ม.นเรศวร สร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ยุวยงค์ จันทรวิจิตร คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยนเรศวรในการลงนามในบันทึกการตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding (MOU) กับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และเทศบาลตำบลท่าทอง จำนวน 11 แห่ง ณ ห้องเทพรณรงค์ฤาไชย ชั้น 1 อาคารอุทยานองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีรายนามหน่วยงานดังต่อไปนี้

1. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก
2. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิจิตร
3. โรงพยาบาลสุโขทัย
4. โรงพยาบาลศรีสังวรสุโขทัย
5. โรงพยาบาลพิจิตร
6. โรงพยาบาลกำแพงเพชร
7. โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
8. โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
9. โรงพยาบาลจิตเวชพิษณุโลก
10. โรงพยาบาลพิษณุเวช
11. เทศบาลตำบลท่าทอง

โดย MOU ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติและพัฒนาการเรียนการสอนทางการพยาบาล แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันด้านวิชาการและการศึกษาวิจัย ด้านบริการวิชาการ และเพื่อพัฒนาบุคลากรของทุกๆหน่วยงาน รวมถึงคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรด้วย

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

นวัตกรรมเชิงระบบ รางวัล ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมกิจกรรมเพื่อรณรงค์และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับ วันหลอดเลือดสมองโลก (#WorldStrokeDay) ภายใต้แนวคิด “ปักหมุดจุดเสี่ยง หลีกเลี่ยงอัมพาต” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริม SDG 3: สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี มุ่งเน้นการป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นหนึ่งในโรคที่สามารถป้องกันได้หากมีการเฝ้าระวังและป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตและพิการอย่างรุนแรงในผู้ป่วย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือโรคหัวใจ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลในพื้นที่และชุมชนในการพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบเพื่อ ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ผ่านการตรวจคัดกรองและจัดการปัจจัยเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคนี้ โดยมีการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัยเพื่อวิเคราะห์และติดตามสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

การพัฒนานวัตกรรมในครั้งนี้มุ่งหวังที่จะให้การบริการด้านสุขภาพเข้าถึงประชาชนได้ง่ายและครอบคลุม โดยมีการนำเอาระบบสุขภาพที่เป็น “นวัตกรรมเชิงระบบ” มาใช้ในการสังเกตและติดตามความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองในระดับชุมชน ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยได้รับรางวัล “ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023” ในประเภท ชมเชย สำหรับความสำเร็จในการพัฒนาและการนำระบบการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่สามารถเข้าถึงผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล

ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลและชุมชน โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยนเรศวร, โรงพยาบาลในพื้นที่, และชุมชน โดยใช้เทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในระดับชุมชนให้สามารถตรวจหาความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดสมองได้ และสามารถให้คำแนะนำในการป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดสมองในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนานวัตกรรมนี้ไม่เพียงแค่เป็นการใช้เทคโนโลยีในการตรวจคัดกรองโรค แต่ยังรวมถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในชุมชนเกี่ยวกับวิธีการ สังเกตอาการเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ตามหลัก FAST (Face, Arms, Speech, Time) เพื่อที่ประชาชนจะสามารถรับรู้และขอความช่วยเหลือจากหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตและลดอาการพิการจากโรคหลอดเลือดสมอง

การพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบในโครงการนี้ได้รับการยอมรับในวงการสุขภาพ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในระดับชุมชนได้จริง โดยโครงการนี้ได้รับรางวัล “ANGELs INNOVATIVE AWARDS 2023” ในหมวด ชมเชย สำหรับผลงานการพัฒนานวัตกรรมที่มีความสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะในชุมชนห่างไกลที่มีการเข้าถึงบริการสุขภาพไม่สะดวก

รางวัลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จและคุณค่าของการพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบที่สามารถนำไปใช้จริงในระดับชุมชน ซึ่งตรงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3 ที่มุ่งหวังให้ผู้คนในทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงสุขภาพที่ดีและการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

29 ตุลาคม วันหลอดเลือดสมองโลก

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าร่วมการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 3: สุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดี โดยเฉพาะการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งปีนี้ประเทศไทยมีรายงานการพบผู้ป่วยหลอดเลือดสมองกว่า 3 แสนราย และมีผู้เสียชีวิตถึง 3 หมื่นราย

โรคหลอดเลือดสมอง เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ถึง 90% หากได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและมีการตรวจสอบอาการในระยะเริ่มต้นอย่างทันท่วงที สัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมองสามารถสังเกตได้ง่ายผ่านหลักการ F.A.S.T. ซึ่งย่อมาจาก:

  • F (Face) – หน้าตาเบี้ยวหรือผิดรูป
  • A (Arms) – แขนยกไม่ขึ้นหรืออ่อนแรง
  • S (Speech) – พูดลำบาก หรือมีการพูดที่ไม่ชัดเจน
  • T (Time) – เมื่อพบอาการเหล่านี้ต้องโทร 1669 ทันที

การโทรหาหมายเลข 1669 หรือศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติทันทีในกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาได้ทันเวลา ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตหรือการพิการจากโรคนี้

การร่วมมือและการสร้างความตระหนักในชุมชน การรณรงค์ในปี 2566 นี้มีหัวข้อหลักคือ “Together we are #GreaterThan Stroke” ซึ่งมุ่งเน้นการร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ ทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เพื่อป้องกันและลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองในประเทศไทย มหาวิทยาลัยนเรศวรในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีบทบาทในการสร้างความตระหนักรู้ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองในกลุ่มนิสิตและชุมชนรอบมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีความเข้าใจในเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะการตรวจสอบอาการเบื้องต้นและการติดต่อหน่วยงานทางการแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการเสี่ยง

การสนับสนุนด้านการศึกษาและการป้องกันโรค นอกจากการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาณเตือนและการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองแล้ว มหาวิทยาลัยนเรศวรยังได้สนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรมเกี่ยวกับการช่วยชีวิตเบื้องต้น (First Aid) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่ประสบเหตุฉุกเฉินในกรณีโรคหลอดเลือดสมองหรือภาวะหัวใจหยุดเต้น

การดำเนินงานเหล่านี้สอดคล้องกับ SDG 3 ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชากรในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการลดความเสี่ยงจากโรคที่สามารถป้องกันได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง รวมทั้งการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง

ม.นเรศวร ร่วมอบรมวิชาการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” รุ่นที่ 8

บุคลากรสถานสัตว์ทดลองฯ ม.นเรศวร เข้าร่วม การอบรมวิชาการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” รุ่นที่ 8

เมื่อวันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2566 เวลา 08.00-16.45 น. ณ SHE Training Room ศูนย์บริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จัดโดย คณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพมหาวิทยาลัยมหิดล (MU-IBC)

โดยมีผู้เข้าอบรม ดังนี้ 1. สพ.ญ.ศกลวรรณ จินดารักษ์ 2. นายปิยะพงษ์ กลมพุก 2. นางวิลาสินี อริยะวรรณ 3. นางสาวอารีย์ คำจันทร์ และ นายวีรเชษฐ์ สิงหเดช ซึ่งในการอบรมดังกล่าวมีการสอบวัดผลความรู้ โดยนายวีรเชษฐ์ สามารถทำคะแนนสอบได้คะแนนเต็ม

ที่มา: สถานสัตว์ทดลองเพื่อการวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร

การตรวจสุขภาพประจำปีสำคัญอย่างไร

เราอยากเห็นทุกคนมีสุขภาพดี… เพราะสุขภาพที่ดีนำมาซึ่งความสุข ความมั่นคงของชีวิต #ขอขอบคุณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก ที่เข้าบันทึกเทปรายการ Healthy Clubs ประเด็น “การตรวจสุขภาพประจำปีสำคัญอย่างไร”

รายการ Healthy Clubs ทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก บันทึกเทปรายการ เรื่อง “การตรวจสุขภาพประจำปีสำคัญอย่างไร” โดยมี ผศ.นพ.ยุทธพงศ์ พุทธรักษา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและสื่อสารองค์กร และแพทย์ประจำคลินิกตรวจสุขภาพประจำปี รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ รายการดังกล่าว ดำเนินรายการโดย คุณศิวพร ดวงแก้วฝ่าย ผู้ประกาศสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก (NBT พิษณุโลก) และทีมงาน

ติดตามชมรายการฉบับเต็มได้เร็ว ๆ นี้ ทาง NBT 2 HD
อ่านต่อ : https://med.nu.ac.th/home/index.php?language=&mod=more_detail&nID=19343
ที่มา: PR คณะแพทยศาสตร์ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร

อบรมวิชาการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพและการรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพ” รุ่นที่ 8

เมื่อวันที่ 2 – 3 ตุลาคม 2566 เวลา 08.00-16.45 น. ณ SHE Training Room ศูนย์บริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทางาน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จัดโดย คณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยทางชีวภาพมหาวิทยาลัยมหิดล (MU-IBC)

โดยมีผู้เข้าอบรม ดังนี้ 1. สพ.ญ.ศกลวรรณ จินดารักษ์ 2. นายปิยะพงษ์ กลมพุก 2. นางวิลาสินี อริยะวรรณ 3. นางสาวอารีย์ คำจันทร์ และ นายวีรเชษฐ์ สิงหเดช ซึ่งในการอบรมดังกล่าวมีการสอบวัดผลความรู้ โดยนายวีรเชษฐ์ สามารถทำคะแนนสอบได้คะแนนเต็ม

ที่มา: สถานสัตว์ทดลองเพื่อการวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร

อมรมเชิงปฏิบัติการทักษะการให้คำปรึกษาในการดูแลสุขภาวะนิสิต

คณะทันตแพทยศาสตร์ จัดกิจกรรมอมรมเชิงปฏิบัติการทักษะการให้คำปรึกษาในการดูแลสุขภาวะนิสิต แก่คณะกรรมการสุขภาวะนิสิต คณะทันตแพทยศาสตร์ โดยได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.เชาวนี ล่องชูผล มาเป็นวิทยากร เพื่อให้คณะกรรมการสุขภาวะนิสิตมีทักษะในการให้คำปรึกษาดูแลสุขภาวะนิสิต และนิสิตสามารถใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุข

ที่มา: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

พื้นที่แห่งความสุขเปิดให้บริการทุกวัน

มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดพื้นที่แห่งความสุขเปิดให้บริการทุกวัน เริ่ม 1 ตุลาคม นี้จ้าาาาา โดยเป็นศูนย์ที่ให้คำปรึกษานิสิต ในการจัดการความเคลียด ดูแลและช่วยเหลือและติดตามนิสิตผู้มีสภาวะซึมเศร้า

‘คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน’ ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในพิษณุโลก เสริมสร้างความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐาน

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ดำเนินโครงการต่างๆ ที่ไม่เพียงแค่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านสุขภาพและการลดความเหลื่อมล้ำ แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมความยุติธรรมและสิทธิพื้นฐานของประชาชนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มักถูกมองข้ามและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานได้อย่างเต็มที่ เช่น คนไร้สัญชาติ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เผชิญกับการขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล, การประกอบอาชีพ และสิทธิขั้นพื้นฐานอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

หนึ่งในโครงการสำคัญที่สะท้อนถึงการดำเนินงานในแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ โครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลก โดยการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานที่พวกเขาควรได้รับ ภายใต้แนวคิดของการส่งเสริม ความยุติธรรม และ การลดความเหลื่อมล้ำ ในสังคม

การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติ ในตอนที่ 2 ของโครงการ “คลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน” มหาวิทยาลัยนเรศวรได้ให้บริการช่วยเหลือและคำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ คนไร้สัญชาติ ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายหรือสิทธิพื้นฐานที่เหมาะสม โดยเฉพาะสิทธิในการขอสัญชาติ การได้รับการศึกษา การเข้าถึงการรักษาพยาบาล และการมีสิทธิในการดำเนินชีวิตอย่างเท่าเทียมกับประชาชนอื่น ๆ ในสังคม

การให้บริการทางกฎหมายในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ภาคีต่างๆ รวมถึงคณาจารย์จาก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร และบุคคลผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย โดยมีการให้คำปรึกษาในการยื่นขอสัญชาติ การจัดการกับปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานะทางกฎหมายของคนไร้สัญชาติ และการส่งเสริมความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนในระดับท้องถิ่น

สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับโครงการ ในระหว่างการดำเนินงานของโครงการนี้ ผศ.กิติวรญา รัตนมณี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติว่า:

“การส่งเสริมสิทธิทางกฎหมายให้แก่ประชาชนทุกคนเป็นเรื่องที่จำเป็นในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน การให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือด้านกฎหมายสำหรับกลุ่มคนไร้สัญชาติในจังหวัดพิษณุโลกนี้ ถือเป็นการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของพวกเขาในการเข้าถึงสิทธิพื้นฐานอย่างเท่าเทียม โดยการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียมไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา แต่ยังสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและสันติภาพได้”

ขณะเดียวกัน น.ส.ภิญญาภัทร ปุญญธนา (น้องแตงโม) นิสิตชั้นปีที่ 1 จาก คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้กล่าวถึงประสบการณ์ส่วนตัวในโครงการนี้ว่า:

“การเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสและสิทธิพื้นฐานในสังคม การให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติไม่เพียงแต่เป็นการช่วยเหลือในด้านการขอสัญชาติหรือสิทธิที่เกี่ยวข้อง แต่ยังเป็นการสร้างความหวังให้กับพวกเขาในการมีชีวิตที่ดีขึ้น การได้เห็นพวกเขามีโอกาสในการเข้าถึงสิทธิที่ควรได้รับถือเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก”

การสอดคล้องกับ SDGs 3, 10, และ 16: SDG 3 (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) มุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นการรักษาพยาบาล, การศึกษา, และโอกาสในการมีชีวิตที่ดี โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไร้สัญชาติสามารถเข้าถึงสิทธิที่พวกเขาควรได้รับ และลดช่องว่างของความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ SDG 16 (สันติภาพ, ความยุติธรรม, และสถาบันที่เข้มแข็ง) ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมความยุติธรรม และสร้างสังคมที่มีการให้บริการทางกฎหมายอย่างเท่าเทียม โครงการนี้ช่วยสร้างความยุติธรรมให้แก่คนไร้สัญชาติ ที่มักถูกมองข้ามในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานผ่านการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม

ผลกระทบที่สำคัญและการต่อยอดโครงการ: โครงการนี้ไม่เพียงแค่ช่วยเหลือคนไร้สัญชาติในการขอสัญชาติ แต่ยังช่วยส่งเสริมการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนในชุมชน การให้คำปรึกษาทางกฎหมายช่วยเพิ่มความเข้าใจและการเข้าถึงสิทธิของพวกเขาในระดับที่ลึกซึ้งขึ้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่ถูกมองข้ามในสังคมสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ในระยะยาว โครงการนี้มีความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้สัญชาติให้สามารถเข้าถึงการศึกษา, การรักษาพยาบาล และการมีงานทำได้อย่างเท่าเทียมกับคนอื่น ๆ ในสังคม ส่งผลให้เกิดการลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ และสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีความยุติธรรมมากขึ้น

ขอเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม มหาวิทยาลัยนเรศวรขอเชิญชวนทุกท่านร่วมรับชม คลิปวิดีโอ และตอบ แบบสอบถาม เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้ พร้อมทั้งช่วยเผยแพร่ข้อมูลให้กับผู้ที่อาจได้รับประโยชน์จากโครงการ โดยการกระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมในสังคม

การให้โอกาสทางกฎหมายแก่คนไร้สัญชาติถือเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคม และเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สร้างผลกระทบที่ดีต่อสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคต

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันในการดำเนินโครงการนี้ และขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่มีความยุติธรรมและเท่าเทียมกัน

ลิงค์สำหรับตอบแบบสอบถาม: https://forms.gle/BefJfJ5HaZ1Q1mLD7

ที่มา: สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยนเรศวร NUradio Naresuan

การใช้กลิ่นบำบัดสุขภาพด้วยน้ำมันหอมระเหย

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2566 หน่วยบริการวิชาการเพื่อชุมชน คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ออกหน่วยบริการวิชาการโดยจัดกิจกรรมการให้ความรู้ เรื่อง “การทำน้ำมันหอมระเหยเพื่อบำบัดสุขภาพ” ให้แก่ประชาชนตำบลป่าแฝก ณ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าแฝก อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งมีการบรรยายให้ความรู้ “การใช้กลิ่นบำบัดสุขภาพด้วยน้ำมันหอมระเหย” และการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การทำน้ำมันหอมระเหยเพื่อบำบัดสุขภาพ” โดยวิทยากร ดังนี้
>>วิทยากรหลัก : อาจารย์ธรรศ พิศลย์กุลเกษม
>>วิทยากรร่วม : อาจารย์กิติณัฐ รอดทองดี

ที่มา: คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin