มหาวิทยาลัยนเรศวร สร้างพื้นที่แห่งความสุข “ตลาดโบราณย้อนยุค”

มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีการสร้างพื้นที่แห่งความสุข “ตลาดโบราณย้อนยุค” เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างคนในมหาวิทยาลัย, ชุมชนโดยรอบ, และผู้ประกอบการท้องถิ่น สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ, สังคม, และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs ที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ตลาดโบราณย้อนยุคไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเลือกซื้ออาหารที่สะอาด ปลอดภัย และมีราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงการอนุรักษ์และส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการร้อยเรียงเรื่องราวของขนมและอาหารโบราณที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม การสร้างพื้นที่เช่นนี้ช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นการส่งเสริมเป้าหมาย SDG 4 “การศึกษาที่มีคุณภาพ” และ SDG 11 “เมืองและชุมชนที่ยั่งยืน”

นอกจากนี้ ตลาดโบราณย้อนยุคยังเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน การเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นมีโอกาสสร้างรายได้ถือเป็นการส่งเสริม SDG 8 “การทำงานที่ดีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ” โดยการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการในชุมชน อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของเงินภายในพื้นที่ ซึ่งส่งผลดีต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น

ในด้านสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยนเรศวรยังมีกิจกรรมร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยการนำขวดพลาสติกใช้แล้วมาใช้ใหม่เป็นภาชนะในการปลูกต้นไม้ เช่น การปลูกต้นไม้ในขวดพลาสติกที่เป็นวัสดุรีไซเคิล ช่วยลดการใช้พลาสติกใหม่และลดขยะในพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 12 “การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน” โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การสร้างพื้นที่แห่งความสุขเช่นนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการพัฒนาความยั่งยืนในด้านเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย มหาวิทยาลัยนเรศวรจึงเป็นต้นแบบของการพัฒนาชุมชนและสังคมที่ยั่งยืน ผ่านการใช้ความรู้ วัฒนธรรม และนวัตกรรมในทุกมิติของการพัฒนา

ม.นเรศวร ผนึกกำลังนิคมสร้างตนเองบางระกำฯ จัดประชุมสร้างความเข้าใจในการดำเนินโครงการฯ พร้อมลงพื้นที่สำรวจกลุ่มเป้าหมาย

มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ร่วมมือกับ นิคมสร้างตนเองบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ในการจัดประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินโครงการพัฒนาทุนมนุษย์และส่งเสริมอัตลักษณ์ในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพและการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงการพัฒนาทักษะที่เหมาะสมต่อการสร้างโอกาสในการทำงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของชุมชนในระยะยาว

การประชุมที่จัดขึ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ออกหน่วยบริการวิชาการมหาวิทยาลัยนเรศวร” ซึ่งมุ่งเน้นการบูรณาการองค์ความรู้จากคณาจารย์และนักวิจัยของมหาวิทยาลัยในการแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชน โดยโครงการนี้เน้นการสร้างมูลค่าในด้านเศรษฐกิจและสังคมในระดับบุคคลและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบนิคมสร้างตนเองบางระกำ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการเกษตร

1. การพัฒนาทุนมนุษย์และเศรษฐกิจชุมชน (SDG 1, SDG 8) การพัฒนาทุนมนุษย์และเศรษฐกิจชุมชนเป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายสำคัญของการดำเนินโครงการร่วมกับนิคมสร้างตนเองบางระกำ ซึ่งมุ่งเน้นการเสริมสร้างทักษะและความรู้ให้กับสมาชิกในชุมชน เช่น กลุ่มผู้เลี้ยงไก่, กลุ่มผู้ปลูกอ้อย, กลุ่มผู้เลี้ยงปลา, และกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร โดยการถ่ายทอดความรู้ด้านการพัฒนาอาชีพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การเกษตรยั่งยืนและการเลี้ยงสัตว์ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับชุมชน ลดความยากจนในพื้นที่ ซึ่งเป็นการสนับสนุน SDG 1: การขจัดความยากจน โดยการให้โอกาสทางการศึกษาที่เสริมสร้างอาชีพและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในตลาดแรงงาน นอกจากนี้ การพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืนยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะยาวและช่วยให้ชุมชนมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ดียิ่งขึ้น

2. การส่งเสริมการเกษตรและการผลิตที่ยั่งยืน (SDG 2, SDG 12) : SDG 2: การขจัดความหิวโหยและความมั่นคงทางอาหาร เป็นเป้าหมายที่ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากโครงการนี้ โดยการส่งเสริมการเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ในลักษณะที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถสร้างความมั่นคงทางอาหารและลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนอาหารในชุมชน การเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ยั่งยืนและการใช้วิธีการเลี้ยงสัตว์ที่ลดการใช้สารเคมี จะช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรมีความปลอดภัยและมีคุณภาพสูง

โครงการนี้ยังส่งเสริม SDG 12: การบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน โดยการสอนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นสามารถผลิตสินค้าในแบบที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน การใช้วิธีการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ปุ๋ยธรรมชาติ การจัดการน้ำอย่างประหยัด และการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ จะช่วยให้การผลิตมีความยั่งยืนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

3. การพัฒนาแรงงานและการสร้างอาชีพ (SDG 8) โครงการนี้ยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบุคลากรในชุมชน โดยการเสริมทักษะทางการเกษตรและการผลิตที่ยั่งยืน เพื่อให้ผู้ประกอบการในชุมชนสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน โครงการนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการพัฒนาอาชีพในระดับบุคคล แต่ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนโดยรวม

การเสริมสร้างความรู้ด้านการทำธุรกิจและการพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืนมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการสร้างโอกาสในการสร้างอาชีพใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นไปในทิศทางที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการท้องถิ่นให้สามารถพัฒนาอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 8: การทำงานที่ดีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

4. การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (SDG 13, SDG 15) โครงการนี้ยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยการสนับสนุน SDG 13: การดำเนินการเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ SDG 15: ชีวิตบนบก การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเกษตรยั่งยืนและวิธีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานทดแทน การจัดการขยะในฟาร์ม และการเกษตรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

5. การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 17) โครงการนี้ยังเป็นการสร้างความร่วมมือที่สำคัญระหว่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร, หน่วยงานภาครัฐ, และ ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสนับสนุน SDG 17: การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการร่วมมือกันนี้ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนได้อย่างแท้จริง การสร้างพันธมิตรระหว่างภาคการศึกษา ภาครัฐ และภาคประชาสังคมเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสในการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา: งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ร่วมกับ บพท. เปิดตัวโครงการวิจัย ‘แก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จในภาคเหนือตอนล่าง’

โครงการวิจัย “การศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จและแม่นยำภาคเหนือตอนล่าง: กรณีศึกษาจังหวัดพิษณุโลก” ซึ่งจัดโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยนเรศวร ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำวิจัยและนวัตกรรมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับท้องถิ่น โครงการนี้มีเป้าหมายสำคัญในการศึกษาปัญหาความยากจนในภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อน โครงการนี้ไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ แต่ยังสอดคล้องกับหลายเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 1 (การขจัดความยากจน), SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ), และ SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี)

1. แก้ไขปัญหาความยากจน: มุมมองจากโครงการวิจัย: การดำเนินโครงการวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายหลักในการพัฒนากลยุทธ์การแก้ไขปัญหาความยากจนในภาคเหนือตอนล่าง โดยเฉพาะในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความท้าทายหลายด้าน ทั้งความไม่เสมอภาคในการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ การขาดแคลนทรัพยากร และขาดทักษะในการสร้างอาชีพที่ยั่งยืน การศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนในครั้งนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนานโยบายและกลยุทธ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในพื้นที่ โดยมองปัญหาความยากจนในหลายมิติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษา การเสริมสร้างทักษะ และการเข้าถึงบริการพื้นฐานที่จำเป็น เช่น น้ำ, พลังงาน, และการดูแลสุขภาพ

2. การสอดคล้องกับ SDG 1: การขจัดความยากจน: โครงการวิจัยนี้มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับพื้นที่ผ่านการให้ความรู้และทักษะแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยหรือขาดโอกาสในการพัฒนาอาชีพและการศึกษา การพัฒนากลยุทธ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเบ็ดเสร็จและแม่นยำนั้น เป็นการช่วยเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับบริบทของท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้ชุมชนสามารถพัฒนาความสามารถในการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน การออกแบบแนวทางการแก้ไขความยากจนที่มีประสิทธิภาพนี้ เป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ SDG 1: การขจัดความยากจน ซึ่งมุ่งหวังให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้นและเข้าถึงโอกาสที่เท่าเทียมกัน

การพัฒนาในรูปแบบนี้จะช่วยให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการศึกษา ทักษะการประกอบอาชีพ และแหล่งทรัพยากรที่จำเป็นต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งสามารถนำไปสู่การยุติความยากจนในระดับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

3. การลดความเหลื่อมล้ำ: SDG 10: โครงการวิจัยนี้ยังเชื่อมโยงกับ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมุ่งเน้นการลดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจแตกต่างกันในพื้นที่ การศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในด้านต่าง ๆ เช่น การศึกษาไม่เท่าเทียม การขาดทักษะทางวิชาชีพ หรือการขาดแคลนโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรพื้นฐานที่จำเป็น เช่น น้ำ, พลังงาน, การดูแลสุขภาพ, การศึกษา และการมีงานทำ เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในชุมชน

การสร้างโอกาสในการพัฒนาโดยการให้ความรู้และทักษะ การส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา และการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ต่าง ๆ จะช่วยลดช่องว่างเหล่านี้และทำให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่มีคุณภาพและมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน การลดความเหลื่อมล้ำในสังคมถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสังคมที่ยุติธรรมและยั่งยืน

4. การเสริมสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืน: SDG 8: การวิจัยและผลลัพธ์จากโครงการนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง โดยการออกแบบแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับทรัพยากรท้องถิ่นและความสามารถของชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนเป็นการส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืนและการสร้างงานในชุมชน ถือเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระดับท้องถิ่น

การวิจัยนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนท้องถิ่น แต่ยังช่วยให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดการพึ่งพิงจากภายนอก และสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน SDG 8: การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี ได้รับการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพผ่านการสนับสนุนการพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมกับทรัพยากรในพื้นที่

5. บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน: มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาหลักในภาคเหนือตอนล่าง มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการวิจัยและการพัฒนาในพื้นที่ ศาสตราจารย์ ดร.จิรวัฒน์ พิระสันต์ หัวหน้าโครงการวิจัย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ข้อมูลวิจัยที่มีความแม่นยำในการออกแบบนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยระบุว่า “การใช้วิจัยในเชิงลึกเป็นเครื่องมือในการพัฒนาที่ยั่งยืน จะช่วยให้เราเข้าใจปัญหาความยากจนในแต่ละพื้นที่ได้ดีขึ้น และสามารถออกแบบมาตรการที่ตรงกับความต้องการของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

การทำงานร่วมกับ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) และการนำองค์ความรู้ทางวิชาการมาใช้ในการพัฒนาชุมชน ถือเป็นการขับเคลื่อน SDG 17: การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการสร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย, หน่วยงานภาครัฐ, และภาคเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

โครงการวิจัยนี้จึงเป็นการนำวิจัยและนวัตกรรมมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับบริบทท้องถิ่น ถือเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกด้าน

รับสมัคร นักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ทุน กสศ. ปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 ทุน

มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เปิดรับสมัครนักศึกษาสำหรับ หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล (PNNU) รุ่นที่ 15 สำหรับปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 ทุน โดยมอบ ทุนการศึกษาเรียนฟรี 1 ปี พร้อมทั้งมี เงินเดือนให้ระหว่างการเรียน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่มีความสนใจในการประกอบอาชีพผู้ช่วยพยาบาล และต้องการได้รับการสนับสนุนด้านการศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความตั้งใจและผลการเรียนที่ดี

ส่งเสริม SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ

ทุนการศึกษานี้เป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้าง SDG 4 หรือ การศึกษาที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ มหาวิทยาลัยนเรศวรตระหนักถึงความสำคัญของการให้โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาในสาขาวิชาชีพที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน การให้ทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาที่มีฐานะยากจน แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะและความสามารถในการทำงานที่มีคุณภาพ ซึ่งจะมีผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้เรียนและชุมชนในระยะยาว

สร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ำ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ

ทุนการศึกษานี้ยังสอดคล้องกับ SDG 10 หรือ ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการให้โอกาสทางการศึกษากับกลุ่มนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความสามารถและตั้งใจจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะในสาขาวิชาชีพที่มีความสำคัญต่อสังคม เช่น อาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่ขาดแคลนในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลและหน่วยงานด้านสาธารณสุข การให้ทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ลดความเหลื่อมล้ำทางด้านการศึกษา แต่ยังช่วยเสริมสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสทางการงานที่ดีขึ้น และสามารถยกระดับชีวิตทางเศรษฐกิจและสังคมได้

ข้อมูลและคุณสมบัติของผู้สมัคร

ทุนการศึกษานี้เปิดรับสมัครสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ และมีผลการเรียนดี ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ของการขับเคลื่อน SDG 10 ในการลดช่องว่างทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยให้โอกาสแก่นักศึกษาที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทรัพยากรในการศึกษาต่อในระดับสูงได้มีโอกาสศึกษาต่อและพัฒนาทักษะในอาชีพผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงในภาคการแพทย์และการสาธารณสุข

ผู้สมัครต้องเป็นผู้ที่รักในอาชีพผู้ช่วยพยาบาลและมีความตั้งใจที่จะพัฒนาตนเองในสายอาชีพนี้ โดยการเข้าศึกษาในหลักสูตรที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในวงการการแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถในการทำงานได้อย่างมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของสังคม

การเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 17: การสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

ทุนการศึกษานี้ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างพันธมิตรที่สำคัญระหว่างมหาวิทยาลัย, นักศึกษา, และหน่วยงานต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนการศึกษาและการพัฒนาที่ยั่งยืน มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมมือกับ กองทุนส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต (กสศ.) ในการให้ทุนการศึกษานี้ ซึ่งเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยไม่แบ่งแยกทางเศรษฐกิจและสังคม

ทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ของมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาอาชีพที่มีคุณภาพและยั่งยืนให้กับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองในสาขาอาชีพที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคม การมอบทุนการศึกษานี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาทักษะเพื่อรองรับตลาดแรงงานที่ต้องการความสามารถในด้านการแพทย์และสาธารณสุข

โครงการนี้จึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน SDG 4 และ SDG 10 โดยให้โอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสร้างความเท่าเทียมในสังคม รวมถึงการสร้างอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับผู้เรียนในอนาคต.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ผ่านทาง Line OA : https://lin.ee/e6DDQaJ หรือ Line OA: @694nsyob
ติดตามข่าวสารผ่านเพจ หลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ม.นเรศวร PNNU >> https://web.facebook.com/profile.php?id=100090172741425
เข้าไปสมัครด่วนเลยจ้าหรือติดตามข้อมูลได้ที่เว๊บไซต์คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

การจัดพิธีปฐมนิเทศนิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2566 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ที่มีความสามารถ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะในด้าน SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) และ SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ)

ส่งเสริมการศึกษาเพื่อความยั่งยืน (SDG 4)

ในปีการศึกษา 2566 กองกิจการนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรได้มอบ ทุนการศึกษา 3 ประเภท รวมทั้งสิ้น 146 ทุน โดยมีมูลค่ารวมกว่า 1.12 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย:

  • กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 124 ทุน มูลค่า 1,000,000 บาท
  • ทุนการศึกษา รศ.ดร.แมรี่ สารวิทย์ จำนวน 2 ทุน มูลค่า 20,000 บาท
  • ทุนการศึกษาเพื่อนิสิตกิจกรรม จำนวน 20 ทุน มูลค่า 100,000 บาท

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การสนับสนุนทางการเงิน แต่ยังเป็นการส่งเสริมการศึกษาในระดับที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนานิสิตให้มีทักษะและความรู้ที่จำเป็นในตลาดแรงงาน ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ ที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นในการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ทุกคน โดยไม่ให้การขาดแคลนทรัพยากรเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนการศึกษาเหล่านี้ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยการมอบทุนให้กับนิสิตที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีโอกาสได้เรียนต่อและพัฒนาทักษะการทำงานที่สำคัญ การให้ทุนดังกล่าวถือเป็นการดำเนินการตาม SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนา สามารถเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาตนเองได้โดยไม่ถูกจำกัดด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ

การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

การมอบทุนการศึกษาในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยการให้โอกาสแก่นิสิตในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น และมีส่วนในการพัฒนาสังคมให้เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในอนาคต นอกจากนี้ การมีทุนการศึกษาสำหรับกิจกรรมและกิจกรรมพัฒนาผู้นำ ก็เป็นการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันในชุมชน ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สำคัญในการสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

ที่มา: กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร

รับสมัครทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ และทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 23 ทุน

การรับสมัคร ทุนการศึกษานิสิตคณะวิทยาศาสตร์ จำนวน 15 ทุน เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาและพัฒนานิสิตอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งเน้นให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ให้การขาดแคลนทุนทรัพย์เป็นอุปสรรคในการพัฒนา

การศึกษาที่มีคุณภาพเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน (SDG 4)

ทุนการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์หลักในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ นิสิตที่มีผลการเรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตเหล่านี้สามารถศึกษาต่อในระดับสูงโดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาทางการเงิน ความสามารถทางวิชาการของนิสิตที่มีคะแนนเฉลี่ย 2.00 ขึ้นไป นับเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการศึกษาของนิสิต ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4 (การศึกษาที่มีคุณภาพ) ที่ส่งเสริมให้เกิดการศึกษาที่มีคุณภาพและสามารถพัฒนาศักยภาพของบุคคลให้เต็มที่

นอกจากนี้ การที่นิสิตต้อง เข้าร่วมกิจกรรมของภาควิชาหรือคณะ หรือ บำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชน ยังช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ที่หลากหลายและการพัฒนาทักษะชีวิตอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น ทักษะการทำงานเป็นทีม การบริหารเวลา และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการสร้างความยั่งยืนทั้งในระดับบุคคลและสังคม

การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนการศึกษานี้ยังช่วยส่งเสริม SDG 10 (ลดความเหลื่อมล้ำ) โดยการให้โอกาสทางการศึกษากับนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีความสามารถทางวิชาการและความตั้งใจที่จะเรียนรู้ ทุนการศึกษานี้เป็นการลดช่องว่างในโอกาสทางการศึกษาที่เกิดจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ช่วยให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถพัฒนาตนเองได้ตามศักยภาพ โดยไม่ถูกจำกัดจากปัญหาทางการเงิน

การพัฒนาโอกาสให้กับนิสิตที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในด้านการศึกษาและความประพฤติที่ดี ถือเป็นการเสริมสร้างสังคมที่มีความยั่งยืนและเท่าเทียมกันทางด้านการศึกษา นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนานิสิตให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ สามารถนำความรู้และทักษะที่ได้รับจากการศึกษามาใช้ในการพัฒนาสังคมต่อไป

การสร้างแบบอย่างในสังคมที่ยั่งยืน

การกำหนด คุณสมบัติที่สำคัญ ของผู้สมัคร เช่น ความประพฤติดี มีความขยันอดออม และไม่เคยถูกลงโทษทางวินัย เป็นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในนิสิต ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการสร้างบุคลากรที่ดีต่อสังคม การมีความประพฤติดีและการแต่งกายที่ถูกต้องตามกาลเทศะ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนิสิตในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัย แต่ยังช่วยส่งเสริมการสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบและยั่งยืน

รับสมัครตั้งแต่ 27 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2566
รายละเอียดการรับสมัคร คลิ๊ก >>> https://drive.google.com/…/1CdUZTVe4AoGHxeekVHvZB2wY6eI…
งานกิจการนิสิต และศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร โทร 055963150-2

ม.นเรศวร จัดปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566

การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 โดยกองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร ผ่าน Microsoft Teams ถือเป็นการดำเนินการที่สำคัญในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาของนิสิตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีความสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ และ SDG 10: ลดความเหลื่อมล้ำ ที่มุ่งหวังให้การศึกษามีความเท่าเทียมและสามารถเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 4)

โครงการปัจฉิมนิเทศนิสิต กยศ. จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนิสิตที่ได้รับทุนจากกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ให้มีความเข้าใจในการใช้ทุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวางแผนการเงินและการเรียนรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับทุนกู้ยืมในอนาคต การจัดโครงการนี้ผ่านระบบออนไลน์ (Microsoft Teams) ยังเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงข้อมูลและการเรียนรู้ได้อย่างสะดวกสบายและครอบคลุม ซึ่งสอดคล้องกับ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยการสนับสนุนการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มโอกาสการเรียนรู้

ในโครงการนี้ นิสิตจำนวน 1,296 คนเข้าร่วมการปัจฉิมนิเทศ โดยการอบรมและการทดสอบผ่านระบบออนไลน์แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของมหาวิทยาลัยในการสร้างพื้นฐานการศึกษาที่มีคุณภาพให้กับนิสิตทุกคน โดยเฉพาะนิสิตที่ได้รับทุน กยศ. ซึ่งเป็นทุนที่ช่วยให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถศึกษาได้อย่างมีคุณภาพ

ลดความเหลื่อมล้ำและส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา (SDG 10)

ทุนกยศ. ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ลดความเหลื่อมล้ำ ในการเข้าถึงการศึกษา การจัดโครงการปัจฉิมนิเทศนี้มีบทบาทในการช่วยให้ผู้ที่ได้รับทุนสามารถใช้ประโยชน์จากทุนได้อย่างเต็มที่ โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการชำระหนี้ กฎเกณฑ์การกู้ยืม และแนวทางในการบริหารจัดการการเงิน ซึ่งช่วยให้ผู้รับทุนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินและการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาความสามารถในการจัดการการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการดำรงชีวิตในอนาคต

การใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและการเข้าถึงข้อมูล

การจัดโครงการผ่าน Microsoft Teams ยังสะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีในการเสริมสร้างการศึกษาให้เข้าถึงได้มากขึ้น และช่วยให้การเรียนรู้ไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน แต่สามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงไปยังนิสิตทุกคนที่ต้องการข้อมูลในรูปแบบออนไลน์ การเข้าร่วมโครงการออนไลน์จำนวนมาก (1,296 คน) และผ่านการทดสอบได้ถึง 1,281 คน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของโครงการในการเข้าถึงผู้เรียนในวงกว้าง และสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ

สร้างความยั่งยืนในระบบการศึกษา

โครงการนี้ยังสะท้อนถึงการสร้าง สังคมแห่งการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการพัฒนานิสิตให้มีความรู้และทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะในด้านการจัดการการเงินและการบริหารทรัพยากร ในที่สุด โครงการนี้ช่วยให้นิสิตสามารถใช้ทุนการศึกษาอย่างมีความรับผิดชอบและทำให้สามารถสำเร็จการศึกษาได้อย่างราบรื่น

ที่มา: งานส่งเสริมการจัดการศึกษา กองบริการการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร

ม.นเรศวร ผนึกกำลังพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนสู่ความยั่งยืน ผ่านโครงการ “ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น”

ในวันที่ 12 กันยายน 2566, มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การดำเนินงานของ อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดกิจกรรม พิธีนำเสนอผลสัมฤทธิ์โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ประจำปี 2566 ซึ่งมี ดร.ปัญญวัณ ลำเพาพงศ์ รองผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการเสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้ก้าวสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านการเรียนรู้และการประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาในระดับท้องถิ่น โดยมีการนำเสนอนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาโดยนิสิตจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย

การสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนและการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 1): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น เป็นโครงการที่มีการสนับสนุนจาก ธนาคารออมสิน และมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถยกระดับเศรษฐกิจในชุมชนต่างๆ ให้เติบโตและยั่งยืน โดยมีการแบ่งการนำเสนอผลงานออกเป็น 5 ทีมจาก 5 ชุมชนทั่วประเทศ ผลิตภัณฑ์และบริการที่ถูกพัฒนามีทั้งในด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และงานหัตถกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของชุมชน ผ่านการสร้างรายได้และเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงการมีส่วนร่วมของมหาวิทยาลัยในกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนตาม SDG 1 (การขจัดความยากจน) โดยตรง โดยช่วยให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้จากทักษะและทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทั้งนี้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างยั่งยืนถือเป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ

การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม (SDG 4): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ยังมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของนิสิตและประชาชนในชุมชน ผ่านการให้ความรู้ด้านการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน การร่วมงานกับชุมชนในโครงการนี้ทำให้นิสิตมีโอกาสในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแต่ส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยในการเรียนรู้ด้านการจัดการทรัพยากร การพัฒนานวัตกรรม และการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ

SDG 4 (การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต) เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่โครงการนี้ตอบสนองโดยตรง เพราะนิสิตที่เข้าร่วมโครงการได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำงานในสถานการณ์จริง ซึ่งส่งเสริมให้พวกเขาพัฒนาในด้านการคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกับผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้และการใช้ความรู้ที่มีคุณค่าในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

การสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน (SDG 8): โครงการ ออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น นอกจากจะมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนแล้ว ยังมีการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนผ่านการสร้างนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตในระยะยาว โครงการนี้ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนา กิมจิ@ร่องกล้า ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จาก วิสาหกิจชุมชนซากุระญี่ปุ่น ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ และจะได้เป็นตัวแทนจากธนาคารออมสิน ภาค 7 ไปแข่งขันในระดับประเทศต่อไป

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดท้องถิ่นและตลาดต่างประเทศ ทำให้เกิดการสร้าง งาน และ อาชีพ อย่างยั่งยืน ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้และเสริมสร้างฐานเศรษฐกิจให้มั่นคงตามหลัก SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี) ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนาไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อชุมชนที่เกี่ยวข้อง แต่ยังช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของชุมชนในระดับที่กว้างขึ้น

ผลลัพธ์จากการประกวดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์: ในปีนี้ ทีม SD ยุวพัฒน์@NU จาก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ “กิมจิ@ร่องกล้า” สำหรับวิสาหกิจชุมชนซากุระญี่ปุ่น ได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท และจะได้เป็นตัวแทนจากธนาคารออมสิน ภาค 7 ไปแข่งขันในระดับประเทศ ในขณะเดียวกันทีม PolSci Connect และ พายใจไปล่องแก่งจินดา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ซึ่งการได้รับรางวัลเหล่านี้ไม่เพียงแค่ยืนยันถึงความสำเร็จของโครงการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า แต่ยังสะท้อนถึงการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมที่สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนได้จริง

บทบาทของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการขับเคลื่อน SDGs: มหาวิทยาลัยนเรศวรได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการศึกษา การวิจัย และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนผ่านโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับ SDG 1 (การขจัดความยากจน), SDG 4 (การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต), และ SDG 8 (การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและการทำงานที่ดี) โครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ ของนิสิตและประชาชนในชุมชน

ที่มา: อุทยานวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร 

มอบทุนการศึกษาให้กับนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนเงิน 125,000 บาท

สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร และชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย มอบทุนการศึกษาให้กับนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นจำนวนเงิน 125,000 บาท จากการจัดกิจกรรมในรอบปีที่ผ่านมา

มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอขอบคุณสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร นำโดยคุณจิตมากร รอบบรรเจิด นายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคม ฯ และชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย นำโดย ดร.ถวิล น้อยเขียว ประธานชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย พร้อมด้วยคณะกรรมการ ฯ เข้ามอบทุนการศึกษาให้แก่นิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวนทั้งสิ้น 28 ทุน แบ่งเป็น
1. ทุนจากสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 23 ทุน ๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 115,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวมาจากการจัดคอนเสิร์ตคาราบาวของสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 โดยเปิดรับสมัครนิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แต่เรียนดี จากทุกคณะ ทุกชั้นปี เพื่อเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์และคัดเลือก จากสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร
2. ทุนชมรมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดสุโขทัย จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวมาจากการจัดการแข่งขันวิ่ง NU ST RUN 2023 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย โดยการคัดเลือกจากคณะกรรมการกลางสอบสัมภาษณ์นิสิตทุนการศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวร ในระหว่าง 7 – 9 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ศรินทร์ทิพย์ แทนธานี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ดร.จรัสดาว คงเมือง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานิสิต ศิษย์เก่า และศิลปวัฒนธรรม ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา 3 ชั้น 3 สำนักงานอธิการบดี

ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

**ผู้บริจาคขอหักลดหย่อนภาษีประจำปีได้ 2 เท่า**
สามารถดาวโหลดแบบฟอร์มการบริจาคได้ที่ bit.ly/3F2r0XC กองทุนการศึกษาเพื่อนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

งานบริการสวัสดิการนิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดูแลการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นิสิตที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน ให้สามารถใช้ชีวิต ในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีความสุขและสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตร รวมถึงการจัดหาแหล่งทุนการศึกษาให้กับนิสิต ควบคุมการเบิกจ่ายเงินทุนการศึกษา พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านทุนการศึกษาแก่นิสิต และติดตามประเมินผลการศึกษานิสิตที่ได้รับทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

ติดต่อเพื่อบริจาคทุนการศึกษาได้ที่ กองกิจการนิสิต สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร 99 หมู่9 ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก 65000 งานบริการสวัสดิการนิสิต โทร. 0-5596-1216, 1211 งานศิษย์เก่าสัมพันธ์ โทร. 0-5596-1225

ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านนักศึกษาทุน กยศ. เสริมสร้างโอกาสการศึกษาและพัฒนาอนาคต

การติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลภายใต้โครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงในวันที่ 7-8 กันยายน 2566 ที่จัดขึ้นโดยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ, และ SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยนเรศวรในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาอาชีพที่ยั่งยืนให้กับนักศึกษาทุกคน

การดำเนินงานของโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงและหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลในคณะพยาบาลศาสตร์ มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและความต้องการของตลาดแรงงาน ทั้งยังมีการสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะในด้านต่างๆ เช่น การดูแลความเป็นอยู่และสวัสดิภาพของนักศึกษา รวมถึงการจัดการเรียนการสอนที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งส่งผลต่อการเสริมสร้างทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพได้อย่างมีคุณภาพ

การติดตามและประเมินผลในครั้งนี้ช่วยให้คณะพยาบาลศาสตร์สามารถนำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมและทันสมัยยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้การศึกษาเป็นไปตามเป้าหมายของ SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ โดยมุ่งเน้นให้การเรียนการสอนเป็นไปในทิศทางที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนและตลาดงานในอาชีพด้านการพยาบาลอย่างยั่งยืน

การให้โอกาสแก่ผู้เรียนในหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลทั้งในด้านการเรียนและการพัฒนาทักษะต่างๆ ถือเป็นการส่งเสริม SDG 5: ความเท่าเทียมทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการสาธารณสุขที่มักมีการจ้างงานในรูปแบบที่คำนึงถึงความเท่าเทียมและไม่แบ่งแยกทางเพศ การพัฒนาทักษะที่เหมาะสมกับงานในสายอาชีพนี้ ช่วยเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมสำหรับนักศึกษาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศใด

การสัมภาษณ์และเยี่ยมบ้านนักศึกษาทุน กยศ. จำนวน 3 ราย ยังช่วยให้คณะพยาบาลศาสตร์ได้ทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และสามารถพัฒนามาตรการสนับสนุนเพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักศึกษาที่อาจประสบปัญหาทางการเงิน ส่งผลให้การศึกษามีความยั่งยืนและเท่าเทียมสำหรับทุกคน

การสร้างโอกาสการมีงานทำและการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอีกหนึ่งจุดมุ่งหมายหลักของหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยการเชื่อมโยงการศึกษาและทักษะที่นักศึกษาได้รับกับการพัฒนาอาชีพในอนาคต นักศึกษาที่จบจากหลักสูตรนี้จะมีโอกาสในการหางานทำในสายงานพยาบาลหรือสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการสนับสนุน SDG 8: การงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ การศึกษาที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานและการสร้างทักษะทางอาชีพให้กับนักศึกษานั้นช่วยให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและช่วยลดปัญหาความยากจนในระยะยาว

การที่คณะพยาบาลศาสตร์มีการติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่ช่วยในการพัฒนาหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียนและสถานประกอบการเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้าง วัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาได้ตามการเปลี่ยนแปลงของสังคมและตลาดแรงงาน การรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาและอาจารย์ที่ปรึกษาผ่านการสัมภาษณ์และเยี่ยมบ้านช่วยให้คณะพยาบาลศาสตร์เข้าใจถึงปัญหาของนักศึกษาในเชิงลึก และสามารถออกแบบมาตรการสนับสนุนที่ตรงประเด็นได้

ที่มา: คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

Sustainability

NARESUAN UNIVERSITY

Solverwp- WordPress Theme and Plugin