ม.นเรศวร จับมือสร้างศักยภาพและความพร้อมในการจัดการศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต

วันอังคารที่ 26 กันยายน 2566 รศ.ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชทารแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร และผศ.ดร.ปรีชา ศรีเรืองฤทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ณ ห้องนเรศวร 310 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร

โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและความพร้อมในการจัดการศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต และสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการ งานบริการวิชาการ และงานวิจัย ระหว่างบุคลากรของทั้งสองสถาบัน

และมี อาจารย์ ดร.นิคม โยกัญญา รองอธิการฝ่ายบัณฑิตศึกษาและกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชัยยา นรเดชานันท์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์, ผศ.ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมลงนามเป็นพยานในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พร้อมแขกผู้มีเกียรติทั้ง 2 คณะให้เกียรติเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้ด้วย

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมจัดทำแผนที่นำทางเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ BCG

NU SciPark จับมือ NSRU ระดมสมองทำ Roadmap พัฒนาธุรกิจ BCG ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ 🌾🎋

วันที่ 14 กันยายน 2566 ดร.พิสุทธิ์ อภิชยกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ม.นเรศวร พร้อมด้วยอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร นำทีมโดย ผศ.ดร.สมลักษณ์ วรรณฤมล กีเยลาโรว่า ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ ม.นเรศวร และรศ.ดร.รังสรรค์ เจริญสุข รองผู้อำนวยการฯ พร้อมด้วย รศ.ดร.ธนัชสัณห์ พูนไพบูลย์พิพัฒน์ ผู้ประสานงานเครือข่ายนักวิชาการรัฐกับเอกชนภาคเหนือล่าง ร่วมจัดทำแผนที่นำทางเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ BCG ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ระหว่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร และ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนเรียนรู้มหาวิทยาลัยเครือข่ายก่อตั้งและมหาวิทยาลัยเครือข่ายใหม่ ภายใต้โครงการบริหารจัดการและพัฒนาเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค ภาคเหนือ ในรูปแบบกิจกรรมเสริมสร้างขีดความสามารถและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเครือข่ายก่อตั้ง (บัดเดอร์) อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร และเครือข่ายใหม่ (บัดดี้) มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ ให้ดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้มหาวิทยาลัยบัดดี้

โอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ด้านเศรษฐกิจ สำนักงานจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน และ ผศ.ดร.สมบูรณ์ นิยม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก ดร.สราวุธ สัตยากวี รองผู้อำนวยการสำนักกลยุทธ์และพัฒนากองทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เป็นวิทยากรร่างแผนที่นำทางเทคโนโลยี สำหรับธุรกิจ BCG ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยมีผู้แทนจากทางภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมระดมความคิดเห็นแผนที่นำทางฯ ณ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร เสริมศักยภาพสู่ความยั่งยืนจัดอบรมให้ความรู้ SDGs

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ภายใต้โครงการ “ประชาสัมพันธ์กิจกรรม NU-SDGs ประจำปี 2566” โดยมีนิสิตและบุคลากรจากหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือในระดับองค์กร เพื่อผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยให้บรรลุผลสำเร็จ

กิจกรรมอบรมครั้งนี้เน้นการให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ SDGs ทั้ง 17 เป้าหมาย โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 17 ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการบูรณาการการทำงานในระดับหน่วยงานและบทบาทของมหาวิทยาลัยในฐานะศูนย์กลางการพัฒนาองค์ความรู้ที่เชื่อมโยงกับชุมชนและสังคม

นอกจากนี้ กิจกรรมยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางในการนำ SDGs ไปปรับใช้กับการทำงานและการดำเนินโครงการของหน่วยงานตนเอง เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงบวกที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน กิจกรรมนี้ยังช่วยเสริมสร้างทักษะด้านการสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ และการวางแผนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง

การจัดกิจกรรมดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมความรู้และการสร้างความร่วมมือภายในองค์กร ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการบรรลุ SDGs อย่างยั่งยืน ด้วยแนวทางการพัฒนาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านการศึกษา การวิจัย และการบริการชุมชน มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงพร้อมเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับสถาบันการศึกษาและสังคมโดยรวม

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กรมอุตุฯ จับมือ ม. นเรศวร ลงนาม MOU สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและงานวิจัย เพื่อการพยากรณ์สภาพอากาศ

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. ดร. ชมภารี  ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ วิจัยและบริการวิชาการ ระหว่าง กรมอุตุนิยมวิทยา กับ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยมี นายบัญชา  แก้วงาม ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรสิทธิ์  โทจำปา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สิทธิชัย  ชูสำโรง รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศและกิจการนิสิต คณะเกษตรศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมลงนามเป็นพยาน ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ดร. ชมภารี กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยาเล็งเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนากระบวนการทำงานและการให้บริการข้อมูล รวมไปถึงพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่องานด้านอุตุนิยมวิทยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเกษตรกรรม เกษตรกรต้องเผชิญปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อผลผลิต หากเกษตรกรสามารถเข้าถึงข้อมูลอุตุนิยมวิทยา การพยากรณ์สภาพอากาศ และนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยในการวางแผนการเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร เพิ่มผลผลิต และลดความเสียหายได้ 

ซึ่งการลงนาม ฯ ในวันนี้จะนำมาสู่การส่งเสริม สนับสนุนงานวิจัย สร้างเครือข่ายความร่วมมือ ตลอดจนร่วมกันพัฒนาบุคลากรเพื่อสนับสนุนงานด้านอุตุนิยมวิทยาและเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการเกษตร รวมถึงด้านอื่น ๆ ด้วยการจัดการข้อมูลแบบดิจิทัล และเพื่อให้บริการวิชาการขยายฐานความรู้และงานวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยาสู่ชุมชน เพื่อให้ทุกคนสามารถนำข้อมูลอุตุนิยมวิทยาไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคต

ที่มา: กรมอุตุนิยมวิทยา

ม.นเรศวร กระชับความร่วมมือทางวิชาการ 5 มหาวิทยาลัยจากญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้เสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการกับ 5 มหาวิทยาลัยจากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Aichi University, Iwate University, Kanazawa University, Shinshu University, และ Soka University โดยการจัดโครงการ “2023 NU Cultural Exchange Program” ซึ่งเป็นโครงการแลกเปลี่ยนนิสิตระยะสั้นเชิงวัฒนธรรมภาคฤดูร้อน ณ มหาวิทยาลัยนเรศวร ระหว่างวันที่ 20 สิงหาคม – 2 กันยายน 2566 โดยมีนิสิตจากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมจำนวน 15 คน

กิจกรรมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ โครงการนี้มีระยะเวลา 14 วัน ซึ่งได้จัดกิจกรรมหลากหลายที่ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และวัฒนธรรมระหว่างนิสิตจากทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้าน SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ทั้งในด้านการใช้ชีวิตในประเทศไทย ศิลปวัฒนธรรม และการกีฬา ที่มีเอกลักษณ์และความแตกต่างจากประเทศญี่ปุ่น โดยนิสิตแลกเปลี่ยนได้มีโอกาสเรียนรู้และสัมผัสกิจกรรมต่างๆ เช่น

  • การทดลองทำอาหารไทย เช่น ส้มตำ และต้มยำกุ้ง
  • การประดิษฐ์ผ้าคล้องพวงกุญแจ
  • การตกแต่งกระเป๋าด้วยสีจากดอกไม้ธรรมชาติ
  • การประดิษฐ์เข็มกลัดจากแผ่นเงิน
  • การเรียนรู้การแต่งกายไทยและการฝึกเล่นดนตรีไทย
  • การฝึกนาฏศิลป์ไทยและมวยไทย

กิจกรรมทั้งหมดมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในวัฒนธรรมไทยและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ทำให้นิสิตญี่ปุ่นได้สัมผัสถึงความเป็นเอกลักษณ์ของไทยในด้านต่างๆ ทั้งในแง่ของวัฒนธรรม การดำเนินชีวิต และกีฬา ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้.

การต้อนรับและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: ในวันที่ 21 สิงหาคม 2566 คณะนิสิตแลกเปลี่ยนชาวญี่ปุ่นได้เข้าพบผู้บริหารมหาวิทยาลัยนเรศวร ณ ห้องสุพรรณกัลยา 3 สำนักงานอธิการบดี โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทิพย์ แทนธานี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ให้เกียรติเป็นผู้กล่าวต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้กับคณะนิสิต พร้อมทั้งถ่ายรูปร่วมกันเพื่อเป็นที่ระลึกของการมาเยือนครั้งนี้.

การสร้างความร่วมมือทางวิชาการ (SDG 17): การดำเนินการจัดโครงการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการขับเคลื่อน SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นในการส่งเสริมและสร้างเครือข่ายการศึกษาและวิจัยข้ามประเทศผ่านกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและการศึกษาผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นพัฒนาทักษะทั้งด้านวิชาการและการมีปฏิสัมพันธ์กับวัฒนธรรมที่แตกต่าง. การร่วมมือกันในโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและญี่ปุ่น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งนิสิตจากสองประเทศได้รับความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างกัน และนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการในอนาคต.

ความสำคัญของโครงการ: โครงการ “2023 NU Cultural Exchange Program” จึงถือเป็นการสนับสนุนการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งเป็นการสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับทั้ง SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเป็นผู้นำในการจัดกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางวิชาการให้กับนิสิต ยังเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับบุคคลจากหลายประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้ในทุกมิติ.

ที่มา: กองพัฒนาภาษา และกิจการต่างประเทศ ม.นเรศวร

นิสิต ม.นเรศวร ร่วมกิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพฯ สิทธิทางประชาธิปไตย

กิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองและสิทธิทางประชาธิปไตย ครั้งที่ 4 (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ)

ด้วยสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย (ยท.) ภายใต้โครงการเสียงของเราทางเลือกของเรา : พลังสตรีและเยาวชนสำหรับพื้นที่พลเมืองประชาธิปไตย ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การแพลนอินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และสหภาพยุโรป (EU) กำหนดจัดกิจกรรมอบรมและพัฒนาศักยภาพสภาเด็กและเยาวชนและเครือข่ายเยาวชนเกี่ยวกับสิทธิพลเมืองและสิทธิทางประชาธิปไตย ครั้งที่ 4 (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ) เพื่อสร้างองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพให้กับเครือข่ายแกนนำเด็กและเยาวชนในพื้นที่ต่อประเด็นสิทธิพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย สิทธิเด็ก สิทธิในเด็กผู้หญิง และสิทธิพลเมืองที่พึงจะได้รับ 🧑‍⚖️

ทั้งนี้สำหรับเครือข่ายเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จะมีสิทธิ์ได้พัฒนาข้อเสนอโครงการ เพื่อขอรับทุนสนับสนุนการขับเคลื่อนกิจกรรมในพื้นที่ของตนเอง ภายใต้กรอบงบประมาณรวมทั้งหมดไม่เกิน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาท) ซึ่งกำหนดจัดกิจกรรมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 2 กันยายน 2566 ณ โรงแรมพลิ โล่บูติด ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

ที่มา: อาสายุวกาชาด ม.นเรศวร

ม.นเรศวร บริการวิชาการเพื่อชุมชนผ่านกิจกรรมมหกรรมสุขภาพ ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวร โดย รองศาสตราจารย์ ดร.นพวรรณ บุญชู รองคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิตจาก คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ร่วมดำเนินโครงการบริการวิชาการเพื่อชุมชนในกิจกรรม “มหกรรมสุขภาพ” ซึ่งจัดขึ้น ณ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าแฝก อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ความรู้และเสริมสร้างสุขภาพที่ดีแก่ประชาชนในชุมชน พร้อมทั้งส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

กิจกรรมใน มหกรรมสุขภาพ มีการจัดการให้ความรู้หลายหัวข้อ โดยแบ่งเป็น 6 กิจกรรมสำคัญที่มุ่งเน้นทั้งด้านสุขภาพกายและจิตใจ รวมถึงการใช้ทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อการดูแลสุขภาพ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้:

  1. การดูแลสุขภาพด้วยแพทย์แผนไทย – โดยวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญจากคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้แก่ รศ.ดร.ดลฤดี สงวนเสริมศรี, รศ.น.สพ.ดร.พันธุ์ชนะ สงวนเสริมศรี, และ รศ.ดร.พรรณนิกา ฤตวิรุฬห์ ที่ได้บรรยายเกี่ยวกับการใช้วิธีการแพทย์แผนไทยในการดูแลรักษาสุขภาพอย่างยั่งยืน
  2. การนำผลงานวิจัยมาเผยแพร่ให้ความรู้ – โดย ผศ.ดร.นลิน วงศ์ขันติยะ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งได้แชร์ผลการวิจัยที่สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาชุมชนและการดูแลสุขภาพในระดับท้องถิ่น
  3. ใช้ชีวิตอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคปรสิต – วิทยากรจากคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้แก่ ผศ.ดร.พวงเพชร วารีย์ โม้ลี, รศ.ดร.ดำรงพันธุ์ ทองวัฒน์, รศ.ดร.วิลาวัณย์ ภูมิดอนมิ่ง, และ รศ.ดร.นพวรรณ บุญชู ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการป้องกันโรคจากปรสิตและการเสริมสร้างสุขภาพในชุมชน
  4. การใช้ประโยชน์จากสมุนไพรพื้นบ้านใกล้ตัว – วิทยากร ผศ.ดร.ชนนิษฏ์ ชูพยัคฆ์ ได้แนะนำการใช้สมุนไพรในท้องถิ่นเพื่อการดูแลสุขภาพ ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้ชุมชนใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อเพิ่มมูลค่าและส่งเสริมสุขภาพ
  5. การให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกายและใจ – โดย อาจารย์กิติณัฐ รอดทองดี และนิสิตจากภาควิชาสรีรวิทยา ซึ่งได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลร่างกายและจิตใจเพื่อให้ห่างไกลจากโรค ทั้งทางกายภาพและจิตใจ
  6. ขนมหวานสร้างอาชีพ – กิจกรรมนี้มีการสอนทำ เต้าฮวยนมสด และ วุ้นสวยงาม โดยวิทยากร นางสาววิรดา ประเสริฐ และ นางสาวจารุนันท์ บัวพัน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นการสร้างอาชีพและเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิกในชุมชน ผ่านการเรียนรู้การทำขนมหวานที่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนตาม SDGs 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย SDGs 3 มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพและการใช้สมุนไพรท้องถิ่น เป็นการช่วยให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างยั่งยืน และ SDGs 17 เน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษากับชุมชนในการพัฒนาและส่งเสริมการเข้าถึงความรู้ ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและชุมชนท้องถิ่นในการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชน

นอกจากนี้กิจกรรมนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการทำงานร่วมกับชุมชนเพื่อพัฒนาและส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับประชาชน และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนในพื้นที่โดยการใช้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและส่งเสริมการพัฒนาอาชีพในชุมชน.

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ภายใต้โครงการ Samart Skills (Google Career Certificate)

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 รศ.ดร.พนัส นัถฤทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ผู้แทนมหาวิทยาลัยนเรศวร และ ดร.ศุภธิดา พรหมพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดิ เอสเคิร์ฟ จำกัด ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เพื่อการพัฒนานิสิตและบุคลากร โดยมีการจัดโครงการ Samart Skills (Google Career Certificate) ระยะที่ 2 จำนวน 9 หลักสูตร ภายใต้พันธกิจ Leave No Thai Behind เปิดโอกาสให้นิสิต อาจารย์ และบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี ที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน สร้างโอกาสในการพัฒนาตนเอง และสร้าง Digital TaIent ซึ่งจะได้รับสิทธิ์การยกเว้นค่าธรรมเนียมการเข้าเรียนระบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม Coursera และจะได้รับใบประกาศนียบัตรเมื่อเสร็จสิ้นการเรียน สามารถนำไปใช้ในการสมัครงานกับพันธมิตรภาคเอกชนของโครงการที่ให้การยอมรับคุณวุฒินี้ ณ สำนักงาน Google (ประเทศไทย)

👉ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยนเรศวร มอบหมายให้ CITCOMS เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ Samart Skills (Google Career Certificate) ระยะที่ 2 โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ ได้ที่ https://training.nu.ac.th/samartskills หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณจินตนา ชัยรัตนศักดิ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-5596-1510 หรือ e-Mail : citcoms_training@nu.ac.th

ที่มา: กองบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมประชุมขับเคลื่อน SDG 4 ส่งเสริมการศึกษาที่ยั่งยืนในพิษณุโลก

วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะที่เป็นคณะทำงานขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) จังหวัดพิษณุโลก ได้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างความเข้าใจกรอบแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG 4) ซึ่งจัดโดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก โดยมี ผศ.ดร.จรูญ สารินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี และนายธนวุฒิ พูลเขตนคร จากงานพัฒนาเพื่อความเป็นเลิศ กองพัฒนาคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมนเรศวร โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม

กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน SDGs 4 ซึ่งมุ่งเน้นการให้การศึกษาที่มีคุณภาพและการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับทุกคน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดพิษณุโลกเพื่อพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืนในพื้นที่ การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ได้จัดขึ้นเพื่อกำหนดแนวทางและกรอบการดำเนินงานในการบรรลุเป้าหมาย SDGs 4 ในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับทุกคนในจังหวัดพิษณุโลก

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีส่วนร่วมในการสร้างแนวทางและกลยุทธ์การขับเคลื่อน SDGs 4 ที่สอดคล้องกับความต้องการและบริบทของพื้นที่ ด้วยการมุ่งเน้นการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในทุกระดับ โดยการใช้ทรัพยากรทางวิชาการที่มหาวิทยาลัยมีอยู่ เพื่อช่วยยกระดับการศึกษาของนักเรียนและครูในจังหวัดพิษณุโลกผ่านการพัฒนาหลักสูตร การอบรม และกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ

นอกจากนี้ การประชุมนี้ยังสอดคล้องกับ SDGs 17: การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการรวมตัวของหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคเอกชนในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ และสนับสนุนการพัฒนาระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและเป็นธรรม

การเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยนเรศวรในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านการศึกษา (SDG 4) แต่ยังเป็นการส่งเสริมการสร้างความร่วมมือในระดับจังหวัดเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน โดยการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่าง ๆ ในการร่วมมือและดำเนินการตามเป้าหมาย SDGs อย่างมีประสิทธิภาพ.

ภาพกิจกรรมโดย: สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดพิษณุโลก

มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส

การจัดกิจกรรมในวันที่ 19-20 สิงหาคม 2566 โดยคณะพยาบาลศาสตร์ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ภายใต้โครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” สอดคล้องกับแนวทางของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุน SDGs (Sustainable Development Goals) หรือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 10: การลดความเหลื่อมล้ำ, และ SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ.

โครงการ “ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง” เป็นการสร้างโอกาสในการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4 ที่มุ่งเน้นการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและเท่าเทียม การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนจากสถานศึกษาต่างๆ เช่น วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก, วิทยาลัยเทคนิคแม่สอด, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก, มหาวิทยาลัยนเรศวร, และสถาบันการศึกษาชั้นนำอื่นๆ ทำให้ผู้เรียนที่มาจากพื้นฐานที่แตกต่างกันมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นการส่งเสริมความเสมอภาคและการลดช่องว่างทางการศึกษา (SDG 10).

กิจกรรมในโครงการนี้ไม่เพียงแต่เน้นการเรียนรู้ทางวิชาการ แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานในอนาคต โดยการจัดกิจกรรมที่เน้นการเตรียมตัวเข้าสู่โลกของการทำงาน นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงได้รับการแนะนำจากผู้บริหารจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.), รุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการศึกษาและมีงานทำแล้ว รวมถึงการได้พบปะกับนายจ้างและสถานประกอบการที่ให้คำแนะนำในด้านทักษะการทำงาน ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ เช่น ผู้ช่วยพยาบาล ผู้ช่วยทันตแพทย์ และสายอาชีพชั้นสูงอื่นๆ ที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน การศึกษาสายอาชีพนี้ช่วยสร้างโอกาสให้กับเยาวชนในการทำงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (SDG 8).

การจัดตั้งโครงการ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยคัดเลือกสถาบันการศึกษาชั้นนำทั้งในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ยังมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการศึกษาให้พร้อมรองรับความต้องการของตลาดแรงงานในยุค Thailand 4.0 การลงทุนในโครงการศึกษาสายอาชีพที่มุ่งเน้นการพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่ทันสมัยและตรงกับความต้องการของตลาด จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระดับโลก ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายในการสร้างโครงสร้างการศึกษาที่พร้อมตอบสนองความต้องการของสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต.

การที่คณะพยาบาลศาสตร์จัดกิจกรรมร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษา โดยการเข้าร่วมกิจกรรมปลุกพลังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่ประสบความสำเร็จจากรุ่นพี่และผู้เชี่ยวชาญในสายงาน อาทิ การได้พบกับผู้บริหารจากกองทุนฯ, นายจ้าง และสถานประกอบการที่มอบคำแนะนำในการพัฒนาตนเอง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถพัฒนาทักษะและสร้างเครือข่ายที่สำคัญในโลกของการทำงาน ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและส่งเสริมการพัฒนาตนเองของเยาวชนที่ด้อยโอกาส (SDG 10).

การจัดกิจกรรมนี้ยังช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาหลายแห่ง ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักศึกษาและครู/อาจารย์จากสถาบันต่างๆ ที่เข้าร่วม ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือในระดับชาติและระดับสากล (SDG 17). การสร้างเครือข่ายและการร่วมมือในการจัดกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันและสนับสนุนการพัฒนาความรู้ในเชิงลึกในทุกภาคส่วน.

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตาก

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin