมมือที่ยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยการสนับสนุนให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในหลากหลายด้านของอารยธรรมศึกษา การร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทางวิชาการและการเปิดโอกาสให้สมาชิกในชุมชนการศึกษาระดับนานาชาติได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ จึงเป็นการสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และการพัฒนาทั้งในด้านการศึกษาและสังคมอย่างยั่งยืน.

ที่มา: กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin